xs
xsm
sm
md
lg

“ประสงค์” ให้คะแนน คมช.ผ่านข้อเขียน-รัฐบาลตกเรียบต้องออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
“ประสงค์” ให้คะแนนบ้าง ประเมิน คมช.1 ปี สอบผ่านข้อเขียน เพราะเป็นผู้วางระบบองค์กรตรวจสอบต่างๆ แต่อาจตกสัมภาษณ์ ขณะที่รัฐบาล “ขิงแก่” ตกเรียบทุกประเภทต้องให้ออก ชี้บ้านเมืองเวลานี้ยังเต็มไปด้วยจอกแหน-สัตว์เลื้อยคลานที่อันตราย เพราะยังไม่มีการกำจัด

วันนี้ (18 ก.ย.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ กล่าวถึงการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ในโอกาสครบรอบ 1 ปี การทำรัฐประหารว่า บ้านเราเหมือนกับสระน้ำใหญ่ที่ผู้คนอาศัยน้ำไปใช้สอยดำรงชีวิตประจำวัน 5-6 ปีที่ผ่านมา สระน้ำเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก มีจอก แหน ทั้งสดและเน่า ทำให้น้ำเสีย กลายเป็นที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู พวกตะกวดต่างๆ อาศัยอยู่ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้คน วันที่ 19 ก.ย.ที่มีการทำรัฐประหาร เหมือนมีหินก้อนใหญ่ทุ่มลงไปกลางจอกแหนวัชพืชเหล่านั้น ทำให้แตกกระจายกันไป คนที่ใช้หินทุ่มก็ไปจัดตั้งองค์กรต่างๆ ขึ้นมาเพื่อหวังที่จะชำระสะสางให้เกิดความสะอาดของน้ำในสระแห่งนี้

“พูดง่ายๆ คือ การทำรัฐประหารเหมือนทุ่มหินก้อนใหญ่ลงกลางสระน้ำ คนที่ทำรัฐประหารก็กำหนดให้มีองค์กรนั้นองค์กรนี้ จอกแหน วัชพืชที่แตกกระจายในขณะนั้น ตอนนี้กำลังลอยกลับมาเกาะกลุ่มกันอีก นี่คือสภาพของสระน้ำที่เหมือนการเมืองบ้านเราขณะนี้” น.ต.ประสงค์ กล่าวเปรียบเทียบ

น.ต.ประสงค์ กล่าวอีกว่า คมช.ได้จัดตั้งองค์กรที่สำคัญ อาทิ องค์กรบริหาร องค์กรนิติญญัติ และองค์กรตรวจสอบหรือองค์กรสร้างกติกาใหม่ในการปกครองบ้านเมือง แต่ละองค์กรเป็นผลงานของ คมช.ที่หวังว่าองค์กรเหล่านี้จะช่วยมาทำงานเพื่อให้น้ำในสระสะอาด องค์กรนิติบัญญัติมีผลงานหลายชิ้น โดยเฉพาะกฎหมายบางฉบับที่ออกมาแล้วเป็นประโยชน์ กมธ.บางคณะก็มีผลงานที่ชัดเจนจับต้องได้ อาทิ กมธ.คมนาคม กมธ.การยุติธรรมและตำรวจ ส่วนองค์กตรวจสอบ อาทิ ป.ป.ช., คตส., สตง. และดีเอสไอ โดยเฉพาะ คตส.มีหลายชิ้นแม้จะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะต้องใช้เวลา ก็ต้องเห็นใจแต่ก็เห็นชัดสามารถชี้ไปยังผู้กระทำผิดได้ ส่วนองค์กรสร้างกติกาคือรัฐธรรมนูญ ก็ได้ทำสำเร็จลุล่วงไป มีรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ในส่วนขององค์กรบริหาร คมช.ฝากงานรื้อสระ เก็บจอกแหน วัชพืช ทำความสะอาดสระน้ำ เก็บตะกวด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ทำให้น้ำสะอาด เพราะเขามีอำนาจรัฐในการจัดการปัญหาบ้านเมือง มีบางคนบอกว่าการเมืองมีปัญหาก็ต้องแก้ด้วยการเมือง แต่มันแก้ไม่ได้ การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 จึงไม่มีทางเลือก แต่ก็ได้หยุดยั้งความเสียหายที่เกิดจากระบอบทักษิณไว้ได้ คณะรัฐบาลถึงแม้จะเป็นคนดี แต่การวิธีการทำงานแก้ไขปัญหายังไม่มีอะไรชัดเจนเป็นรูปธรรม สร้างความอึดอัดให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศที่ไม่มีเข้ามา เมื่อก่อนไทยมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 3.5-4 เปอร์เซ็นต์ รายได้ไม่พอรายจ่าย การจับจ่ายใช้สอยมีน้อยลง ทีมงานเศรษฐกิจมีอะไร ทำอะไรบ้าง ได้แต่พูดกันในภูมิภาคเอเชียไทยชนะอยู่ประเทศเดียว คือ เนปาล รวมทั้งปัญหาความมั่นคงชายแดนภาคใต้ที่มีแต่จะทรุดตัวลง

“ในโอกาสที่ครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ถ้าเป็น คมช.สอบข้อเขียนได้ สามารถวางกฎเกณฑ์ วางองค์กร วางจุดที่จะแก้ไขกับปัญหาต่างๆ ได้ แต่ต้องระวัง เพราะอาจจะตกสัมภาษณ์ได้ เพราะการสอบมีทั้งการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ ส่วนรัฐบาลสอบได้หรือสอบตกนั้น ที่ผ่านมาครบปี ข้อเขียนก็สอบตก สัมภาษณ์ก็สอบตก จากนี้ไปถ้าคิดจะแก้ตัว แต่หากยังเป็นย่างนี้อยู่ นักเรียนที่สอบตกอย่าให้ซ้ำชั้น ต้องรีไทร์ออกไป” น.ต.ประสงค์ กล่าว

น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า เหมือนนักบินที่ตนอยู่กองทัพอากาศมา กัปตันเครื่องบินนำประชาชน 60 กว่าล้านคนบินไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่เป็นอนาคตที่ดีกว่า เฆมดำ เฆมฝนข้างหน้า นักบินจะพยายามหลีกเลี่ยง เขาจะไม่บินฝ่าเข้าไปในเฆมดำในพายุฝนเหล่านั้น เพราะนอกจากจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว ลมหมุนลมแปรปรวนต่างๆ เกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่นี่เห็นเฆมดำ เมฆฝนข้างหน้าก็บินไปเรื่อย กัปตันอย่างนี้ หากไปสมัครเป็นนักบินวันทูโกอย่าไปซื้อตั๋ว เพราะอาจตายได้ แต่หากรัฐบาลคิดจะแก้ตัว ทำงานให้ดีก็ยังพอทำได้ นอกจากคิดแต่จะกลับบ้านอย่างเดียว

น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ลอกสระ ยังไม่ได้เก็บวัชพืชที่เน่าเสียให้ออกจากสระ น้ำในสระก็ยังสกปรก เงินยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง ใครมีเงินมากได้เปรียบ เราอย่าโทษประชาชนที่เขาต้องการเงิน เพราะรัฐบาลไม่ได้เหลียวแล ใครให้ก็เอา เพราะทุกคนต้องใช้ ความเข้าใจในเรื่องของคนไม่ดี คนที่ทำลายความเสียหายในบ้านเมืองของประชาชนยังไม่ทั่วถึง แล้วเราจะหวังอะไร คนในระบอบเก่าๆ ทั้งหัวคะแนน มวลชน แม้กระทั่งองค์กรภาครัฐที่อยู่ในพื้นที่และอยู่ในระบอบเก่าๆ คนที่มีเงินมากก็จะใช้สอยคนเหล่านี้ เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของเขา

“การเมืองขณะนี้เป็นการเมืองแบบ SML คือ เล็ก กลาง ใหญ่ ที่ยืนอยู่ได้แบบใหญ่ คือ พรรคประชาธิปัตย์ แบบกลางก็พรรคชาติไทย และแบบเล็กคือ พรรคมหาชน หรือกลุ่มเกิดใหม่ที่เป็นกลุ่ม GMO ที่โตเร็วก็กลายเป็นใหญ่เหมือนกัน ดังนั้น การแข่งขันถ้าจะบอกว่าขณะนี้ทุกคนคิดว่าการเมืองกลุ่มเก่าจะมีโอกาสน้อยนั้น ผมไม่เห็นอย่างนั้น ตราบใดที่ยังไม่สามารถจัดการกับจอกแหน วัชพืชในสระน้ำให้น้อยลงได้ การเมืองวันข้างหน้าก็ยังสกปรกอยู่อย่างนี้ หลังการเลือกตั้งก็ต้องเป็นรัฐบาลผสม แต่ใครจะผสมกับใครก็ต้องจับตาดู เพราะคนมีเงินก็อยากเข้ามามีอำนาจรัฐอีก คนมีเงินที่สูญเสียอำนาจจากการรัฐประหาร ก็อยากกลับมาเพราะเงินเขามี แต่พรรคใหญ่ พรรคกลางบางพรรค หรือกลุ่มที่เกิดใหม่คงจะสู้กันไม่ไหว พรรคประชาธิปัตย์ใหญ่มากกว่าเพื่อน แต่การจัดการ การแข่งขัน พรรคคงรู้ตัวดีว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร ทั้งพรรคชาติไทย และพรรคมหาชน” น.ต.ประสงค์ กล่าว

น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนมองว่าการที่คนมีเงินมากแล้วก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ การลงทุนเพื่อรักษาส่วนใหญ่ของตัวไว้ ตนเห็นว่าเขากล้าพอที่จะทุ่มทุนลงมา ในขณะที่สภาพของสังคมบ้านเรา ในระดับรากหญ้าข้อมูลยังไม่ทั่วถึง เครือข่ายของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นจุดแข็งของเขา แต่เป็นจุดอ่อนสำหรับพรรคใหญ่ๆ ที่จะลงแข่งขัน หรือพรรคใหม่ๆ ที่กำลังเกาะกลุ่มกันลงแข่งขันก็ตาม ตนมองว่าพรรค GMO ยังได้เปรียบอยู่

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น