ผบ.ทบ.ควงแม่ทัพภาคที่ 1 ภาค 2 และภาค 3 ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ยอมรับยังมีจุดบกพร่องที่ต้องปรับปรุงโดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างผู้บังคับบัญชาผู้ปฏิบัติ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมด้วย พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.สุจิตร สุทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 และพล.ท.สำเริง ศิวาดำรง แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินกรมการขนส่งทหารบก หรือ ขส.ทบ. เพื่อลงพื้นที่ภาคใต้ โดยมีกำหนดการไปร่วมประชุมกับนายทหารระดับผู้บังคับกองพันที่ค่ายสิรินธร จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เปิดเผยว่า การลงไปในพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามการปฏิบัติงาน รวมถึงประเมินสถานการณ์ และผลการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ว่าถูกต้องและยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ เพื่อที่จะนำข้อมูลไปปรับปรุงให้เหมาะสม
ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ยังรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องการสื่อสารระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ปฏิบัติที่ยังไม่ลงตัว เพราะที่ผ่านมา กองทัพต้องการใช้แนวทางสันติเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังพบว่า มีการกระทำที่อยู่นอกเหนือกฏหมายของผู้ปฏิบัติดังนั้นจึงมีความกังวลในจุดนี้ แต่ไม่ใช่การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่เป็นเรื่องของการทำตามคำสั่งแต่ไม่ละเอียดเพียงพอดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจ
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับอุปกรณ์พิเศษที่จะนำลงไปใช้แก้ไขปัญหาภาคใต้ รัฐบาลได้ให้แนวทางไว้แล้วว่า หากมีสิ่งใดที่ต้องการก็พร้อมที่จะสนับสนุน ซึ่งขณะนี้กองทัพบกได้หารือกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จึงเห็นว่ามีประมาณ 1-2 รายการที่จำเป็นจะต้องนำมาใช้ โดยจะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื่องจากอุปกรณ์พิเศษดังกล่าว แม้กองทัพจะสามารถผลิตได้เอง แต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ทั้งนี้ก็ได้ให้แนวทางไว้ว่า หากสิ่งใดอุตสาหกรรมทหารสามารถทำได้ ก็พร้อมที่จะนำมาใช้