ประธาน คมช.ปฏิเสธแผนบันได 4 ขั้นล้างบางพรรคไทยรักไทย ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ย้ำไม่เคยแทรกแซงตุลาการรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อ “แม้ว” จะวางมือทางการเมืองจริง เพราะกลุ่ม ทรท.ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ เย้ยแผนซื้อเรือใบสีฟ้าแค่ธุรกิจ-สร้างข่าว
วันนี้ (25 มิ.ย.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวยืนยันว่าการเลือกตั้งที่จะต้องเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ตามที่กำหนดไว้ หรืออาจจะให้เร็วขึ้น ส่วนความเป็นไปได้ที่อาจจะเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปอีกนั้นไม่มีทางเป็นไปได้
ประธาน คมช.กล่าวด้วยว่า เรื่องของบันได 4 ขั้นที่พูดถึงทั้งเรื่องการยุบพรรคการเมือง คดีทุจริต การทำให้พรรคการเมืองแตกสลาย การลงประชามติรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งที่ได้บรรยายกับข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะถือได้ว่าเดือนธันวาคมจะทำให้กรณีบันได 4 ขั้นเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ว่า ไม่เคยพูดเรื่องบันได 4 ขั้น แต่ทั้งหมดต้องเป็นไปตามขั้นตอน จึงเรียกร้องให้ข้าราชการอย่าใส่เกียร์ว่าง
“เป็นการอธิบายให้ฟังว่าไม่ต้องห่วงเรื่องขั้นตอนเหล่านี้ ให้ทุกคนทำหน้าที่ของท่าน จะได้ไม่ต้องใส่เกียร์ว่าง เจตนาผมมีแค่นี้เอง ผมอธิบายชัด มันเป็นธรรมชาติขององค์กรต่างๆ ผมไม่ได้ไปบังคับวิถีใดๆ ทั้งสิ้น แต่คนที่ฟังทุกครั้ง ผู้สื่อข่าวไม่ค่อยได้ฟัง วันนั้นผู้สื่อข่าวเข้าไปอยู่ข้างใน ผมไม่เห็น ผมพูดเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” พล.อ.สนธิ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการมองว่า คมช.กดดันเพื่อไม่ให้พรรคไทยรักไทยฟื้นขึ้นมาอีก พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีทาง ตนไม่รู้จักใครเลยในตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตัดสินใจของคนทั้ง 9 คน เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.สนธิ ไม่ได้ทำ แต่อาจมีคนใน คมช.ไปดำเนินการ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่างนั้นยิ่งลำบาก ยิ่งไม่เป็นความจริง
ประธาน คมช.ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยต่อผู้ชุมนุมที่สนามหลวงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ม็อบสู้ต่อหรือสั่งให้ถอยว่า แล้วแต่มุมมอง แต่ตนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการบอกทุกคนให้หยุดได้แล้ว การชุมนุมน่าจะยุติได้แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า มองว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะหยุดการเคลื่อนไหวเองหรือไม่ ประธาน คมช.กล่าวว่า ไม่แน่ใจ เพราะถ้าต้องการยุติจริงก็ควรประกาศให้ประชาชนทราบว่าจะวางมือ และบอกกับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยให้หยุดเคลื่อนไหวเพื่อชาติบ้านเมือง วิธีนี้น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีกว่า และมีความชัดเจนมากขึ้น อีก 4-5 ปี ค่อยกลับมาเล่นการเมืองใหม่
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นความพยายามสร้างข่าว และมีความเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ภายในประเทศ ถือเป็นเรื่องของการทำธุรกิจเท่านั้น
“ในใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจมีความเชื่อมโยง เพราะเคยได้ยินคำพูดหลายๆ ครั้งของอดีตรัฐบาล เรื่องการยึดครองพื้นที่สื่อ เป็นเรื่องสำคัญ แม้แต่ผู้สื่อข่าวหลายๆ คนยังบอกว่า คมช.ควรจะอยู่บนพื้นที่สื่อให้มากๆ ถือเป็นการสร้างอิทธิพล ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งก็ได้ เพราะการอยู่บนพื้นที่สื่อมากๆ จะทำให้ประชาชนหันกลับไปให้ความสนใจ” พล.อ.สนธิ กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีผลให้ผู้ชุมนุมและอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยฮึกเหิมมากขึ้นหรือไม่ ประธาน คมช.กล่าวว่า ตนมองประชาชนระดับรากแก้วที่กำลังพลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ลงไปสัมผัส ไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มขึ้น มีแต่จะลดลง เพราะผลการตรวจสอบคดีต่างๆ ขององค์กรอิสระ ที่เผยแพร่ไปทางสื่อต่างๆ ประชาชนระดับรากแก้วรับทราบและมีความเข้าใจมากขึ้น