กทม. ยันจัดซื้อจัดจ้าง รถเมล์ BRT โปร่งใส เตรียมฟ้องกลับ"ณฑนนท" หากผลสอบออกมาว่า กทม.ไม่ผิด เชื่อเรื่องนี้อาจเกี่ยวโยงกับการเมือง เหตุโครงการนี้เป็นผลงานชิ้นสำคัญของผู้ว่าฯ"อภิรักษ์" ชี้หากโครงการล่าช้าจะเสียความน่าเชื่อถือ ส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองผู้บริหาร กทม.ชุดนี้
จากกรณีที่โครงการรถเมล์ BRT ต้องระงับโครงการชั่วคราว เนื่องจากคุณหญิงณฑนนท ทวีสิน อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ไปยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าโครงการดังบกล่าวอาจมีการจัดซื้ออย่างไม่ถูกต้อง
วานนี้ (3เม.ย.) นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรองสถานการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ดำเนินรายการโดย นายอดิศักดิ์ ศรีสม ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทาง กทม. ไม่ได้มีการฮั้วประมูลอย่างที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่าการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ เป็นไปอย่างโปร่งใส แม้คุณหญิงณฑนนทจะกล่าวหาว่าสเปกรถที่ทาง กทม.ใช้มีราคาแพงเกินไป แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ หากไปดูที่ต่างประเทศก็จะเห็นว่าราคาของรถที่มีคุณภาพตามที่ กทม.คิดแล้วว่ามีความปลอดภัย และเหมาะสมที่สุดก็จะราคาเท่านี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องของบริษัทที่ได้รับสัมปทานนั้น ก็ทำอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน ไม่มีการฮั้วประมูลอย่างแน่นอน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ทาง กทม.มีความมั่นใจว่าจะสามารถ ตอบทุกข้อสงสัยของทุกฝ่ายได้
ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ โครงการรถเมล์ BRT จะต้องหยุดการดำเนินงาน 15 วัน เพื่อที่จะให้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมีปลัด กทม.เป็นประธานการตรวจสอบ จากนั้นก็จะรวบรวมข้อมูลของการจัดซื้อจัดจ้างเข้าชี้แจงต่อดีเอสไอ
ต่อคำถามที่ว่า ในเมื่อดำเนินโครงการนี้อย่างโปร่งใส เหตุใดจึงมีการร้องเรียนขึ้นมา รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า “ผมก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ซึ่งผลงานชิ้นนี้ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญ และใกล้จะเสร็จแล้ว ซึ่งหากโครงการนี้สะดุด หรือไม่ประสบผลสำเร็จ ก็จะส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของผู้บริหารชุดนี้ด้วย ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่มันก็เป็นสิ่งที่มองได้ ”
ส่วนเรื่องที่จะฟ้องกลับนั้น ทาง กทม. ก็มีการเตรียมการอยู่ คือต้องดูว่าในข้อมูลหรือเอกสารที่คุณหญิงณฑนนทนำไปยื่นต่อดีเอสไอนั้นมีเอกสารเท็จหรือไม่ คืออย่างไรก็คงต้องฟ้องกลับ ในเมื่อมีการมาทำให้ กทม.เสียหาย
