โปรดเกล้าฯแล้ว “อนุพงษ์” ผบ.ทบ. - “สพรั่ง” รองปลัดฯ - “มนตรี” รอง ผบ.สส.

โผทหารคลอด 19 ก.ย. วันครบรอบ 1 ปี คมช. ปูนบำเหน็จ “อนุพงษ์” ผงาด ผบ.ทบ. "วีรวิทย์- ธีระวัฒน์" ตามคาด “สพรั่ง”ถูกเตะนั่งรองปลัดกลาโหม เคียงข้างเพื่อนซี้ “บรรณวิทย์” ขยับ “มนตรี” ขึ้นรอง ผบ.สส. พร้อมวางทายาทแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังสำคัญใน กทม. เซอร์ไพรส์ เพื่อนเมียนายกฯ ผงาดกินพลเอก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ซึ่งมีนายทหารได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้รวม 463 นาย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2550 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน 2550

โดยมีรายชื่อที่สำคัญดังต่อไปนี้ กระทรวงกลาโหม พล.อ. สุรพันธุ์ พุ่มแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) เป็นจเรทหารทั่วไป (อัตราจอมพล) พล.อ. ทสรฐ เมืองอ่ำ เป็นประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) เป็นตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ. ถูกย้ายข้ามจากกองทัพบก ซึ่งถือเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.คนหนึ่ง แต่ก็ต้องผิดหวังได้แค่เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) เพื่อรอเกษียณอายุราชการในปีหน้า พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล เป็น ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนกลาโหม ส่วน พล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล ได้ขยับเป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำปลัดกระทรวงกลาโหม

เป็นที่น่าแปลกใจที่ปรากฏชื่อ พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุก นายทหารติดตาม พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ขยับขึ้นเป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก) ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ท.นินนาท เพิ่งได้เลื่อนยศเป็นพลโท ภายหลังจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ 1 เดือนเศษเท่านั้น โดยเป็นการเลื่อนชั้ืนยศเป็นกรณีพิเศษในโควตาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จนถึงเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 เดือน กลับมีชื่อผงาดขึ้นเป็น พลเอกในตำแหน่งดังกล่าว

กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) ปรากฏว่า พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก ซึ่งหนึ่งแคนดิเดต ผบ.ทบ. และมีความสนิทสนมกับ พล.อ.สนธิ ถูกย้ายข้ามห้วยมาเป็น รอง ผบ.สส. เพื่อรอจอคิวขึ้นเป็น ผบ.สส. ภายหลังจากที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.เกษียณอายุราชการในปีหน้า พล.ร.อ. นพพร อาชวาคม เป็น รองผบ.สส. พล.อ.อ. วีรวิท คงศักดิ์ เป็น รอง ผบ.สส. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็น ประธานที่ปรึกษา บก.สส. พล.อ. เหมรัฐ ขำนิล เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พล.ท. กมล แสนอิสระ เป็น ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.ร.อ. นคร อรัณยะนาค เป็นรองเสนาธิการทหาร พล.อ.ต. ขวัญชัย เอี่ยมรักษา เป็น จก.กำลังพลทหาร พล.ต. สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ เป็นเจ้ากรมข่าวทหาร

กองทัพบก (ทบ.) เป็นไปตามคาด ตามที่ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้เสนอชื่อ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผช.ผบ.ทบ. เป็น ผบ.ทบ. คนที่ 36 ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายามว่าจะผลักดันให้ พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากไม่ได้รับความเห็นชอบจาก นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จำเป็นต้องเสนอชื่อ พล.อ. อนุพงษ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ซึ่งมีภาพลักษณ์ของความเป็นทหารอาชีพทั้งบู้ และ บุ๋น เป็นไปตามความต้องการของผู้ที่จะนำกองทัพกลับเข้าสู่กรมกองตามความต้องการของประชาชน

นอกจากนี้ พล.อ.สนธิ ยังได้เสนอชื่อ พล.อ. วีรวิทย์ คูสำราญ (ตท.7) ซึ่งเ็ป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. และขยับ พล.ท. จิรเดช คชรัตน์ (ตท.9) แม่ทัพภาคที่ 3 ที่มีบทบาทสำคัญในการสกัดการเคลื่อนไหวระบอบทักษิณ ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ซึ่งมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ. และ พล.ท. ธีระวัฒน์ บุญยะประดับ (ตท.10) เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ได้รับการผลักดันจาก พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อนร่วมรุ่นขึ้นมาเพื่อช่วยงานด้านการส่งกำลังบำรุง ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ.

สำหรับ พล.ท. มนตรี ชมภูจันทร์ (ตท.6) รองเสนาธิการทหารบก ผิดหวังจากปรับย้ายเมื่อปีที่ผ่านมาในตำแหน่งเสนาธิการทหารบก โดยถูก พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ ขยับเข้ามาเสียบในช่วงโค้งสุดท้าย แต่มาครั้งนี้ได้กลับมาผงาดเป็น เสนาธิการทหารบก สมใจตามที่ได้คาดหวัง ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปีหน้า อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในบรรดา 5 เสือ ทบ.ได้มีการกระจายรุ่นเพื่อเข้ามาบริหารกองทัพทั้งจาก ตท.6 ตท.7 ตท.9 และ ตท.10

ขณะที่ พล.อ. จิรพงศ์ วรรณรัตน์ ผทค.พิเศษ ทบ. เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ทบ.(อัตราจอมพล) พล.ท. มาลัย คิ้วเที่ยง ผช.เสธ.ทบ.ฝยก. เป็นรองเสนาธิการทหารบก พล.ท. บดินทร์ ลักษมีวาสิน ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ. เป็น รองเสนาธิการทหารบก พล.ท. ฉัตรชัย ธรรมรักษา เป็นผช.เสธ.ทบ.ฝกบ. พล.ต. อรุณ สมตน เจ้ากรมกำลังพลทหารบก เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกพ. พล.ต. ศิริชัย ดิษฐกุล เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นผช.เสธ.ทบ.ฝขว. พล.ต. กานต์ สุมะโน ผบ.พล.ร.11 เป็นผช.เสธ.ทบ.ฝยก. พล.ต. มาโนช เปรมวงศ์ศิริ เจ้ากรมสารบรรณทหารบก เป็นผช.เสธ.ทบ.ฝกร.

นอกจากนี้ การปรับย้ายนายระดับคุมกำลังในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล รวมถึงกองทัพภาคต่าง ๆ ที่มีบทสำคัญต่อการนำกำลังทหารออกมาทำการปฏิวัติ เมื่อ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับการปูนบำเหน็จได้เลื่อนขั้น และตำแหน่งกันถ้วนหน้า อาทิ พล.ต. ดุลกฤต รักษ์เผ่า รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต. สำเริง ศิวาดำรงค์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต. ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต. วรรณทิพย์ ว่องไว ผบ.พล.ม.1 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต. ชัยณรงค์ ธนารุณ ผบ.พล.ร.4 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต. เชาวฤทธิ์ ศิริกิจ เป็น ผบ.พล.ม.1 พล.ต. วรากร เพิ่มพูน เป็น ผบ.พล.พัฒนาที่ 3

พล.ต. สำเร็จ ศรีหร่าย ผบ.พล.ร.15 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต. สกล ชื่นตระกูล เป็น เสนาธิกากองทัพภาคที่ 4 พล.ต. เดชา กิ่งวงษา เป็น ผบ.พล.ร.5 พล.ต.จำลอง คุณ สงค์ เป็น ผบ.พล.ร.15 พล.ตคำนวณ เธียรประมุข รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก(จก.สพ.ทบ.) พล.ต. วรวิทย์ พันสมัย รองผบ.รร.จปร. เป็นผบ.รร.จปร. พล.ต. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต. จิระเดช โมกขะสมิต ผบ.บชร.1 เป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต. เด่นชัย เชวงโชติ ผบ.พล.ร.5 เป็นผบ.พล.ร.9 พล.ต. องอาจ คงศักดิ์ เสธ.ทน.1 เป็นผบ.บชร.1 พล.ต. ธวัชชัย สมุทรสาคร ผบ.พล.ร.6 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต. กนก เนตระคเวสนะ ผบ. จทบ.บุรีรัมย์ เป็นผบ.พล.ร.6

นอกจากนี้ยังมีการขยับนายทหารระดับพันเอกคุมกำลังสำคัญระดับกองพลที่ร่วมทำการปฏิวัติเมื่อนที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา อาทิ พ.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็น ผบ.พล.1 รอ. พ.อ.สุวินัย นิภาวรรณ เป็น ผบ.พล.ร.11 พ.อ.ธีรชัย นาควานิช เป็นเสธ.กองทัพน้อยที่ 1 พ.อ.อำพล ชูประทุม เป็นผอ.ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก พ.อ.คมสัน มานวกุล เป็นเสธ.ทภ.2 พ.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงค์ เป็น ผบ.พล.ร.4

ทั้งนี้การปรับย้ายในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 เป็นที่น่าสังเกตว่า ส่วนใหญ่ได้มีการขยับเพื่อวางทายาท แม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต โดยมีการขยับ พล.ต. ดาว์พงษ์ รัตนสุบรรณ ขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อรอจ่อตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ภายหลังจากที่ พล.ท. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่จะขยับขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ.ในปีหน้า

กองทัพเรือ (ทร.) พล.ร.อ. วีรพล วรานนท์ เสนาธิการทหารเรือ เป็น ผช.ผบ.ทร. พล.ร.อ. ประวิตร์ ศรีสุขวัฒนา เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ พล.ร.อ. เดชา อยู่พรต เป็นเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท. วัลลภ เกิดผล รองเสนาธิการทหารเรือ เป็น ผบ.โรงเรียนนายเรือ พล.ร.ท. ชาญชัย เจริญสุวรรณ เป็น รอง ผบ.กองเรือยุทธการ พล.ร.ท. ศุภกร บูรณดิลก เป็น รองเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท. ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ เป็น ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ พล.ร.ต. กัมปนาท ภู่เจริญยศ เป็น ผบ.กองเรือภาคที่ 2 กองเรือยุทธการ พล.ร.ต. ณรงค์ เทศวิศาล เป็น ผช.เสธ.ทร.ฝกพ พล.ร.ต. วีรพล กิจสมบัติ เป็น ผช.เสธ.ทร.ฝยบ. พล.ร.ต. อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ เป็นผช.เสธ.ทร.ฝขว. พล.ร.ต. เรืองทิพย์ เทียนทอง เลขานุการ ทร. เป็น เสนาธิการกองเรือภาคที่ 3 น.อ. นริส ประทุมสุวรรณ เป็นเลขานุการ ทร.

กองทัพอากาศ (ทอ.) พล.อ.อ. ไพศาล สีตบุตร ผช.ผบ.ทอ. เป็น รองผบ.ทอ. พล.อ.อ. พรชัย รามโกมุท เป็นประธานที่ปรึกษา ทอ.(อัตราจอมพล) พล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญ เป็น ผช.ผบ.ทอ. พล.อ.ท. อิทธิพล ศุภวงศ์ รองเสธ.ทอ. เป็นเสธ.ทอ. พล.อ.ท. พุฑฒิ มังคละพฤกษ์ เป็น ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ (บยอ.) พล.อ.ท. ดนัย นันทะศิริ เป็น ผบ.กองบัญชาการฝึกศึกษาทหารอากาศ (บศอ.) พล.อ.ท. คณาพันธุ์ สงวนสัตย์ เป็น ผบ.กองบัญชาการสนับสนุนทางอากาศ (บนอ.) พล.อ.ท. มานิต สุพันธุพงษ์ เป็น รองเสธ.ทอ. พล.อ.ท. อภิสิทธิ์ จุลโมกข์ เป็น รองเสธ.ทอ. พล.อ.ต. ประจิณ จั่นตอง เป็น ผช.เสธ.ทอ.ฝยก. พล.อ.ต. ชนะ อยู่สถาพร พล.อ.ต. สฤษดิ์พงษ์ โกมุทานนท์ เป็น จก.ยก.ทอ.