“องอาจ” ยืนยันสังคมและพรรคประชาธิปัตย์ เปิดโอกาสให้รัฐบาลบริหารประเทศอย่างเต็มที่ แต่กลับลุแก่อำนาจโยกย้ายข้าราชการ เกินขอบเขตเชื่อความเสื่อมศรัทธาจะทวีเพิ่มมากขึ้น จนแพ้ภัยตัวเอง
วันนี้ (9 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการในรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ตั้งแต่กรณีการสั่งย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จนมาถึงกรณีของ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็น กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.บุรีรัมย์ ที่ถูกคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ จ.ศรีสะเกษ นั้น เกือบทุกกรณีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทำงานของข้าราชการที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งขณะนี้ได้กลับมาเป็นผู้บริหารประเทศแล้วจึงมาจัดการกับข้าราชการเหล่านี้ และแม้การโยกย้ายข้าราชการเป็นสิ่งที่เกิดตามปกติ แต่การโยกย้ายในรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถมีเหตุผลที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ ดังนั้น อยากฝากไปยังรัฐบาลว่าสังคมไทยและพรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาสรัฐบาลทำงาน แต่รัฐบาลกลับใช้โอกาสไปอย่างสิ้นเปลืองมากเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้โอกาสที่สังคมให้กับรัฐบาลนั้นลดน้อยลง และถ้ารัฐบาลให้อำนาจเกินขอบเขตก็จะกลายเป็นทำลายตัวรัฐบาลเองด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ที่จับกลุ่มเตรียมเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และการจัดสรรวาระในการทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาคนละ 2 ปี โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า พรรคการเมืองไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของ ส.ว. ขอให้ผู้ที่เป็น ส.ว.ใช้ดุลพินิจพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
