“รมว.พัฒนาสังคมฯ” เซ็นตั้ง ปธ.ยธ.พร้อม 2 กรรมการ สอบบิ๊กข้าราชการ พม.มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชา ด้าน ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก จี้ ย้ายพ้นกระทรวงก่อน หวั่นข้าราชการไม่กล้าให้ข้อมูล ชี้เข้าตำราเฒ่าหัวงู แม้ฝ่ายหญิงจะยินยอม
วันนี้ (7 ต.ค.) นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงของ พม.ที่มีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งๆ ที่มีครอบครัวอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานต่างๆ สังกัด พม.ว่า ขณะนี้ นายไพบูลย์ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว โดยมี นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการจากบุคคลภายนอก พม.อีก 2 คน ร่วมเป็นกรรมการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่ นายไพบูลย์ แต่งตั้งประธานและกรรมการสอบสวนเพียง 3 คน เพราะต้องการให้เกิดความคล่องตัว โดยมีอำนาจหน้าที่สอบสวนทั้งด้านจริยธรรมและการทุจริตคอร์รัปชัน และยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาชัดเจน เพียงแต่ระบุว่า ให้เร็วที่สุด
นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะทั้งนายไพบูลย์ และนายจรัญ ต่างเป็นบุคคลที่ใสสะอาด แต่สิ่งสำคัญ คือ ควรย้ายข้าราชการระดับสูงคนที่ก่อปัญหาออกไปก่อน เพราะมีอำนาจในการให้คุณให้โทษแก่ข้าราชการในสังกัด ดังนั้น อาจไม่มีใครกล้าออกมาให้ข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายจิตวิญญาณของคนที่ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ และทำงานอยู่ใน พม.ซึ่งมีจำนวนมากที่ต่างทราบพฤติกรรมที่ไร้จริยธรรมของผู้บังคับบัญชาดี แต่ก็ยังยกมือไหว้อยู่ แม้หลายคนรู้สึกอึดอัด
“ดิฉันเชื่อว่า ภายใน พม.ยังมีข้าราชการดีๆ อยู่อีกมาก เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่คนเหล่านี้จะได้ร่วมกันสะสางปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง” นางทิชา กล่าว
ส่วนการทุจริตในการใช้เงินของมูลนิธิต่างๆ ในสถานสงเคราะห์นั้น นางทิชา กล่าวว่า ได้ยินมานานแล้วว่า มีการนำเงินไปใช้ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของเจ้าของเงิน คือ ใช้ในการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งสาเหตุที่ทำได้ เพราะมีการเอื้อประโยชน์กัน เนื่องจากผู้ปกครองในสถานสงเคราะห์ได้รับการแต่งตั้งมาจากผู้มีอำนาจ และเมื่อผู้มีอำนาจใช้เงินไปต่างประเทศก็ต้องยอม ซึ่งเรื่องนี้ควรมีการสร้างกลไกการตรวจสอบขึ้นมา
นางทิชา กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นชู้สาว แม้หลายคนพยายามบอกว่าเป็นความยินยอมของฝ่ายหญิง แต่คนสำคัญ คือ ฝ่ายชาย เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจ ทั้งๆ ที่เคยมีบทเรียนมากมายเกี่ยวกับเฒ่าหัวงู แต่เรื่องนี้ยังเกิดขึ้นในหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องเด็กและผู้หญิง แสดงว่ากลไกที่มีอยู่ยังมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ในการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ควรคำนึงถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเป็นสำคัญ โดยเคยเสนอไปว่า ก่อนแต่งตั้งนั้น ควรเปิดตู้ ปณ.ให้ข้าราชการในสังกัดส่งข้อมูลเข้ามา ซึ่งจะได้ช่วยตรวจสอบข้าราชการผู้นั้นด้วย
รายงานข่าวจากกระทรวง พม.แจ้งว่า เรื่องร้องเรียนเรื่องหนึ่งที่ส่งถึงนายไพบูลย์แล้วขณะนี้ คือ กรณีที่มีการทุจริตในสำนักงานธนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัด พม.ซึ่งสร้างความเสียหายสูงถึง 40-50 ล้านบาท และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนและลงโทษผู้เกี่ยวข้องแล้ว แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า การดำเนินการครั้งนี้เพียงเพื่อตัดตอนไม่ให้เรื่องถึงตัวข้าราชการระดับสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทุจริตในสถานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำ พม.เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีการตีมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาจำนำสูงเกินความเป็นจริง เนื่องจากผู้จำนำและผู้รับจำนำต่างเป็นที่รู้กัน (ซูเอี๋ย) ซึ่งมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยการรับรู้ของผู้มีอำนาจ แต่ความมาแตก เนื่องจากปกติจะมีการเอาทรัพย์สินที่หลุดจำนำมาประมูลขายให้ประชาชนและพ่อค้า แต่ปรากฏว่ามีสินค้าหลายชิ้นที่ประมูลไปแล้ว ปรากฏว่า เมื่อนำไปตรวจสอบกลับมีคุณภาพที่ต่ำ