“ไทกร” รุกตรวจพาสปอร์ต “สุธา” สัปดาห์หน้า-ไม่เชื่อเรียนนอกจริง

“ไทกร” ยังไม่เชื่อ “สุธา” เรียนฟิลิปปินส์จริง หลังเลขาฯ ก.พ.อ้างวุฒิการศึกษาผ่านการรับรอง เตรียมยื่นขอตรวจสอบหนังสือเดินทางที่กระทรวงการต่างประเทศสัปดาห์หน้า พร้อมชี้พิรุธจบมา 20 กว่าปี แต่ใบปริญญาใหม่เอี่ยม

จากกรณีพิรุธเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี Republican College ประเทศฟิลิปปินส์ ของนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งอาจจะทำให้การดำรงตำแหน่งของ นายสุธา ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 174 ที่ระบุว่ารัฐมนตรีต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า

นายสุธา อ้างว่า ได้รับปริญญาดังกล่าวเมื่อปี 2517 แต่ไม่เคยแจ้งวุฒิการศึกษาดังกล่าวตั้งแต่แรก เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เพิ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อปี 2537 หรือ 2539 ขณะที่การตรวจสอบผู้จัดการออนไลน์ ได้ทราบข้อมูลตามระเบียบ ของ ก.พ.ว่า การรับรองวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศไม่มีผลย้อนหลัง ทำให้วุฒิการศึกษาปริญญาตรีของนายสุธาที่จบจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ได้

ต่อมา นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการ ก.พ.อ้างว่า จากการตรวจสอบของ ก.พ.Republican College ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) และทางกระทรวงศึกษาธิการของฟิลิปปินส์ได้รับรองวุฒิการศึกษา Bachelor of Science in Commerce (Management) (BSC) ของวิทยาลัยดังกล่าวในปี ค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) ดังนั้น เมื่อกระทรวงศึกษาธิการของประเทศที่สถาบันการศึกษาตั้งอยู่ให้การรับรอง ก็ถือหลักเกณฑ์ว่าวุฒิการศึกษาดังกล่าวได้รับรองจาก ก.พ.ด้วยโดยอัตโนมัติ

ด้าน นายไทกร พลสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ ที่ได้ส่งหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายสุธา ชันแสง ไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้จัดการออนไลน์ ว่า ตนยังไม่ละความพยายามที่จะตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้ให้สังคมรับรู้ โดยตอนนี้ตนได้เตรียมที่จะไปยื่นเรื่องขอตรวจสอบกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยตรวจสอบหนังสือเดินทาง และ การเข้าออกประเทศฟิลิปปินส์ของ นายสุธา เพราะเชื่อว่า หาก นายสุธา เดินทางไปศึกษาจริง ก็น่าที่จะมีหลักฐานมายืนยันได้ คาดว่า จะไปในสัปดาห์หน้า เพราะต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กลับมาจากภารกิจในต่างประเทศก่อน

ทั้งนี้ นายไทกร ยังตั้งขอสงสัยอีกว่า หาก นายสุธา ได้เดินทางไปศึกษาที่ประเทศฟิลิปปินส์ จนได้วุฒิการศึกษามาจริง เอกสารรับรองก็น่าจะมีอายุเกินกว่า 20 ปี แต่เหตุใดหลักฐานที่นำมาให้สื่อดูกลับยังใหม่ เหมือนเพิ่งออกมาไม่นาน