“พลังแม้ว” เดินหน้าล่าชื่อ ส.ส.พรรคครบ 100 พร้อมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานรัฐสภา เมินคำเตือน “ส.ส.ร.50” แก้ รธน.เพื่อตัวเอง อาจโดนถอดถอน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (2 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาประเด็นการแก้ไขรรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้มี ส.ส.ของพรรคประมาณ 100 คนพร้อมที่จะลงชื่อเพื่อยื่นญัตติ โดยจะรอให้คณะทำงานศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ข้อสรุปในประเด็นที่จะทำการแก้ไขก่อน โดยร่างที่จะเสนอในญัตติฯ จะใช้ร่างกลางที่ได้รับความเห็นชอบของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค
นายวรวัจน์ เปิดเผยอีกว่า ในเวลา 14.00 น.วันนี้ คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลจะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการจัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะนำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ ของคณะทำงานมาพิจารณาร่วมกับความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าการเสนอญัตตินั้นไม่ได้ทำเพื่อตนเอง และไม่ได้ต้องการทำให้เกิดการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน รวมทั้งไม่มีความกังวลกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ส.ร.50 ที่ออกมาเตือนว่าอาจจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและอาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐธรรมนูญอยู่ในหลักนิติรัฐ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (2 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาประเด็นการแก้ไขรรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้มี ส.ส.ของพรรคประมาณ 100 คนพร้อมที่จะลงชื่อเพื่อยื่นญัตติ โดยจะรอให้คณะทำงานศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ข้อสรุปในประเด็นที่จะทำการแก้ไขก่อน โดยร่างที่จะเสนอในญัตติฯ จะใช้ร่างกลางที่ได้รับความเห็นชอบของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค
นายวรวัจน์ เปิดเผยอีกว่า ในเวลา 14.00 น.วันนี้ คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลจะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการจัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะนำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ ของคณะทำงานมาพิจารณาร่วมกับความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าการเสนอญัตตินั้นไม่ได้ทำเพื่อตนเอง และไม่ได้ต้องการทำให้เกิดการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน รวมทั้งไม่มีความกังวลกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ส.ร.50 ที่ออกมาเตือนว่าอาจจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและอาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐธรรมนูญอยู่ในหลักนิติรัฐ
