“ศิษย์โหร คมช.” สวดยับ “หมัก” ปากพล่อย เหตุใช้คำรุนแรงตอบโต้คำทำนาย “อาจารย์วารินทร์” ตอกซ้ำไร้สาระ-ขาดภาวะผู้นำ ชี้ชัดเป็นตัวการทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม
วานนี้ (6 เม.ย.) นายปราโมทย์ สมัครการ ลูกศิษย์ อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดัง และ เลขาธิการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี วิพากษ์วิจารณ์คำทำนายของ อ.วารินทร์ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า อ.วารินทร์ ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับคำพูดของนายกฯ เพราะ อ.วารินทร์ ทำเพื่อส่วนรวม และทำเพื่อพุทธศาสนา วันนี้มีข้าราชการมาเป็นจำนวนมาก แต่มาแบบลักษณะกลัว เพราะเกรงว่าจะไปปรากฏบนจอทีวี จะทำให้ถูกหมายหัวจากฝ่ายการเมือง
“คนที่มาร่วมงานมีความรู้สึกกลัว บางคนจะหลบข้างหลัง กลัวว่าหากมีภาพปรากฏออกทางสื่อแล้วจะเสียหาย เขาจะโดนหมายหัวแน่ เพราะบางคนเป็นข้าราชการ โดยเฉพาะขณะที่มีการทำพิธีเททองหล่อในช่วงเช้า ข้าราชการที่มาร่วมงานไม่ค่อยมีใครกล้าขึ้นไป แม้แต่นางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภริยา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ยังเอาพัดมาปิดหน้าเพื่อกันไม่ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ทั้งๆ ที่ผมเห็นว่าคนที่มาร่วมงานไม่ได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหาย เพราะเรามาทำบุญกัน” นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า อ.วารินทร์ ไม่ได้มีการปิดกั้นอะไร เชิญให้สื่อเข้ามาทำข่าว เพราะ อ.วารินทร์ ไม่ได้ไปมุ่งหวังที่จะล้มล้างใคร เท่าที่ติดตามตนเห็นว่าทุกฝ่ายที่เข้ามาหา อ.วารินทร์ ไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายใด ข่าวที่เกิดขึ้น อ.วารนิทร์ บอกว่าไม่ได้พูดแบบนั้น คงจะมีการสื่อความหมายผิด ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าการที่นายกฯ พูดแบบนี้ จะทำให้เกิดความแตกแยก อ.วารินทร์ และคณะกรรมการ พยายามทำอย่างไรเพื่อให้แผ่นดินมีความสงบสุขเท่านั้น และเป็นการทำประจำปีอยู่แล้ว งานที่วิหารปู่เกวาลันมีการจัดงาน 3 ครั้งต่อปี ซึ่งเราทำประจำ ไม่ได้ทำอะไรที่ผิด
“หลังจากที่นายสมัครออกมาวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะทำให้หลายคนที่จะเดินทางมาร่วมงานทุกครั้งก็จะไม่กล้ามา และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ก็จะไม่มา เพราะนายกฯ มีการส่งสัญญาณในลักษณะแบบนี้ ก็อาจจะไม่กล้ามาร่วมงานหลายคน ทั้งนี้เท่าที่ติดตามนายสมัคร มีการเรียก อ.วารินทร์ ว่า “ไอ้โหร” ผมเห็นว่าคนที่เป็นนายกฯ ไม่สมควรพูดแบบนี้ แสดงว่าวุฒิภาวะไม่พอ เป็นนายกฯ ไร้สาระ ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้คงไม่จบ ถ้านายกฯ พูดไม่ได้ดูข้อเท็จจริง สิ่งสำคัญที่สุดเราทำอยู่ในรัฐบาลท้องถิ่น หากรัฐบาลท้องถิ่นเข้มแข็ง รัฐบาลก็อยู่ได้ ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกแยก และสิ่งที่ อ.วารินทร์ ทำนั้นก็เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ของประเทศ” นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ถ้าตนเจอนายกฯ จะตอกหน้าสมัครว่า “คุณเป็นใคร ถึงได้มาพูดแบบนี้” รวมถึงสมาชิกพรรคที่พูดออกมาอย่างไรก็จะต้องได้อย่างนั้น เขาพูดจะทำให้เกิดความเสียหาย คนที่พูด รู้หรือไม่ว่าหัวหน้าพรรคที่แท้จริง คือใคร เป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ โดยเฉพาะกับ อ.วารินทร์ ซึ่งลูกพรรคเขาก็ไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ขนาดคุณหญิงพจมานก็ยังเข้ามาหา อ.วารินทร์ อยู่บ่อยครั้ง อยากถามกลับไปว่า คุณรู้หรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้อย่างไร มีการเคลียร์กันอย่างไร รวมถึงใครเป็นคนประสานงานรู้หรือไม่ อันนี้ถือเป็นปริศนาที่ไม่มีใครรู้
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะเดินทางเข้าพบ อ.วารินทร์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ นายปราโมทย์ กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ แต่จะเข้าพบ อ.วารินทร์ หรือไม่ ตนบอกไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ก็เข้าพบ อ.วารินทร์ อยู่เป็นประจำ ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน
“ผมเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของ อ.วารินทร์ ผมเห็นว่าการกระทำ หรือคำพูดของของคนที่เป็นถึงผู้นำ ไม่น่าจะพูดจาพล่อยๆ ปากเสีย และถ่อยอย่างนี้ การที่นายสมัคร ออกมาพูดว่า “ไอ้โหร” ผมในฐานะลูกศิษย์ผมก็อยากจะเรียนนายสมัคร ว่า “ไอ้นายกฯ” ก็ถ่อยเช่นกัน อ.วารินทร์มีลูกมีลูกศิษย์เยอะ นายสมัครพูดแบบนี้จะทำให้เกิดความแตกแยก ทั้งๆ ที่ อ.วารินทร์ ทำเพื่อประเทศชาติ แต่คุณสมัครพยายามทำให้เกิดความแตกแยก และการที่นายสมัคร ออกมาพูดในลักษณะแบบนี้จะมีเหล่าสมาชิกพรรค และลิ่วล้อออกมาแสดงความเห็นเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง” นายปราโมทย์ กล่าว