นายกฯย้ำข้อเสนอใช้เศษสตางค์ แก้ข้าวแกงแพง ส่งผลทางจิตวิทยาในแง่การใช้สอย ติง “มิ่งขวัญ” ปากเร็ว ปัดข่าวสั่งห้ามขึ้นราคา แค่ขอความร่วมมือ เพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมกับ ปชช.
วันนี้ (22 ก.พ.) นายสมัคร สนุทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม กล่าวว่า การให้ใช้เศษสตางค์ในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อนั้น ไม่ได้หมายถึงการใช้เศษสตางค์เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ แต่หมายถึงเหรียญ 1 บาท เหรียญ 2 บาท และ เหรียญ 5 บาท ในการนำมาใช้เป็นมาตรการในการส่งผลทางจิตวิทยาในการจับจ่ายใช้สอยในการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง โดยให้เหรียญบาท มีบทบาทสำคัญในการให้ผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าช้าลงกว่าปกติ ตัวอย่าง เช่น แม่ค้าขายข้าวแกงจากเดิมเคยขายข้าวแกงจานละ 20 บาท แต่เมื่อสินค้าราคาแพงทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 50 บาท แต่แม่ค้ากลับขึ้นราคาข้าวแกงจานละ 5 บาท เป็นราคาจานละ 25 บาท ซึ่งหากแต่ละวันแม่ค้าขายวันข้าวแก้วันละ 100 จาน แม่ค้าคนนั้นก็จะได้กำไรสูงถึงวันละ 500 บาท ถือว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้น แม่ค้าควรจะขึ้นราคาข้าวแกงจานละ 2 บาท ก็เพียงพอ ซึ่งนี้คือ แนวคิดในการนำเศษสตางค์มาใช้ เพื่อไม่ให้มีการขึ้นราคาสินค้าแบบก้าวกระโดดมากเกินไป
นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการไม่ให้ปรับขึ้นราคาสินค้านั้น เรื่องนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ อาจจะกล่าวเร็วเกินไปเนื่องจากไม่ได้เป็นการบังคับให้ผู้ประกอบการไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า แต่เป็นการขอความร่วมมือว่า หากจะมีการปรับขึ้นราคาสินค้า ควรให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างเป็นธรรม