“อรรคพล สรสุชาติ” โฆษกวิป สนช.เผยรัฐมนตรีใช้โอกาสใกล้หมดวาระรัฐบาล เร่งดันกฎหมายมุ่งผลประโยชน์ส่วนตัว จี้รัฐปรับการทำงานเพราะยังมีกฎหมายที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่กลับส่งให้ สนช.พิจารณา
วันนี้ (12 ส.ค.) นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวถึงกรณีที่วิป สนช.ที่รัฐบาลแต่งตั้งตัดสินใจลาออกทั้งคณะว่า รู้สึกเห็นใจวิป สนช.ดังกล่าวเพราะได้รับความกดดันจากรัฐบาล ปัญหานี้รัฐบาลต้องทบทวนและปรับท่าทีการทำงาน เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาการประสานงานซ้ำซ้อนระหว่างวิปชุดที่รัฐบาลตั้ง และวิปของสภา ในส่วนที่เป็นปัญหามากๆ คือ กฎหมายที่ผ่านคณะรัฐมนตรีออกมาไม่ใช่เรื่องของนโยบายของรัฐบาลโดยรวม แต่กลายเป็นวาระของรัฐมนตรีแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งหลายครั้งมีความเห็นที่แตกต่างกันในคณะรัฐมนตรีและยังก็ไม่ได้ข้อสรุป ก็ส่งมาที่ สนช. ทั้งที่มีปัญหาคาใจกันอยู่ และรัฐมนตรีที่มีความเห็นแตกต่างก็มาล็อบบี้ ทำให้ สนช.มีความเห็นที่แตกต่าง และเกิดการเผชิญหน้าในกฎหมายหลายฉบับ
“มีหลายส่วนในกฎหมายที่วิป สนช.ทักท้วงให้รัฐบาลนำกลับไปแก้ไข แต่รัฐมนตรีบางคนดื้อ พยายามที่จะดันกฎหมายของตัวเองให้ผ่านสภา โดยมีวิธีการที่ต่างกัน จึงทำให้เกิดปัญหา นอกจากนั้นยังมีคนในรัฐบาลไปตั้งเป้า มอง สนช.หลายคนที่เห็นแตกต่างในกฎหมายหลายฉบับเป็นฝ่ายค้านของรัฐบาลในสภา และมีความพยายามเอาชนะคนที่เห็นไม่ตรงกับรัฐบาลอยู่ในทุกเรื่องโดยไม่รับฟังความเห็น ซึ่งความจริงคนกลุ่มนี้ คือคนที่ทำงานในสภา และอาจจะมีประสบการณ์มากกว่าคนในฝ่ายรัฐบาลด้วยซ้ำ” นายอรรคพล กล่าว
นายอรรคพล กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลปรับมุมมองตรงนี้ไม่ได้ก็อาจจะมีปัญหา เพราะคนที่พยายามประสานให้รัฐบาล เช่น ม.ร.ว.กำลูนเทพ เทวกุล ซึ่งเป็นคนกลาง ทำงานได้ยาก ถ้ารัฐบาลไม่สามารถตกลงกันเองได้ การประสานก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ รัฐมนตรีที่รัฐบาลส่งมาเป็นวิปสภา ทั้งนายประสิทธิ โฆวิไลกูล ที่ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีแล้ว และนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ขณะนี้ก็พยายามประสานอย่างดีที่สุด แต่เวลา สนช.ให้ความเห็น เมื่อเอากลับไปคณะรัฐมนตรีก็ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ทำงานได้ยาก
“รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับสภามากกว่านี้ เพราะยิ่งใกล้หมดวาระรัฐมนตรีหลายส่วนก็ปล่อยละเลย อยู่ไปวันๆ ไม่ให้ความสำคัญกับสภา แต่บางคนมีเรื่องส่วนตัว ก็จะเอาเรื่องที่ตัวเองต้องการให้ได้ ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญในสภาจึงมีปัญหาตลอด กฎหมายที่ สนช.อยากให้ผ่านไม่ใช่กฎหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ” โฆษกวิป สนช.กล่าว
นายอรรคพล กล่าวด้วยว่า เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือ งบประมาณ รัฐบาลกลับละเลยไม่ให้ความสนใจในรายละเอียด ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข เพราะมีกฎหมายทั้งที่ สนช.และรัฐบาลเสนอผูกพันงบประมาณเป็นแสนล้านบาทในอนาคตอยู่เป็นสิบๆ ฉบับ ดังนั้นจึงต้องมาพูดจากันในสภา อาจเกิดมุมมองที่ไม่ตรงกันอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสภาไม่ใช่สภาฝักถั่วอย่างที่บางคนในรัฐบาลต้องการ