เปิดกรุทรัพย์สิน “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำ นปก. รวย 8 ล้าน แฉปี 50-51 ปั๊มเงินเข้าแบงก์คราวละ 2 ถึง 6 แสน กระจายเปิดหลายบัญชี พบฝากเงินสาขาลาดพร้าวที่ตั้งพีทีวี ถอยฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงเฉียดล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง 1 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 480 คน หลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ม.ค.51 และพบว่าในส่วนของผู้ที่ใกล้ชิดอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย และบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวต่อต้าน คมช.ล้วนมีข้อมูลทรัพย์สินที่น่าสนใจ โดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต แกนนำ นปก.รุ่น 1 แจ้งบัญชีทรัพย์สินโดยปราศจากหนี้สินทั้งสิ้น 23,754,390 บาท นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตร ที่เคยมีบทบาทออกมาชนกับพันธมิตรฯ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,266,463.30 บาท
ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ บัญชีทรัพย์สินของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน อดีตแกนนำ นปก.รุ่น 1 ซึ่งในช่วงปี 2549-2550 ที่ผ่านมาได้ทำงานเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และต่อต้าน คมช. รวมทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จนทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อความวุ่นวายหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และเป็นจำเลยในคดีดักฟังโทรศัพท์ร่วมกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกรัฐบาล และนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายจตุพร ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินร่วมกับบุตรนอกสมรสที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 8,050,051.46 บาท จำแนกเป็นเงินฝากธนาคาร 2,599,939.46 บาท โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง 2,700,000 บาท ยานพาหนะ (2 คัน) มูลค่า 2,750,112 บาท ส่วนหนี้สิน เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 2,750,112 ล้านบาท เมื่อหักลบแล้วนายจตุพรมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,300,780.2 บาท
สำหรับเงินฝากธนาคาร 2,599,939.46 บาท กระจายอยู่ 6 ธนาคาร แต่บัญชีที่มีการเคลื่อนไหวอย่างน่าสนใจ คือ บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี พบว่ามีเงินฝากเข้ามาช่วงเดือนตุลาคม 2550 เมื่อวันที่ 17 ต.ค. จำนวน 100,000 บาท จากนั้นในเดือน พ.ย.วันที่ 29 พ.ย. ก่อนเลือกตั้ง 23 ธ.ค.ได้ฝากเงินอีก 600,000 บาท ทำให้มียอดเงินในบัญชี ณ วันแสดงทรัพย์สินสูงถึง 1.1 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ในส่วนธนาคารออมสิน สาขายุติธรรม นายจตุพรก็ฝากเงินไว้เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2550 อีก 200,000 บาท
นอกจากนี้ นายจตุพรยังได้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขาคลองเจ้าคุณสิงห์ โดยนำเงินฝากเข้าธนาคาร เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2550 จำนวน 402,000 บาท ทำให้มียอดเงินฝาก ณ วันที่ 2 ม.ค. 2551 จำนวน 600,000 บาท
ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์พีทีวีด้วย โดยมีเงินฝากเข้ามาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2551 จำนวน 185,000 บาท กระทั่งมียอดเงินฝาก ณ วันที่แสดงบัญชีทรัพย์สิน 600,000 กว่าบาท
ในส่วนธนาคารทหารไทย สาขาย่อยรามคำแหง กลับไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของบัญชี โดย ณ วันยื่นแสดงทรัพย์สินมีเงินในบัญชี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2549 จำนวน 101 บาท
นอกจากนี้ นายจตุพรได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง กับบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลิสชิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.51 ราคา 999,312 บาท
นายจตุพรยังได้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน ให้แก่ ด.ญ.พอเพียง พรหมพันธุ์ ลูกสาวด้วย โดยมีเงินฝากเข้ามาครั้งละ 200 บาท โดย ณ วันที่แสดงบัญชีทรัพย์สินมียอดรวม 840 บาท
อย่างไรก็ตาม ในเอกสารที่นายจตุพรแจ้งสถานภาพต่อ ป.ป.ช. ได้ระบุว่าตนเองมีสถานภาพโสด โดยแจ้งว่ามีรายได้จากเงินเดือนทางราชการ 744,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง 507,960 บาท และเงินเดือนที่ปรึกษา 360,000 บาท รวมมีรายได้ 1,611,960 บาทต่อปี
