สื่อแดนปลาดิบ ตื่นข่าว “แม้ว” กลับไทย สัมภาษณ์ “สมัคร” เป็นพัลวัน พยักหน้าถึงไทยพรุ่งนี้ แต่ไม่เกี่ยวรัฐบาล คุยโวนโยบายประชานิยมโดนใจประชาชน ต้องสานต่อ ชี้ รธน.ไม่ห้าม
วันนี้ (27 ก.พ.) น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังคณะสื่อมวลชนจากญี่ปุ่น ทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เข้าสัมภาษณ์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า นายสมัคร ทักทายสื่อจากญี่ปุ่นว่าดีใจที่สื่อมาเยี่ยม หลังจากทูตและนักธุรกิจจากเขตคันไซ มาพบแล้วก่อนหน้านี้ โดยนายสมัครยืนยันว่า ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมหลังจากมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ความสัมพันธ์ และโครงการที่เคยร่วมมือกันมาก่อนนี้ที่หยุดชะงักไปก็จะกลับมาเดินหน้าต่อไปอีก
น.ส.ศุภรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ สื่อจากญี่ปุ่นสนใจเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยขอคำยืนยันจากนายสมัคร ว่า จริงหรือไม่ นายสมัคร ให้คำตอบว่าไม่ได้รับการยืนยันด้วยตัวเอง แต่ทราบจากหนังสือพิมพ์ ว่า จะกลับมาในวันที่ 28 ก.พ.นี้เวลา 09.40 น.ซึ่งเป็นการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
สื่อญี่ปุ่นถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสมัคร ได้ตอบว่าเป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่า ไม่มีการดูแลอะไรเป็นพิเศษ รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยประการทั้งปวง แต่โดยส่วนตัวแล้วแสดงความยินดีอย่างยิ่ง ในฐานะที่คุ้นเคยกันทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องส่วนตัว ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกว่า ถ้ามีรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งจะเดินทางกลับมาประเทศไทย ฉะนั้น ไม่น่าแปลกและผิดความคาดหมายอะไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาประเทศไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังบอกว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลาเพราะมีรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้วและรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สื่อญี่ปุ่นยังสนใจซักถามถึงประเด็นที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภา ได้รับใบแดง นายสมัคร กล่าวว่า การได้รับใบแดงอาจจะกระทบความรู้สึกนักการเมือง แต่ไม่กระทบการทำงานของรัฐบาล และนายยงยุทธก็หยุดการทำหน้าที่ประธานสภาแล้ว ในส่วนของสภายังมีรองประธานสองคนที่ยังทำหน้าที่ และเรื่องหลังจากนี้ไปจะใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์จะถึงศาลและเรื่องจะอยู่ในกระบวนการศาล 1 เดือน นายกรัฐมนตรี บอกว่า ยังมีเวลา เพราะ นายยงยุทธ คงจะมีเหตุผล มีหลักฐานอะไรต่างๆ ที่จะพิสูจน์เอง แต่ยังไม่พูดไกลไปถึงเรื่องยุบพรรค โดยบอกว่ายังไกลเกินที่จะพูดรอดูเมื่อถึงศาลจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นายสมัคร ยังกล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศแรกที่จะไปเยือนหลังการเยือนอาเซียนเสร็จสิ้น คาดว่า จะเป็นช่วงพฤษภาคม ทั้งนี้ ประเทศไทยกับญี่ปุ่นก็มีความสัมพันธ์กันยาวนานและโดยส่วนตัวก็ได้ไปแต่งงานที่ประเทศญี่ปุ่น กลับมาเมืองไทยก็ได้ลูกแฝด ซึ่งทั้งสองชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ
