กกต.รับรองส.ส.แล้ว 397 คน ไม่ประกาศรับรอง 83 คน ขณะที่ภูเก็ต หนองคาย แพร่ เจอไม่ประกาศยกจังหวัด ด้านปชป.เพิ่งยื่นให้ระงับประกาศ 30 ว่าที่ส.ส.อ้างแจกซีดีแม้ว ผิดชัด ส่งผลเสียงจัดตั้งรัฐบาลของพปช.ที่มีขณะนี้ 238 เสียง
วันนี้( 3 ม.ค) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คนนำโดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ร่วมกันแถลงประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน รวมทั้งสิ้น 397 คน แบ่งเป็น ส.ส. แบบสัดส่วน ประกาศรับรอง 76 คน ไม่รับรอง 4 คน เป็นว่าที่ ส.ส. พรรคพลังประชาชน 3 คน คือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส. กลุ่มที่หนึ่ง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และนายธนเทพ ทิมสุวรรณ ว่าที่ ส.ส. กลุ่ม 3 ขณะที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ 1 คนคือนาย ไพฑูรย์แก้วทอง ว่าที่ ส.ส. กลุ่ม2 ซึ่งทั้งหมดโดนข้อหาแจกทรัพย์สินและแจกเงิน
ขณะที่ ส.ส. แบบแบ่งเขต ประกาศรับรอง 321 คน ไม่ประกาศรับรอง 79 คน แยกเป็นพรรคพลังประชาชน 62 คน ประชาธิปัตย์ 5 คน ชาติไทย 4 คน เพื่อแผ่นดิน 6 มัชฌิมาธิปไตย 1 คน รวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน รวมทั้งระบบสัดส่วนและเขตเลือกตั้งที่กกต.ไม่ประกาศรับรอง แยกเป็น พรรคพลังประชาชน 65 คน ประชาธิปัตย์ 6 คน ชาติไทย 4 คน เพื่อแผ่นดิน 6 คน มัชฌิมาธิปไตย 1 คน รวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน หลังจากนี้ กกต. จะเร่งทำหนังสือรับรองและ ส.ส. ที่ได้รับการรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองเพื่อนำไปแสดงตนต่อสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.นี้
นายอภิชาตยังยืนยันว่าการประกาศรับรองผลไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือจ้องที่จะไม่ประกาศพรรคไหน เพราะเราไม่คำนึงว่าเป็นพรรคไหนอย่างไรแต่ดูเป็นรายบุคคล โดยเริ่มพิจารณาจาก จังหวัดที่มี ส.ส. น้อยที่สุดอย่าง จ.ระนอง ไปจนถึง ที่มี ส.ส. มากที่สุดอย่าง กทม. และตรวจเช็คข้อมูลระหว่างด้านสืบสวนสอบสวนและด้านบริหารเลือกตั้งเพื่อให้ชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่ถึง 3 รอบด้วยกัน
ส่วนที่ยังไม่ได้รับรองกกต. ก็ได้ตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่เจ้าของสำนวนว่าเรื่องอยู่ขั้นตอนใด รวมทั้งได้กำหนดวันแล้วเสร็จของแต่ละสำนวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำเสนอสำนวนเข้าที่สู้ที่ประชุม กกต. ตามเวลาที่กำหนด โดยมีเวลาพิจารณาในส่วนที่เหลือได้ถึงกลางเดือนนี้ หากไม่แล้วเสร็จก็อาจจะต้องประกาศรับรองไปก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากกต. ยืนยันว่าการประกาศรับรองในส่วนที่เหลือจะไม่กระทบต่อการเปิดประชุมสภาใช่หรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่าต้องดูว่าที่ประกาศไปนั้นใกล้จำนวน 95% แล้วหรือยัง ซึ่ง ส.ส. ที่ กกต. รับรองในส่วนที่เป็นหัวหน้าพรรคนั้นไม่มีผู้ใดมีปัญหา เมื่อถามต่อว่าในกรณีของนายบรรหาร ศิลปอาชา ว่าที่ ส.ส. เขต 1 สุพรรณบุรี และหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ กกต. มีมติให้สอบสวนเพิ่มเนื่องจาก กรรมการประจำหน่วยวางตัวไม่เป็นกลางเหตุใดจึงมีการรับรอง นายอภิชาตกล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณากันและมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ เจ้าหน้าที่ จึงให้รับรองไปก่อน แต่หากผลการสอบสวนในเวลาต่อมาพบว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมก็สามารถสั่งให้เลือกตั้งใหม่ได้
นายอภิชาต ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้องของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ไว้พิจารณาว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการประกาศรับรองผลเลือกตั้งของกกต. เพราะทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง เราต้องดูว่าอะไรที่เข้าหลักเกณฑ์อะไรที่อยู่ในอำนาจของ กกต. เราก็ประกาศรับรองไป และที่ กกต. เพิ่งจะแถลงก็ไม่ใช่เพราะรอผลการพิจารณาของศาลฯ แต่เรื่องเข้ามาให้พิจารณาช่วงบ่าย และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าศาลมีคำสั่งอย่างไร และ กกต. ก็คงไม่ต้องไปประสานกับทางศาล หากมีการพาดพิงมาเราก็แก้ข้อกล่าวหาไป เชื่อว่าศาลคงพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน
เมื่อถามต่อว่าในส่วนของ 83 ว่าที่ ส.ส. ที่ยังไม่รับรองหาก ประวิงเวลาโดยไม่เข้าชี้แจงจะทำอย่างไร นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารเลือกตั้ง กล่าวว่า อยากให้มาชี้แจง เพราะถ้าไม่ชี้แจง แล้ว กกต.ประกาศรับรองไปก่อน แล้วมาพบหลักฐานในภายหลังว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต กกต.ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลและเมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งห้าปี ดังนั้นถ้าถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็ควรมาชี้แจงเรื่องจะได้ยุติ
ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า เท่าที่ดูสำนวนก็เชื่อได้ว่า กกต. จะสามารถพิจารณารับรอง ส.ส. ได้เพียงพอต่อการเปิดประชุมสภา และขณะนี้ก็เหลือเพียง 59 คนเท่านั้น ส่วนกรณีของนายยงยุทธ ที่ยังไม่ได้รับรอง หากนายยงยุทธมาชี้แจงในวันที่ 8 ม.ค.นี้คิดว่าใน วันที่ 10 ม.ค. กกต.ก็จะตัดสินได้เลยว่าจะได้ใบขาว ใบเหลือง หรือ ใบแดง แต่ถ้านายยงยุทธไม่มาก็จะเสียสิทธิ และทำให้การพิจารณาของ กกต. ล่าช้าออกไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่กกต.ไม่ประกาศรับรองส.ส.อีก 83 คนนั้นเมื่อนำมาหักกับจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับเลือกตั้งโดยพรรคพลังประชาชนได้ 233 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 165 คน พรรคชาติไทยได้ 37 คน พรรคเพื่อแผ่นดินได้ 24 คน พรรคมัชฌิมาธิปไตยได้ 7 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาได้ 9คน ประชาราช 5 คน แล้วจะเท่ากับว่าขณะนี้พรรคพลังประชาชนมีส.ส. 168 คน ประชาธิปัตย์ 159 คน ชาติไทย 33 คน เพื่อแผ่นดิน 18 คน มัชฌิมาธิปไตย 6 คน รวมใจไทยชาติพัฒนา 8 คน ประชาราช 5 คน และเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเสียงที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนในขณะนี้4 พรรค จะเท่ากับว่ามีเสียงจัดตั้งรัฐบาลแค่ 238 เสียง
วันเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม และนายเจือ ราชสีห์ ว่าที่ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและขอให้ระงับการประกาศรับรองผลว่าที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนรวม 30 คน ด้วยเหตุผลว่าทั้งหมดถูกร้องว่าร่วมกันแจกแผ่นซีดีทักษิณ ประกอบด้วย น.ส.อรุณี ชำนาญยา เขต 1 พะเยา นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายสถาพร มณีรัตน์ นายสงวน พงษ์มณี เขต 1 ลำพูน นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ นายกฤษฎาภรณ์ เสียมภักดี เขต 1 เชียงใหม่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายวิทยา ทรงคำ นายนพคุณ รัฐไผท เขต 2 เชียงใหม่ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร นายไชยวัฒน์ ติณรัตน์ นายสรรภัญูญู ศิริไปล์ เขต 2 มหาสารคาม
นาง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นาย โสภณ โกชุม นาย ประสิทธิ์ วุฒินันท์ชัย เขต 3 เชียงใหม่ นาย วารุจ ศิริวัฒน์ เขต 1 อุตรดิตถ์ นาย จิรพันธ์ สิ้มสกุลศิริรัตน์ นาย นที สุทินเผือก เขต 2 สมุทรปราการ นาย อนันท์ ผลอำนวย นาย ปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 1 กำแพงเพชร นาย ธเนศ เครือรัตน์ นาย สุรชาติ ชาญประดิษฐ์ นาย ปวีณ แซ่จึง เขต 1 ศรีสะเกษ นาย วิวัฒชัย โหตระไวศยะ นาย อมรเทพ สมหมาย นาย ธีระ ไตรสรณกุล เขต 3 ศรีสะเกษ นาย กิตติกร โล่สุนทร นาย ธนาธร โลห์สุนทร นาย วาสิต พยัคฆบุตร เขต 1 ลำปาง
ทั้งนี้นายถาวร กล่าวว่า ที่ขอให้ระงับการประกาศรับรองเพราะหากต้องมาสอยภายหลังจะส่งผลต่อการ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องเป็นไปอย่างใสสะอาด แม้จะทำให้การเปิดสภาต้องล่าช้าไปกว่า 30 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดก็ตามก็ไม่มีความสำคัญกว่าความโปร่งใสในการโหวตเลือกนายกฯ