โปรดเกล้าฯ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นผู้นำฝ่ายค้านแล้ว มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมคับคั่ง ขณะที่เจ้าตัวยืนยันทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์
วันนี้ (29 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ได้มีการทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ
พระบรมราชโองการฯ ดังกล่าวระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ เพราะ นายอภิสิทธิ์ มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 110 วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้สนองพระบรมราชโองการ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีครั้งนี้มีแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น
ทั้งนี้ พิธีรับสนองพระบรมราชโองการดังกล่าวมีขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 3 ของอาคารเสนีย์ ปราโมช ในที่ทำการของพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการฯ ว่า จะขอทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยสมาชิกพรรคฝ่ายค้านทุกคนจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติราชการแผ่นดินของรัฐบาลอยู่บนความถูกต้อง สุจริต และจะใช้ช่องทางของรัฐธรรมนูญในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าการมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็งจะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตการเมืองไปได้ รวมถึงการมีคณะรัฐมนตรีเงา ก็จะเป็นส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายค้านได้ดียิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระการคลัง ระบุว่าจะให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับมาแสดงเจตนาที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่ประสงค์เกี่ยวข้องกับการเมือง การที่รัฐมนตรีหรือรัฐบาลจะขอคำแนะนำ หรือรับฟังความคิดเห็นจากอดีตนายกฯ ก็เหมือนกับการได้รับฟังจากประชาชนคนหนึ่ง ไม่มีความจำเป็นต้องแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่ง เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาตามมาว่าไม่ตรงกับเจตนาที่ได้แสดงเอาไว้ในเรื่องที่บอกว่าไม่อยากเกี่ยวข้องทางการเมือง ส่วนเรื่องให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจหรือเรื่องอื่นๆ ถือเป็นเรื่องปกติสามารถทำได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า คำพูดกับการกระทำดูจะไม่สอดคล้องกัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ท่านเพิ่งกลับมา และแสดงเจตนาไป แต่มีรัฐมนตรีที่ไปพูดว่าจะแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ทำให้อาจจะเกิดความสับสนได้ อย่างไรก็ตามการรับฟังคำแนะนำสามารถทำได้อยู่แล้ว รัฐมนตรีและนายกฯ คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน จะบอกว่าเมื่อทำแล้วเกิดปัญหาความเสียหายแล้วบอกว่าฟังคำแนะนำมาไม่ได้ เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีต้องตระหนัก ไม่ว่าจะทำงานด้วยวิธีใดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินสายพบผู้ใหญ่หลายๆ คน อาทิ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าการพบปะก็ เป็นสิทธิที่จะทำได้ ตนคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือ พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามาด้วยการใช้สิทธิของคนไทย และต้องเคารพต่อสิทธิตรงนั้น นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องมีสิทธิเสรีภาพเหมือนคนไทยคนหนึ่ง จะไปไหนมาไหน จะไปพบใครย่อมทำได้ ตนแนะนำว่าให้ปฏิบิตกับพ.ต.ท.ทักษิณเหมือนคนไทยคนหนึ่ง ส่วนเรื่องคดีก็ดำเนินไปตามกระบวนการขั้นตอน เราอย่าไปกังวลหรือตั้งข้อสังสัยจนเกินเหตุ ตนเชื่อว่าหากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องสังคมจะตรวจสอบ รวมทั้งเราในฐานะฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว
" ก็ควรทำอย่างที่พูดและอย่าไปทำอะไรให้คนเคลือบแคลงสงสัย ดีที่สุดคือกลับเข้ามาต่อสู้คดีไม่คิดแทรกแซงกระบวนการดีที่สุด ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็ยังเป็นนายสมัคร มีอำนาจเต็มที่ ยังยืนยันว่าขอให้ใช้อำนาจเต็มที่ เพราะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน อยากให้เป็นตัวของตัวเอง ใครที่แนะนำอะไรมาหากเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ก็ทำ แต่หากอะไรที่แนะนำมาแล้วไม่ดีก็อย่าทำ"
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวฝากไปยังรัฐบาล ถึงเรื่องที่เป็นห่วงว่า เรื่องการโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องการโยกย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ คำตอบกระทู้ของรัฐมนตรีไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทั้งหมด และทำให้มีความเป็นห่วง ไม่อยากเห็นปัญหาข้าราชการทำงานด้วยความสุจริตกลับไม่ได้รับการส่งเสริม หรือทำงานให้ลุล่วงต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความต่างๆ หรือการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านจะติดตามตรวจสอบและนำเสนอต่อสังคมต่อไป นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ ทั้งๆ ที่มีการตกลงกันต่อหน้าประธานและรองประธานสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ตอนนี้เห็นว่ามีแนวคิดที่จะดึงให้ยืดออกไป รวมทั้งจะยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด ตนอยากเรียกร้อง เพราะทุกคนพูดถึงการได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา เน้นเรื่องความสมานฉันท์
“การทำงานที่ผ่านมาผู้ประสานงานทั้งสองฝ่ายทำงานด้วยความสมานฉันท์ ยึดหลักความร่วมมือให้ราบรื่นก็ตกลงกันแล้ว การยกเลิกข้อตกลงก็ทำให้บรรยากาศการทำงานในสภาเสียไปค่อนข้างมาก ที่จริงแล้วทุกวันที่ผ่านไปโดยไม่มีกมธ. ก็เป็นการเสียประโยชน์ของประชาชน เพราะเป็นการทำงานของสภา ไม่ใช่ของฝ่ายค้านซึ่งมีหน้าที่ทำงานเพื่อประโยน์ของประชาชน อยากเรียกร้องว่าปัญหาภายในของรัฐบาลให้รีบไปสะสางให้เรียบร้อย แล้วก็กลับมาทำตามข้อตกลง จะปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมอะไรในภายหลังก็สามารถทำได้อยู่แล้ว ฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง”
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าทางผู้ประสานงานของรัฐบาลมีปัญหามากเมื่อกลับไปที่พรรคพลังประชาชน ทำนองว่าจำนวนประธานหรือกมธ.ยังไม่พึงพอใจ หรือยังไม่ได้จัดสรรส.ส.ลงในกมธ.และประธานกมธ.ที่เกี่ยวข้อง ส่วนไม่อยากให้มีกมธ.ตรวจสอบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ทั้งนี้ตนอยากให้มีกมธ.โดยเร็ว อยากให้ยึดข้อตกลงนี้เอาไว้ ตนอยากให้รัฐบาลไปดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนกรณรที่มีกระแสข่าวออกมาว่ารัฐบาลจะมีการล้มกระดานแล้วเริ่มต้นใหม่นั้น ตนก็เห็นว่าข่าวออกมาเป็นอย่างนั้น ทั้งนี้ตนอยากให้สภาเดินหน้าไปได้ด้วยดี ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
/0110