คตส.ได้ฤกษ์ส่งอัยการสูงสุดฟ้อง “ทักษิณ” คดีสั่งเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่าเอื้อประโยชน์กลุ่มชินฯ พรุ่งนี้ “สัก” ลั่นมั่นใจสำนวนมัดแน่น ด้าน “แก้วสรร-อุดม” ขวางถอนอายัดเงิน “ลูกเอม” 2 พันล้าน ส่งอนุ กก.รวบรวมเอกสารใหม่ พร้อมเดินหน้าจี้ “สุรยุทธ์” มาให้ถ้อยคำคดี “แม้ว” ซื้อแมนฯ ซิตี
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (9 เม.ย.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่รัฐ (คตส.) แถลงหลังการประชุม คตส.ว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาคำร้องพิสูจน์ทรัพย์เพื่อเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส.ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเพิกถอนการอายัดทรัพย์บริษัท เอส ซี ออฟฟิศ พลาซ่า จำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้มาจากการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แต่ที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่ายังขาดเอกสารหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องหลายรายการ เช่น การจดแจ้งการตั้งบริษัท ชินวัตร แฟมิลี่ แอสเสท ลิมิเต็ด ที่ประเทศอังกฤษ หนังสือผู้ถือหุ้นผู้มีอำนาจเต็ม เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการได้เคยขอเอกสารจาก น.ส.พิณทองทา และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มาแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ดังนั้น ที่ประชุมจึงกำหนดให้อนุกรรมการ เร่งรวบรวมเอกสารดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ หากทั้งสองยังไม่ส่งเอกสารมาให้จะไม่มีการถอนคำสั่งอายัดใช่หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า คนที่มีหน้าที่พิสูจน์ทรัพย์แล้วไม่พิสูจน์ก็คงช่วยอะไรไม่ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้ถกเรื่องนี้กันอย่างหนัก โดย นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการ คตส.ในฐานะอนุกรรมการเพิกถอนทรัพย์ ยืนยันให้ที่ประชุม คตส.พิจารณาเพิกถอนการอายัดทรัพย์ แต่ถูก นายแก้วสรร อติโพธิ นายอุดม เฟื่องฟุ้ง และกรรมการ คตส.คนอื่นคัดค้านอย่างหนัก จนในที่สุดนายวิโรจน์ ต้องยอมที่จะกลับไปรวมรวมเอกสารเพิ่มเติม
สำหรับความคืบหน้าในการส่งสำนวนคดีการปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือเอ็กซิมแบงก์ ให้กับอัยการสูงสุดพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลนั้น นายสัก กล่าวว่า คตส.จะส่งสำนวนดังกล่าวให้อัยการสูงสุดในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 10 เม.ย.โดยอัยการสูงสุดมีเวลาในการพิจารณา 30 วัน หากมีปัญหาจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่ายพิจารณาหาทางออกต่อไป ทั้งนี้มั่นใจว่าทุกสำนวนที่ คตส.ทำมีความสมบูรณ์
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ทาง คตส.ยังคงยืนยันเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ มาให้ข้อมูลในฐานะพยานในกรณีการซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า คงต้องดำเนินการเหมือนเดิม โดย นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ที่ดูแลเรื่องนี้ต้องทำงานต่อ
ตื่นข่าวลอบเผาเอกสาร คตส. ย้ายที่เก็บ-ตรึงกำลังรปภ.เข้ม
รายงานข่าวจาก คตส.แจ้งว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหาร ที่มารักษาความปลอดภัยให้กับ คตส. ได้ถอนกำลังออกไปจากอาคาร สตง. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน ทาง สตง. ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ภายใน สตง.ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมาถึง เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงของ สตง. ได้รับแจ้งข่าวทางลับว่า อาจจะมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้น กับอาคาร สตง. โดยเฉพาะการลอบวางเพลิง เพื่อเผาทำลายเอกสารการตรวจสอบคดีสำคัญต่างๆ ของ คตส. ที่เก็บรักษาไว้ที่อาคาร สตง.
เบื้องต้นทาง สตง. จึงต้องมีการเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบบุคคลที่จะเข้าผ่านในอาคาร สตง. ที่จะต้องมีการพบบัตรแสดงตัวทุกคน กระเป๋าเอกสารทุกใบจะต้องผ่านการตรวจต้นจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และในเร็วๆ นี้ ก็จะมีการประชุมซ้อมแผนรับมือป้องกันการเกิดไฟไหม้ ในอาคาร สตง.ด้วย
ข่าวแจ้งว่า ส่วนมาตรการเก็บรักษาเอกสารการตรวจสอบคดีสำคัญนั้น ล่าสุดทาง สตง.ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ สตง. ที่เข้าไปทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะอนุกรรมการตรวจสอบและไต่สวนแต่ละคดี ให้ถ่ายสำเนาเอกสารการตรวจสอบคดีต่างๆ ไว้ ในขณะที่เอกสารตัวจริง จะมีการนำไปกลับรักษาไว้ ในสถานที่ปลอดภัย นอกอาคาร สตง. ซึ่งขณะนี้ ก็เริ่มมีการขนย้ายออกไปบ้างส่วนแล้ว
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และกรรมการ คตส. กล่าวว่า ขณะนี้สตง.ได้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบบุคคลที่จะเข้าผ่านในอาคาร สตง. และสั่งห้ามพนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคนห้ามดื่มเหล้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกชนิด
“ ในฐานะที่ตนเป็นผู้ว่า สตง.อยากขอความร่วมมือกับประชาชนทุกคน หากเดินทางไปมาผ่าน สตง.ในช่วงสงกรานต์ ขอให้สอดส่องดูแล สตง. ด้วย เพราะเกรงว่าจะมีการวางเพลิงที่ สตง.เกิดขึ้น” คุณหญิงจารุวรรณกล่าว และว่า ส่วนเอกสารตรวจสอบคดีสำคัญต่างๆ ของ คตส. ที่เก็บรักษาไว้ที่อาคาร สตง. จะนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย แต่บอกในรายละเอียดไม่ได้ว่าจะไปเก็บไว้ที่ใด