คมช.ไฟล้นก้น เร่งเค้นผลงานโชว์หลังยึดอำนาจมาครบ 1 ปี ร่อนหนังสือถึง คตส.รายงานความคืบหน้าการสอบสวนทุจริต “แม้ว” พร้อมเครือข่าย ขณะที่ ขรก.สรรพากรยอมตายไม่ยอมซัดทอดผู้บงการสั่งโกงภาษี
วันนี้ (14 ก.ย.) รายงานข่าวจากคณะอนุกรรมการไต่สวนข้าราชการและอดีตข้าราชการกระทรวงการคลังและสรรพากร ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในส่วนของบริษัท แอมเพิลริช อินเวสเมนต์ ที่มีนายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส.เป็นประธาน เปิดเผยว่า ขณะนี้อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังมารับทราบข้อกล่าวหาครบแล้ว โดยผู้มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดต่างยืนยันว่าจะชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะอนุกรรมการ แทนการชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตนเอง
มีรายงานว่า ทางคณะอนุกรรมการมีความหนักใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือของบุคคลเหล่าเพื่อกันไว้เป็นพยาน ซึ่งทุกคนต่างไม่ยอมพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนผู้ที่สั่งการลงมา ดังนั้น จึงเป็นการยากที่จะสาวถึงตัวการที่แท้จริง เพราะในส่วนลึกแล้วทางอนุกรรมการไม่อยากเอาผิดต่อบุคคลเหล่านี้ เนื่องจากเป็นเพียงผู้รับการสั่งการลงมา และเป็นเพียงเจ้าพนักงานข้าราชการเท่านั้น
“คดีนี้เปรียบเหมือนคดีความทางอาญาในกรณีฆ่าคนตาย ที่ผู้ต้องหาไม่ยอมซักทอดไปยังผู้จ้างวานที่แท้จริง จึงเป็นการยากที่จะสาวถึงตัวบงการ กรณีนี้ก็เช่นกันข้าราชการเหล่านี้ไม่ยอมปริปาก เปิดเผยอะไรเลย หรือถ้ายอมพูด แล้วเป็นพยาน โทษพวกเขาเหล่านี้ก็จะลดน้อยลง ดังนั้นอนุกรรมการจำเป็นต้องเอาผิดบุคคลเหล่านี้ จากนี้อนุฯนำสำนวนที่ชี้แจงเป็นตัวอักษรของบุคคลเหล่านี้ มาเทียบเคียงสำนวนของอนุฯเพื่อทำการชี้มูลความผิดในชั้นแรก โดยเฉพาะการเอาผิดวินัยในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อส่งต่อไปยังกระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาต่อไป” รายงานข่าวระบุ
รายงานแจ้งว่า ส่วนคนนอกที่ คตส.ชี้มูลและตั้งอนุกรรมการไต่สวนอีก 1 คน คือ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ ผู้ทำหนังสือสอบถามการเสียภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทดังกล่าวต่อกรรมสรรพากรยังไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง แต่อนุกรรมการไต่สวนได้ส่งจดหมายชี้มูลความผิดไปยังภูมิลำเนาโดยทางจดหมาย ซึ่งมีกำหนดในการมาชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตัวเองภายใน 15 วัน
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ทำหนังสือแจ้งมายัง คตส.เพื่อขอความร่วมมือให้เตรียมข้อมูลความคืบหน้าในแต่ละคดีเพื่อนำไปแถลงผลงานครบรอบการรัฐประหาร ครบ 1 ปี ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ โดยในหนังสือประสานขอความร่วมมือจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพยานหลักฐาน สอบพยานกี่คน คืบหน้าถึงไหน ใช้กฎหมายในข้ออะไร เป็นต้น
โดย นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.กล่าวยอมรับว่าเป็นความจริงที่ทาง คมช.ขอข้อมูลมา ส่วนจะนำส่งไปยัง คมช.เมื่อไหร่นั้น ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลจากคณะอนุกรรมการในแต่ละชุดอยู่
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการพิจารณาคำร้องพิสูจน์ทรัพย์เพื่อการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส. ที่มีนายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.เป็นประธาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เรียกนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เข้าชี้แจงพิสูจน์ทรัพย์ที่ถูก คตส.อายัด คือ บัญชีของบริษัท เอสซี ออฟฟิซ พลาซา จำนวน 2 พันล้านบาท โดยนางกาญจนาภา ยอมรับว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของ น.ส.พิณทองทา ที่เตรียมจะโอนไปยังบริษัท ชินวัตรแฟมิลี่ ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มทุนในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังไม่ทันโอนไปกลับถูก คตส.อายัดเสียก่อน
แหล่งข่าวกล่าวว่า นางกาญจนาภาได้เตรียมหลักฐานการแสดงแบบเสียภาษี และหลักฐานการรับรองของผู้ตรวจสอบบัญชีมายังคณะอนุกรรมการมามอบให้อนุกรรมการฯ และนัดที่จะส่งหลักฐานเพิ่มเติมมให้อนุกรรมการฯภายใน 7 วัน รวมทั้งยังได้อ้างพยานในกรณีนี้มาให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการฯ อีก 2 ปากในวันที่ 21 ก.ย.
/0110