ทายาทแม้ว ระรื่น อนุฯเพิกถอน ชงที่ประชุมใหญ่ คตส.24 มี.ค.ถอนอายัดกว่า 2 พันล้าน หลัง เอสซีฯโวยเป็นเงินเพิ่มทุน เพื่อดำเนินงานตามปกติ ไม่มีเจตนาซ่อนเร้น พร้อมอ้าง แจ้งข้อมูล ก.พาณิชย์ ก่อน คตส.อายัด
วันนี้ (21 มี.ค.) แหล่งข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ ของ คตส.ที่มี นายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.เป็นประธาน ได้มีการประชุมพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ ในส่วนของบริษัท เอสซี ออฟฟิศ พลาซ่า จำกัด ที่ถูก คตส.อายัดทรัพย์จำนวนกว่า 2 พันล้านบาท โดยหลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้พิจารณาเหตุผล และคำให้การของพยานที่เกี่ยวข้อง จึงมีมติให้เพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของบริษัทจำนวนกว่า 2 พันล้านบาท ตามที่บริษัทร้องขอ
แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ดังกล่าว เพราะทางบริษัทได้อ้างเหตุผลว่า เงินจำนวน 2 พันล้านบาท ที่ คตส.อายัดเอาไว้ โดยระบุว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่ง น.ส.พิณทองทา ได้โอนเข้ามาให้บริษัทนั้น ในข้อเท็จจริงแล้ว เงินจำนวนนี้ น.ส.พิณทองทา ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้โอนเข้ามาเพื่อเป็นการเพิ่มทุนของบริษัท ซึ่งเป็นการดำเนินงานปกติและเปิดเผยไม่มีเจตนาที่จะปกปิดหรือซ่อนเร้น โดยมีการแจ้งข้อมูลไปยังกระทรวงพาณิชย์ ให้ได้รับทราบ และได้มีการเพิ่มทุนไปแล้ว ก่อนที่ คตส.จะออกคำสั่งอายัดทรัพย์ไว้
“นอกจากนี้ ในขั้นตอนการอายัดทรัพย์นั้น คตส.ได้ทำการออกคำสั่งอายัดทรัพย์ ในส่วนของเงินบริษัท แทนที่จะเป็นหุ้นในส่วนของ น.ส.พิณทองทา ส่งผลกระทบทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเสียหาย และปัจจุบันการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า บุคคลที่เป็นเจ้าของเงินซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ตัวจริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในกระบวนการไต่สวนข้อมูลที่ยังไม่แล้วเสร็จ คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จึงเห็นสมควรให้เพิกถอน คำสั่งอายัดส่วนนี้” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในเบื้องต้นแม้คณะอนุฯ ไต่สวน ชุดนี้ จะมีการลงคะแนนเสียงรับรองมติเรื่องนี้ ไปแล้ว 3 ต่อ 2 เสียง แต่เนื่องจากในการประชุม มีกรรมการบางส่วนไม่ได้เข้าร่วมประชุม และไม่เห็นด้วยกับมตินี้ ดังนั้น ในการประชุม คตส.ชุดใหญ่ วันที่ 24 มี.ค.นี้ คงจะมีการนำเรื่องเข้าหารือ และให้กรรมการ คตส.ลงมติวินิจฉัยชี้ขาด ว่าจะเห็นชอบให้ปล่อยทรัพย์ส่วนนี้ ตามความเห็นของคณะอนุฯ ไต่สวนหรือไม่
ด้าน นายธวัชชัย แตงหนู ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท เอสซีฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ทีมทนายความผู้รับมอบอำนาจของบริษัท เอสซีฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนมายังคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ให้พิจารณาคำร้องขอพิสูจน์ทรัพย์ส่วนนี้ โดยด่วน เนื่องจากทางบริษัทได้ยื่นคำร้องไปนานแล้ว และก็นำพยานมาให้ปากคำต่อคณะอนุฯ ครบถ้วนทุกปากแล้ว หากคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ไม่รีบดำเนินการทางทีมทนายความ จะคงจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาประกอบการพิจารณา ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับ คตส.ด้วย
“คุณพิณทองทา มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง เมื่อมีการนำเงินเข้ามาเพิ่มทุนให้กับบริษัทแล้ว เงินส่วนนี้ ก็จะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งถ้า คตส.จะมีคำสั่งอายัดทรัพย์ ก็ควรจะอายัดหุ้นในส่วนของคุณพิณทองทา ไม่ใช่ออกคำสั่งอายัดเงินของบริษัทแบบนี้ ทำให้บริษัทต่อประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก” นายธวัชชัย ระบุ