“ทั่นยุทธ” ทำงานวันแรก อ่อนน้อมถ่อมตน เดินสายยกจอกคารวะรอบทิศ นัดพบขอคำแนะนำ “มีชัย” ยืนยันไม่แทรกแซง สนช.ส่วนเรื่องจำนวนคณะกรรมาธิการ จะไม่ยุ่ง อ้างเป็นเรื่องวิปรัฐบาลหารือกัน
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยรองประธานทั้ง 2 คน คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ได้เข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสักการะศาลพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระภูมิเจ้าที่
นายยงยุทธ กล่าวภายหลังการถวายสักการะ ว่า หลังจากถวายสักการะแล้ว จะทยอยเดินทางไปตรวจเยี่ยมรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานในสังกัดของรัฐสภาทั้ง 20 สำนัก โดยจะถอดตำแหน่งประธาน และรองประธานสภา ออก เพื่อให้เกิดบรรยากาศการทำงานร่วมกัน และรับฟังความคิดเห็นในลักษณะของเพื่อนร่วมงาน โดยจะไม่พูดถึงความเป็นผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดการปรับลดจำนวนคณะกรรมาธิการประจำสภา นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาที่ต้องปรึกษาหารือกันถึงความเหมาะสม อำนาจของประธานสภา คงไม่ไปทำเช่นนั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) ที่จะเป็นผู้พิจารณา พร้อมปฏิเสธข่าวที่จะเชิญพระสงฆ์มาทำพิธี และปรับฮวงจุ้ยห้องทำงาน โดยย้ำว่า ไม่มีอะไร เพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ต่อกรณีที่วิปรัฐบาลเสนอให้เปิดเผยรายชื่อ ส.ส.ที่ไม่เข้าประชุม เพื่อป้องกันปัญหาสภาล่ม นั้น ประธานสภา กล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมสภาได้กำหนดให้เปิดเผยรายชื่อสมาชิกที่เข้าประชุมอยู่แล้ว หากไม่ใช่การประชุมลับ ซึ่งจะต้องติดรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว ซึ่งสื่อมวลชนสามารถทราบได้อยู่แล้ว
ส่วนกำหนดการที่จะเข้าพบ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า นายมีชัย เป็นผู้อาวุโส ทั้งนี้ เมื่อเข้ามารับงานต่อเนื่องจากสภาชุดที่แล้ว หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และเป็นการรับฟังความคิดเห็น หรือส่งไม้ผลัดกัน เพื่อไม่ให้งานสะดุด จึงคิดว่าจะไปหารือและคารวะ นายมีชัย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการทำงานร่วมกับ สนช.นั้น คิดว่าการทำงานเป็นการรับช่วงต่อ โดยสิ่งใดที่เป็นเรื่องของกฎหมาย หรือประเด็นการเมืองที่ต้องเสนอต่อรัฐบาล คงจะปรึกษาหารือกับ สนช.เพื่อจัดลำดับความสำคัญขอบเขตการนำเสนอ โดยถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขอยืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงการทำงานของ สนช.อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการทำงานและการป้องกันแรงเสียดทานของสังคม นายยงยุทธ กล่าวว่า หากการทำงานมีการให้ใจ และเห็นถึงปัญหาภาพรวมของประเทศ คือ ความขัดแย้งของคนในสังคมแล้ว คิดว่าเมื่อมีความให้ใจกัน และถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จะช่วยลดแรงเสียดทานได้มาก โดยเฉพาะหากมีทัศนคติที่ดีต่อกัน เชื่อว่า จะช่วยได้มาก
ต่อกรณีที่ได้แถลงภายหลังรับตำแหน่ง ว่า จะให้ความสำคัญกับการเมืองภาคประชาชนนั้น ประธานสภา กล่าวว่า ไม่อยากเห็นประชาชนมาประท้วงให้สภารับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ในเมื่อมี ส.ส.เข้ามาทำงานแล้ว หากมีปัญหาปัจจุบันทันด่วน หรือประเด็นทางการเมืองเกิดขึ้น และไม่สามารถส่งผ่านตัวแทนได้ สภาจึงจะช่วย เพื่อทำให้บรรยากาศการเมืองเป็นไปด้วยดี โดยตน และรองประธานสภา จะทำงานหนักขึ้น เพื่อนำประเด็นที่มีปัญหามาแก้ไข จะได้ทำให้บรรยากาศคลี่คลายลง
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้การทำหน้าที่ของประธานสภา และสมาชิกพรรคพลังประชาชน กลายเป็นภาพของสายล่อฟ้า นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ขอให้เมตตาตน และให้ตนได้ทำงานกับรองประธานสภา ซึ่งกรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนา อะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดประโยชน์กับสภา และประชาชนได้ ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกตนที่ต้องทำงานต่อไป ทั้งนี้ ไม่ได้คาดหวังอะไรเกี่ยวกับตนเอง เพราะมาทำงานช่วงหนึ่งเท่านั้น แต่สถาบันต้องคงอยู่ตลอดไป