xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่ม ทรท.ตะแบงยื่นอุทธรณ์ตัดสิทธิ อ้างคำสั่ง คปค.ไม่ย้อนหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อดีตสมาชิกพรรค ทรท.ดื้อแพ่ง ใช้ชื่อ “กลุ่มไทยรักไทย” เคลื่อนไหวการเมืองต่อเนื่อง ด้านอดีตแกนนำคนอกหักรวมหัวถกเครียด สบช่องวัดกำลังสมาชิกเหลือแค่ 177 เสียง ลั่นเตรียมยื่นอุทธรณ์โทษตัดสิทธิ กก.บห.5 ปี อ้างคำสั่ง คปค.ไม่มีผลย้อนหลัง

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่พรรคไทยรักไทย ภายหลังลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคพร้อมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน เป็นเวลา 5 ปีนั้น นายจาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศจุดยืนทางการเมืองในอนาคตว่า อดีต ส.ส.และอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยจะร่วมมือกันทำงานทางการเมืองต่อไปในนาม “กลุ่มไทยรักไทย” แม้หลายคนจะไม่มีสิทธิใดๆ ทางการเมืองแล้วก็ตามนั้น ซึ่งล่าสุดได้มีผู้บริหารและอดีต ส.ส.ระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อที่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแสดงเจตจำนงร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มไทยรักไทยแล้วทั้งสิ้นจำนวน 177 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารและอดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 18 คน อดีต ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งปี 2548 149 คน แยกเป็น กทม.17 คน ภาคกลาง 27 คน ภาคเหนือ 46 คน และภาคอีสาน 69 คน

สำหรับบรรยากาศ ณ ที่ทำการกลุ่มไทยรักไทย อาคารนวสร ถนนพระราม 3 นั้น ตั้งแต่ช่วงเช้านายจาตุรนต์ พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มไทยรักไทย ซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสินให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เช่น นายปองพล อดิเรกสาร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายอดิศร เพียงเกษ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ได้ทยอยเดินทางมาที่สำนักงานกลุ่ม เพื่อหารือถึงทิศทางการทำงานในอนาคต โดยส่วนใหญ่ยังมีสีหน้าไม่สู้ดี และยังคงมีประชาชนที่สนับสนุนมาปักหลักให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง โดยพยายามร่วมกันร้องเพลงรำลึกถึงพรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ด้วยอาการเศร้าโศก อย่างไรก็ตาม ในช่วงสายได้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดขึ้น ทำมุมตรงกับอาคารสำนักงานกลุ่มทำให้บรรดากองเชียร์บางคนที่กำลังนั่งร้องไห้ ชี้ชวนกันดูด้วยความสนใจ โดยต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นลางบอกเหตุที่ดี แสดงว่าพรรคไทยรักไทยกำลังจะกลับมา ทั้งที่ในข้อเท็จจริงไม่ว่าจะอยู่จะจุดไหนของ กทม.ก็จะมองเห็นพระอาทิตย์ทรงกลดเช่นกัน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมหารือกับแกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรค ถึงการจัดตั้งกลุ่มไทยรักไทยและอนาคตทางการเมืองว่า จะหารือเพื่อวางแผนการทำงานร่วมกันว่าจะทำอะไรบ้าง เรื่องเร่งด่วนคือต้องรวมกันให้เป็นปึกแผ่น การตั้งกลุ่มนั้นได้เตรียมไว้แล้ว ตนจะอาสาเป็นแกนนำชั่วคราวก่อน โดยขณะนี้ต้องเสนอให้รัฐบาลยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 เป็นอันดับแรก เพื่อที่จะตั้งพรรคใหม่ได้ ตรงนี้เป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถเรียกร้องได้ ทั้งนี้จะพยายามเน้นย้ำกับประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคให้อยู่ในความสงบ อดทน มีเหตุผลในการแก้ปัญหาของชาติ แม้สภาพที่เกิดขึ้นนี้จะมาจากฝีมือเผด็จการ แต่เราจะต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยคือสนับสนุนกลุ่มไทยรักไทยให้กลับมาเป็นพรรคให้ได้โดยสันติวิธี จะยึดมั่นในหลักการนี้ต่อไปโดยไม่มีการเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจด้วยความรุนแรง เพราะไม่มีประโยชน์กับฝ่ายใด โดยเฉพาะกับกลุ่มไทยรักไทย เราจะทำงานการเมืองโดยยึดระบบรัฐสภาแน่นอน จะตั้งพรรคเพื่อไปเลือกตั้งให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะรับอดีต ส.ส.ที่ลาออกไปกลับมาร่วมงานกับกลุ่มหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า มันเร็วไป เพราะการเจอเรื่องไม่คาดคิดแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ขอให้ทุกคนค่อยๆ คิด ยอมรับว่าตนเตรียมความคิดเรื่องนี้ไว้บ้าง แต่ผลที่ออกมามันผิดคาดมาก ฉะนั้น ต้องค่อยๆ ปรับความคิดเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ยินดีที่ทุกคนมีส่วนป้องกันปัญหาและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยไม่เว้นวรรค ส่วนใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือ ต้องคุยกันเป็นทีมทีละขั้นตอน และในสัปดาห์หน้าจะคุยกันในรายละเอียด สำหรับแกนนำส่วนใหญ่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีจะทำงานการเมืองอย่างไรต่อไปนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะไปช่วยปราศรัยและติดโปสเตอร์ โดยแกนนำที่ถูกตัดสิทธินั้นจะหารือกันเพิ่มเติมและตนได้รับการติดต่อกับอดีต ส.ส.ที่ลาออกจากพรรคไปแล้วว่ายินดีที่จะมาร่วมหารือ

ส่วนจะยื่นนิรโทษกรรมกรณีของกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ หลังจากนักวิชาการระบุว่าสามารถทำได้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดกันในเรื่องนี้ แต่คิดว่าจะยื่นอุทธรณ์เพราะการนำประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 มาบังคับใช้เพื่อลงโทษย้อนหลังนั้นทำไม่ได้ เพราะไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาวิธีเพื่อทำให้ความยุติธรรมกลับมา สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำลายหลักนิติธรรมของประเทศ การออกกฎหมายย้อนหลังและลงโทษให้หนักกว่าเดิม โดยอ้างว่าการตัดสิทธิทางการเมืองไม่ใช่โทษอาญา แต่กลับมีความรุนแรงกว่า อีกทั้งกระทำภายหลังนั้น เหตุที่เกิดขึ้นมาจากคนเพียงบางคนแต่กลับลงโทษแบบเหมารวม กฎหมายที่เกิดขึ้นจากคณะยึดอำนาจที่เขียนขึ้นมาลงโทษนักการเมืองโดยอ้างว่ามีการล้มล้างประชาธิปไตย ในขณะที่โทษของผู้ที่ยึดอำนาจกลับได้รับการนิรโทษกรรม และมีอำนาจในบ้านเมืองต่อไป โดยได้รับการยอมรับ ถือเป็นความโชคไม่ดีของสังคมไทย โดยหลังจากนี้จะขอให้นักการเมืองมาหารือเพื่อขออุทธรณ์โทษ โดยจะศึกษาคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย โดยเฉพาะนายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกาที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีลงโทษย้อนหลัง




กำลังโหลดความคิดเห็น