"ประสงค์"เชื่อ"แม้ว"เตรียมแก้ไข 5 เรื่อง โดยเฉพาะการแก้คดีส่อทำลายหลักฐานต่างๆ ขณะเดียวกันไม่มั่นใจว่าศาลจะตัดสินคดีออกมาอย่างไร จึงต้องหาช่องทางออกนอกปท.เพื่อลี้ภัยในอนาคต พร้อมๆกับการล้างแค้นและจะยังไม่วางมือทางการเมือง โดยใช้วิธีการเดียวกับการบริหารทีมฟุตบอล แนะ ปชช.ใช้วิธีอารยะขัดขืน
วันนี้ (9 มี.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวในการเสวนาภาคประชาชน หัวข้อ “บ้านเมืองจะอยู่อย่างไรเมื่อทักษิณกลับมา” โดยตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากนี้ จะมีการแก้ไขใน 5 เรื่อง คือ การแก้ตัว แก้ต่าง แก้คดี โดยมีการโยกย้ายข้าราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อที่จะทำลายหลักฐานคดีความต่างๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว และเชื่อว่า จนถึงขณะนี้อดีตนายกรัฐมนตรียังไม่มั่นใจในคำตัดสินของศาลฎีกาว่าจะออกมาในช่องทางใด จึงยังอยู่ระหว่างการหาช่องทางในการที่จะออกนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการหาที่อยู่สำหรับการลี้ภัยในอนาคต โดยหลังจากนี้ ก็จะมีการแก้แค้นออกมาอย่างรุนแรง และแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมา
น.ต.ประสงค์กล่าวต่อว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดว่าจะวางมือทางการเมืองยังไม่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีได้ใช้วิธีการเดียวกับการบริหารทีมฟุตบอล ซึ่งเจ้าของทีมจะบริหารผ่านผู้จัดการทีมและผู้เล่น และสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้จัดการทีมจะติดต่ออย่างใกล้ชิดกับเจ้าของทีม ส่วนผู้เล่นก็เป็นหน้าเก่าที่ย้ายพรรคมาจากพรรคการเมืองที่ถูกยุบ
นอกจากนี้ น.ต.ประสงค์ ยังระบุด้วยว่า ประชาชนทุกคนมีสิทธิต่อต้าน หากมีการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม โดยการใช้วิธีอารยะขัดขืน เช่น การไม่เสียภาษี หากจะมีการนำงบประมาณไปกระทำในเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ยังรู้สึกเห็นใจรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นรองประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัด ที่ถูกโยกย้าย โดยมองว่าการถูกโยกย้ายครั้งนี้เพราะเข้าไปขัดผลประโยชน์ของบรรดานักการเมืองที่มีอิทธิพลในจังหวัด