"สุวิทย์"ปัดข่าวขัดแย้ง"วัฒนา-ประชา"ยันทำตามมติพรรคเพื่อแผ่นดิน เดินหน้าแถลงกอดคอพรรคชาติไทยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชาชน ลั่นไม่สน"ศาลฎีกา"ตัดสินคดีนอมินี พร้อมเดินหน้าตามที่ประกาศไว้
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวัฒนา อัศวเหม และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ไม่เข้าร่วมการแถลงข่าวการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า ทางพรรคได้มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนของพรรคในการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของตนในการมาแถลงข่าววันนี้ จึงไม่มีเหตุอย่างอื่นว่ามีความขัดแย้ง ซึ่งการหารือเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ก็ประชุมร่วมกันกับ นายวัฒนา และพล.ต.อ.ประชา และมติในเข้าร่วมรัฐบาลถือว่าชัดเจนแล้ว และพรรคก็มอบให้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นเพียงผู้เดียวในการตัดสินใจ และไม่จำเป็นต้องไปเครียอะไรกับทั้ง2 คน เพราะมันไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายบรหาร แล้วโดยยืนยันว่าข่าวที่ออกไปไม่ตรงกับความเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในทางพฤตินัยหรือแม้ในทางกฎหมายไม่สามารถบอกได้เลยหรือว่าจะสนับสนุนนายสมัคร เป็นนายกฯหรือไม่ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า พรรคพลังประชาชนต้องเสนอ นายสมัคร เป็นนายกฯ นายสุวิทย์ ตอบว่า จริงแล้วขบวนการที่เป็นทางการในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมีการพูดคุยกัน และเมื่อพุดคุยกันแล้วก็ต้องได้ข้อสรุป วันนี้อย่าไปคาดการอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายเกิดคามแตกแยกกับใครเลย เพราะจริงๆแล้วขั้นตอนมันมีอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็ต้องว่ากันตามขบวนการกันก่อน เราชอบไปกระโดดข้ามขั้นตอนกันตลอดเวลา ผมคิดว่าตรงนี้ทำให้เกิดปัญหา ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า เราเองไม่ได้สงวนท่าทีอะไรเลยแม้แต่เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีกับข่าวที่ออกมาก็ไม่เป็นความจริง
นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นการแถลงอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคพลังประชาชนและกับพรรคการเมืองอื่น ขั้นตอนหลังจากนี้คงได้มีการประสานงานกัน และพูดคุยกันถึงลายละเอียด จากนั้นก็จะพูดคุยกันว่าใครจะไปอยู่ตรงใหนอย่างไร จากนั้นก็ไปว่าถึงตัวบุคคล และยื่นยันว่าการหารือกับพรรคชาติไทยวันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยถึงตัวนายกรัฐมนตรี ก็บอกไปแล้วว่าขั้นตอนมันยังไม่ถึง
เมื่อถามว่าในอนาคตพล.ต.อ.ประชา และนายวัฒนา จะมีสิทธิออกเสียงในฐานะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นไปแล้ว ซึ่งท่านเองก็เป็นประธานที่ปรึกษา และประธานของพรรค และพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคที่รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกทุกคนโดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรค และท่านก็เป็นผู้ใหญ่ของพรรค ซึ่งเราก็ต้องฟังคำแนะนำของท่าน แม้จะมองหมายให้ตนแล้ว แต่ตนก็ยังต้องขอคำปรึกษา ไม่ปัญหาอะไรทั้งสิ้น ไม่มีความแตกแยก
เมื่อถามว่าถือเป็นชัยชนะของส.ส.ของพรรคหรือไม่ ที่กดดันจนเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน.นายสุวิทย์ ตอบว่า ไม่มีใครกดดันใคร เพราะเรื่องของขบวนการต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งทางพรคก็รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย และก่อนตัดสินใจก็ได้มีการประชุมกรรมการบริหารและส.ส.ของพรรคกันก่อน ถือเป็นขบวนการประชาธิปไตย ไม่ใช้ว่ามาตัดสินใจกันเอง เมื่อรับฟังความคิดเห็นแล้ว ทุกคนก็มีมติเอกฉันท์ ไม่มีใครเห็นเป็นอื่น มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องไปตีความความชัดเจนมันปรากฎอยู่ที่มติพรรคอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่า ในวันที่18 ม.ค.ในการตัดสินของศาลฎีกาไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรจะส่งผลให้พรรคต้องมาทบทวนใหม่หรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าศาลฎีกาจะตัดสินมาอย่างไรการดำเนินงานทางการเมือง วันนี้พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคชาติไทยก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการตามที่ได้มีการพูดคุยกันไว้ ส่วนการเจรจาก็ว่าไปตามขั้นตอน