“บ้านเลขที่ 111” กลัวคนลืม ปั่นกระแสเอกสารลับอ้างขัด รธน. จี้ คมช.-ครส.หยุดดำเนินการ ค้าน “สนธิ” นั่งประธาน ด้าน “อดิศร” ขวาง กกต.อุ้ม “บิ๊กบัง” ท้ากล้าฟันก็พร้อมไปกราบแทบตัก ขู่เสนอ ปชช.เข้าชื่อยื่นถอดถอน
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมนายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แถลงถึงกรณีเอกสารลับ โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า มีความพยายายามปล่อยข่าวว่าเอกสารที่นำมาเปิดเผยกับตัวจริงไม่เหมือนกัน โดยต่างกันระหว่างคำว่า พปช.กับกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่ง กกต.ควรตรวจสอบ ถึงแม้ว่า คมช.จะมีการส่งเอกสารใหม่มาก็ตาม แต่จะเหมือนของเดิมหรือไม่ เนื่องจากในจดหมายมีการสารภาพชัดว่า คมช.สกัดพรรคการเมืองบางพรรค รวมทั้งการคิดบัญชีกับนักการเมืองซึ่งเห็นได้ชัดว่าการกระทำของ คมช.มีความไม่เป็นกลาง ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 74 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 57
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่อ้างว่าคำสั่งมีมาก่อนพระราชกฤษฎีการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้นั้น ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นเพราะกฎหมายห้ามตลอดเวลา ไม่ห้ามเฉพาะช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้น จะอ้างว่ามาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองเพื่อความมั่นคง ก็คงจะเป็นความมั่นคงของตัวเองมากกว่าความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่ง กกต.ควรจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการกระทำของ คมช.ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน จะต้องดำเนินการระงับยับยั้งการดำเนินการทุกอย่างที่ คมช.กำลังดำเนินการอยู่
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า การที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ดำรงแหน่งประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) สะท้อนให้เห็นว่ามีการวางตัวไม่เป็นกลาง เห็นได้จากที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยและเรียกหน่วยงานในกระทรวงมาประชุมหารือเป็นต้น ส่วนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการปลด พล.อ.สนธินั้น ไม่ได้เจาะจงเล่นงาน พล.อ.สนธิ แต่อยากให้ ครส.ทั้งคณะยุติบทบาทจนกว่า กกต.จะออกมารับรองว่า การทำงานขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือถ้าจะดำเนินการต่อก็ไม่ควรให้ พล.อ.สนธิ เป็นประธานฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า อยากให้องค์กรที่สนใจมาวิจารณ์มากกว่า เพราะไปฟ้องร้องกระบวนการศาลก็ไม่เร็ว กว่าจะถึงจุดนั้นความไม่กลางก็จะอยู่จนถึงการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนที่ระบุว่าการที่พรรคพลังประชาชนไม่ยื่นฟ้องเพราะสำนวนเอกสารลับกับตัวจริงไม่ตรงกันนั้น ตนไม่ทราบแต่ที่พูดเรื่องนี้เห็นว่าเป็นปัญหาโดยรวมในการเลือกตั้ง
สำหรับกรณีใบปลิวที่ระบุว่านายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน สมคบคอมมิวนิสต์เพื่อล้มล้างสถาบันนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะเห็นว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี พยายามปลุกผีทำให้เกิดความแตกแยกและในเนื้อหาที่อดีต ผบ.ทบ.พูด แสดงให้เห็นว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งประธาน ครส. หากมีหลักฐานและพบว่าตนกระทำผิดก็ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย
ด้าน นายอดิศร กล่าวว่า ความคิดดังกล่าวของ คมช.เป็นเรื่องที่ล้าสมัยแต่หยิบยกขึ้นมาเพราะเห็นว่ามีความพยายามให้เกิดสงครามประชาชน และสถาปนารัฐทหารขึ้นมา เพราะคอมมิวนิสต์ที่ออกจากป่ามาทำงานการเมืองก็เยอะ และอยู่กับทหารก็เยอะ ส่วนการที่ กกต.เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปนั้น มีเจตนาที่จะช่วย พล.อ.สนธิ อย่างแน่นอน หากกล้าวินิจฉัยตามมติของคณะอนุกรรมการที่ตรวจสอบสวนเอกสารดังกล่าว ตนก็จะไปกราบแทบตักทันที แต่หาก กกต.ไม่ดำเนินการ จะเรียกร้องให้ประชาชนหรือองค์กรที่มีสิทธิเข้าชื่อยื่นถอนถอน กกต.แม้ว่าพวกเราจะไม่มีสิทธิ์เข้าชื่อแต่มีสิทธิเสนอแนวคิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเย็นวันนี้ (3 ธ.ค.) นายจาตุรนต์ และนายอดิศรจะเดินทางไปเปิดปราศรัยที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉเชิงเทรา จากนั้นในวันที่ 7 ธ.ค.จะเดินทางไปปราศรัยที่ จ.อุบลราชธานี