xs
xsm
sm
md
lg

บ้านใหม่ของ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ - - ใครหนอตบทรัพย์ 6 ล้านใกล้สวนสัตว์ ?

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง


.
วันนี้ของดภารกิจประเมินสถานการณ์ภาพรวม หลีกทางให้ประเด็นเผ็ดจัดจ้านแบบปักษ์ใต้สักหนึ่งวัน

เพราะได้ยินมาว่า มีคนจำนวนหนึ่งกำลังให้ความสนใจ “บ้านใหม่” ของ ตู่ – จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นพิเศษ

ความสนใจที่ว่า สืบเนื่องจาก จตุพร ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับกับ มติชนรายวัน 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ขออนุญาตยกมาทั้งข้อความดังนี้

“.......เป็นความจริงที่ตนซื้อบ้านเมื่อเร็วๆ นี้ในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเซทฯ แต่เป็นบ้านที่มีราคาเพียง 2 ล้านกว่าบาทและมีเนื้อที่เพียง 24 ตารางวา อยู่ในปลายๆ ย่านวัชรพล ซึ่งป้ายโฆษณาของโครงการก็ยังติดตั้งอยู่ว่า ประกาศลดราคามาจาก 3 ล้านบาท โดยคนที่มีรายได้น้อยทั่วไปก็สามารถซื้อได้ แต่จากสถานการณ์การเมืองทำให้ตนต้องหาเงินมาซื้อบ้านด้วยเงินสด เพราะโครงการและธนาคารไม่ยอมปล่อยเงินกู้ ต้องรวบรวมมาจากตรงโน้นตรงนี้จนได้เงินซื้อ….”

จึงต้องขอยกนิ้วให้กับ หนุ่มใหญ่วัย 43 จากบ้านนาสาร สุราษฏร์ธานี คนนี้ เพราะแม้ขนาดอยู่ในช่วงที่การเมืองร้อน เจ้าตัวมีหน้าที่เป็นแกนนำหลักปราศรัยบนเวทีสนามหลวงจนดึกดื่นทุกคืน บางช่วงถึงขนาดบอกกับม็อบว่ามีข่าวจะถูกจับต้องหลบหาเซฟเฮ้าส์ปักหลัก

ลำบากยากเข็ญขนาดนี้ ก็ยังสู้อุตส่าห์เจียดเวลายุ่งเหยิงงานการเมือง ตระเวนเสาะหาบ้านหลังงามที่ถูกใจ สร้างหลักฐานที่รื่นรมย์ให้กับชีวิตควบคู่กันไป

งานหลวงไม่ขาด-งานราษฏร์ไม่เสีย.. แบ่งเวลาได้ดีเยี่ยม !

หลังจากเคลื่อนม็อบไปบุกบก.ทบ.รอบแรกไม่กี่วัน

พฤหัสฯ 14 มิถุนายน เวลาประมาณ 14.00 น. ปลีกตัวจากภารกิจม็อบอันศักดิ์สิทธิ์ เดินทางไปสำนักงานที่ดิน เขตบางเขน เพื่อทำธุรกรรมแจ้งโอนมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ระหว่างตน กับ บริษัท เอสซี แอสเซทฯ

ทันทีที่เดินออกจากสำนักงานที่ดิน เขามีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในฐานะเจ้าของบ้านน้อยหลังงามในย่านทำเลทองที่วงการอสังหาฯ ยกนิ้วให้

...........

คำตอบโต้ของ จตุพร พุ่งไปที่ประเด็น “มูลค่าบ้าน” เพราะก่อนนี้ข่าวว่าได้ซื้อบ้านราคาเป็น 10 ล้านบาทจากเอสซี แอสเซทฯ

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใดเลย เพราะเอสซี แอสเซทฯ ที่เติบโตเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงระยะ 3-4 ปีมานี้นั้น วงการอสังหาริมทรัพย์ยกให้ในระดับราคา และความหรูหรา

เอาเฉพาะชินณิชา วิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะโครงการเดียว มีเนื้อที่พัฒนารวม 134 ไร่ เป็นโครงการระดับไฮเอนด์ มูลค่าลงทุน 3 พันล้าน ตั้งราคาขายเริ่มที่ยูนิตละ 15 ล้านบาท แถมวันเปิดตัวเมื่อปี 2546 ยังยิ่งใหญ่ระดับที่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นประธานเคียงคู่กับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พร้อมหน้า

คนที่รู้จัก - เป็นใครก็ต้องสงสัย ว่า ตู่ – จตุพร ผู้เคยระหกระเหินแบกเป้นอนดินกินกลางทราย จากที่เคยปูเสื่อนอนงีบในที่ทำการพรรคศรัทธาธรรม พักอยู่ในห้องเล็กๆ ย่านหน้าราม และเคยไต่ดอยเป็นครูอาสา ที่เชียงดาว (เชียงใหม่) มีรสนิยมวิไลระดับ เอสซี แอสเซทฯ ไปแล้วฤา

คำชี้แจงของ จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยืนยันว่า บ้านดังกล่าว เป็นบ้านลดราคา มูลค่าเพียง 2 ล้านบาท และต้องซื้อเงินสดเพราะแบงก์ไม่ปล่อย

เป็นเหตุเป็นผลเพื่อตอบโต้กระแสข่าวมีบ้านหรู 10 ล้าน-เป็นหลัก

แต่เหตุผลดังกล่าวก็ยังไม่ครอบคลุมข้อสงสัยได้อย่างหมดจดชัดเจน-อยู่ดี

นี่จึงเป็นที่มาของข่าว บุคคลบางกลุ่ม ยังคงให้ความสนใจกับ “บ้านใหม่นายตู่” อยู่เช่นเดิม

คนที่รู้จัก ตู่-จตุพร อย่างรู้ไส้คนหนึ่ง แจ๊ค-วัชระ เพชรทอง แห่งนสพ.แนวหน้า เพราะเคยร่วมกันตั้งพรรคฯ ในรามฯ ด้วยกัน จนเกิดความขัดแย้งภายในจน ตู่-แยกออกมาตั้งพรรคใหม่

แจ๊ค นั้นรู้จัก ตู่ ดี ระดับที่รู้ถึงว่า สมัยทำกิจกรรมในรามฯ ยังต้องกินมาม่าต้มกับน้ำประปา ใส่ผักบุ้งริมสระน้ำภายในรามฯ จนแจ๊คต้องเลี้ยงข้าวบ่อย ๆ

นั่นเองจึงเป็นข้องสงสัยทำให้ แจ๊ค ถาม ตู่ ตั้งแต่ครั้งที่ปรากฏร่วมกันหอบเงิน 20 ล้านบาทก่อตั้ง พีทีวี. ว่า

“นายจตุพรเสียภาษีให้รัฐบ้างหรือไม่ ปีละเท่าไหร่?”

ประเมินจากความเคลื่อนไหวที่ กลุ่มบุคคลผู้ให้ความสนใจ “บ้านใหม่นายตู่” รอบนี้แล้ว มีความเป็นได้สูงมากที่จะมีการไล่รื้อดู รายได้ประจำปีและหลักฐานการเสียภาษีเจ้าของบ้านใหม่

ไม่เพียงเท่านั้น อาจยังต้องดูไปถึงว่า มีการทำมาหากิน ทำธุรกิจเป็นหลักฐานใด ๆ บ้าง เพราะไม่แน่ว่า ตู่-จตุพร อาจจะเข้าข่าย “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” ก็ได้

เนื่องจากว่า ระหว่างที่เริ่มรุ่งเรืองในพรรคไทยรักไทย มีผู้ใหญ่เอ็นดูผลักดันให้ดำรงตำแหน่ง

“ที่ปรึกษาด้านการเมือง ของ ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

ตู่-จตุพรซึ่งมีห้องทำงานหน้าห้องรัฐมนตรี ผู้ก่อนนี้สนแต่การเมืองได้เริ่มหันมาสนใจธุรกิจรับเหมา และธุรกิจเกี่ยวกับทรัพยากร รวม 5 กิจการ ประกอบด้วย

หจก.วิชั่น แอนด์ ซีนะรี - รับเหมาก่อสร้าง ผลิตสื่อโฆษณา, หจก. ศรีสมุย ลองสเตย์, หจก. ศรีหมวดเก้า - ประกอบธุรกิจ ขุดถ่านหิน ขุด-ขนแร่ต่างๆ, หจก.สยามเชนจ์ พอยท์ รับเหมาก่อสร้าง ถมดิน ขุดดิน

ปรับหน้าดิน และ หจก.บุตรตะวัน - รับเหมา ขุม ถมดิน ขุดถ่านหินทำเหมืองแร่

สนใจว่า กิจการดังกล่าวเจริญรุ่งเรือง เติบโตเช่นไร ?
ถ้าเติบโตรุ่งเรือง – ก็แจ้งงบดุลประจำปีต่อนายทะเบียน และผู้หุ้น ก็น่าจะมีรายได้ที่ต้องเสียภาษีประจำปีจำนวนหนึ่ง

แต่นั่นเอง มีผู้รายงานยืนยันหนักแน่นว่า กิจการต่าง ๆ ที่มีชื่อ นายตู่ เกี่ยวข้อง ล้วนแต่ปิดกิจการไปตั้งแต่รมว.ประพัฒน์ หลุดจากตำแหน่ง - ไม่มีอีกแล้วธุรกิจ

เงิน 2 ล้านบาท แม้ไม่มากเมื่อเทียบ 7.3 หมื่นล้าน
แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ต้องบอกให้ได้ว่า ได้มาจากไหน !!!

...............

ไหน ๆ ได้กล่าวถึง อดีต รมว. ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ซึ่งออกจากไทยรักไทย และปรากฏชื่อเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย เวลานี้

ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า มีข่าวเกี่ยวข้องที่ไม่สู้เรียบร้อยนักกับอดีตรัฐมนตรีคนนี้อยู่เรื่องหนึ่ง

เหตุเกิดในช่วงปี 2545 ระหว่างที่มีการพิจาณาแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ตำแหน่งหนึ่ง

ในห้วงเวลานั้นปรากฏมีชายคนหนึ่งเจรจาด้วยภาษาสำเนียงเดียวกับผู้อยู่ในข่ายพิจารณา ... พูดจาถูกคอเพราะมีพื้นเพเดียวกัน

ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าตำแหน่งใกล้ชิดรัฐมนตรี ฯ ซึ่งก็น่าเชื่อถือดี

เจรจาขอเงินจำนวน 6 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทนสำหรับตำแหน่งสำคัญนั้น

ในที่สุดก็จำต้องจ่ายให้ เพราะในยุคนั้นใครก็รู้ว่า ตำแหน่งทุกตำแหน่งล้วนเป็นเงินเป็นทองไปหมด

ข่าวที่แจ้งมา ระแคะระคายว่า การเจรจาครั้งนั้นเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับสวนสัตว์แห่งใดแห่งหนึ่ง

แม้เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องเกิดทั่วไปในยุคนั้น แต่ที่เกิดปัญหาตามมาเนื่องเพราะว่าต่อมารัฐมนตรีเจ้ากระทรวงและผู้ใหญ่อีกหลายคนไม่รู้เรื่อง -เงินที่อ้างว่าส่งให้นายก็ไม่เคยเห็น - แถมการพิจารณาแต่งตั้งครั้งนั้นไม่ได้มาจากการผลักดันของผู้อ้างตัวใกล้ชิดรายนั้นแม้แต่น้อย

เข้าข่ายสมอ้างหลอกตบทรัพย์เข้ากระเป๋าตนเองแบบไม่ต้องแบ่งใคร !!

กลายเป็นข่าวกระจายว่อนในแวดวง

อย่างไรก็ดี มีผู้ยืนยันต่ออีกว่า แม้เรื่องเน่า ๆ ได้เกิดขึ้นมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นโชคของนักตบทรัพย์รายดังกล่าวเสียทีเดียว

วันใดวันหนึ่ง ลาภลอย อาจแปรเป็น ทุกขลาภ ได้เช่นกัน
เนื่องเพราะว่า ผู้ได้ตำแหน่งใหญ่รายนั้นก็ใช่ว่าจะไร้เขี้ยวเล็บเสียเลย
ของพรรค์นี้ทุกอย่างต้องมีหลักฐานเก็บไว้ –เผื่อเหนียว

เงิน 6 ล้านบาทที่ให้ไปกับมือนักตบทรัพย์ จงใจสั่งจ่ายผ่านเช็ค !!

ขณะที่เจ้าตัวนักตบทรัพย์คงไม่เคยเห็นเงินมาก ๆ แบบนี้มาก่อน – แทนที่จะต่อรองรับเป็นเงินสดซึ่งปลอดภัยกว่า กลับลิงโลดรีบรับเช็คมาขึ้นเงิน

ต่อมาไม่นาน มีการสอบถามเรื่องราวไปยังเจ้าตัวผู้จ่ายเงิน ...เรื่องก็แดงขึ้น

หลักฐานเกี่ยวข้องจึงถูกส่งต่อมายังนักการเมืองอีกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกัน

จริงอยู่ - ไม่มีการเช็คบิลใด ๆ

สำหรับวงการนักเลงแล้ว น้องคือน้อง – พี่ไม่ฆ่าน้องกับเรื่องแบบนี้หรอก
คนที่รู้เรื่อง มีหลายเหล่า หลายวง

บางคนรู้ก็เฉยๆ บางคนเห็นเป็นตลก เพราะงานการเมือง การหากินคำโตกว่านี้มีอีกเยอะ

แต่สำหรับผู้ทำงานการเมืองบางกลุ่ม กลับเห็นต่างไป เพราะหมายเลขเช็คดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ “ร้อยจมูก” ไม่ให้นักตบทรัพย์ออกนอกลู่ทางในอนาคตได้

การเมืองโหดร้ายฉะนี้เอง ! ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ – รู้แจ้งบาดแผลตลอดกันทุกฝ่าย

จนบัดนี้ยังไม่มีผู้กล้ายืนยันว่า กระทาชายสำเนียงแปลกนักตบทรัพย์ คนนั้นเป็นใคร

ปัญหาใหญ่ของนักตบทรัพย์อยู่ที่ มีใครบ้างที่รู้เรื่องหมายเลขเช็ค 6 ล้านบาท ใบดังกล่าว

เพราะเวลา 4 ปียังไม่สายไปที่สามารถนำมาไล่เรียงหาเส้นทางเม็ดเงินได้

ถ้านักตบทรัพย์โชคไม่ดี ไม่แน่ว่า ลาภลอยวันนั้นจะกลายเป็น ทุกขลาภ ในวันนี้ !!

.............


กำลังโหลดความคิดเห็น