xs
xsm
sm
md
lg

“อ๋อย” เพ้อ คิดดึง “สมคิด-สมศักดิ์-สุชาติ” ร่วมก๊วน ทรท.ยก 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จาตุรนต์” โดดรับลูก “แม้ว” ตั้งทีม กม.หาช่องอุทธรณ์วินิจฉัยตุลาการ รธน. เพ้อเจ้อหวังดึง “ธรรมาธิปไตย-มัชฌิมา-บ้านริมน้ำ” กลับรังเก่าสานต่ออุดมการณ์ ดื้อแพ่งเตรียมยื่น กกต.ขอจดทะเบียนพรรคในนามไทยรักไทย เปิดหน้าไพ่ยอมรับ “แม้ว” ยังจะให้การสนับสนุนพรรคต่อ

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่สำนักงานกลุ่มไทยรักไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรค แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับอดีต ส.ส.ของพรรคเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของกลุ่มไทยรักไทย ว่า วันนี้มีการหารือของอดีตแกนนำพรรค อดีต ส.ส.รวมทั้งอดีตแกนนำและอดีต ส.ส.ที่ลาออกไปแล้ว แต่จะขอกลับมาทำงานร่วมกันด้วย โดยมีการลงชื่อร่วมกันเกือบ 300 คน ซึ่งหากตัดชื่อของอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีแล้ว ก็คงจะเหลือประมาณ 200 กว่าคน อย่างไรก็ตาม ได้รับการประสานจากแกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ได้ลาออกไป เช่น กลุ่มมัชฌิมา ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มธรรมาธิปไตย ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และกลุ่มบ้านริมน้ำ ของนายสุชาติ ตันเจริญ ว่า บางส่วนจะมาร่วมหารือเพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน หรืออาจจะมาอยู่ด้วยกันเลย

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานการเมืองนั้น การร่วมลงชื่อในวันนี้เป็นการยืนยันอุดมการณ์ และแสดงเจตนารมณ์ ว่า เราจะใช้ชื่อพรรคว่า “พรรคไทยรักไทย” ต่อไป ซึ่งในวันจันทร์ที่ 4 มิ.ย.กลุ่มมี 2 ภารกิจ คือ 1.จะส่งตัวแทนไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ปรับปรุงหรือยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 เพราะจากการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี กับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆนั้น นายกรัฐมนตรีได้รับปากว่าจะแก้ไขโดยเร็ว หลังการตัดสินคดียุบพรรค ดังนั้น เราจะไปทวงสัญญาเพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มและประชาชนสามารถจดทะเบียนตั้งพรรคได้

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า 2.เราจะส่งตัวแทนไปพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นหนังสือแสดงความจำนง ว่า กลุ่มมีความประสงค์ที่จะจัดตั้งพรรคการเมือง และจะขอจองชื่อ “พรรคไทยรักไทย” ไว้ก่อนด้วย เพราะใครก็ตามที่ไปยื่นขอจดทะเบียนก่อน และมีสมาชิกมากกว่าย่อมที่จะได้สิทธินั้นก่อน ส่วนจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ และจะใช้ชื่อพรรคเดิมได้หรือไม่นั้น คงต้องสู้ด้วยเหตุผลและขอให้ศาลเป็นที่พึ่ง เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เราจะขอให้ กกต.ช่วยหาทางแก้ไขประกาศ คปค.ทั้ง 2 ฉบับด้วย

“ผลการหารือในส่วนที่เกี่ยวกับคดียุบพรรคและการตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีนั้น จะอุทธรณ์ได้หรือไม่ เราจะมอบให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา (แกนนำกลุ่มไทยรักไทย และอดีตรักษาการรองหัวหน้าพรรค) ร่วมกับอดีตฝ่ายกฎหมายของพรรคดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดจึงขอศึกษาคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญแต่ละคนเสียก่อน” หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการหารือด้วยว่า ในระหว่างนี้ขอให้อดีต ส.ส.กลับพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนประชาชนเพื่อให้กำลังใจและปลอบขวัญ ซึ่งน่าจะได้รับกำลังใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก สิ่งสำคัญในช่วงนี้ คือ จะทำอย่างไรเพื่อให้คงความเป็นกลุ่มและเห็นทิศทางได้ชัดเจนว่า เรายังรวมตัวเหนียวแน่นและพร้อมยืนหยัดในอุดมการณ์ของพรรคไทยรักไทยต่อไป เพราะเมื่อเป็นแบบนี้แล้วเชื่อว่าประชาชนทั่วประเทศที่กำลังเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนพรรคไทยรักไทย จะช่วยกันประคับประคองและส่งเสริมให้สมาชิกของกลุ่มรวมกันเป็นปึกแผ่น และผลักดันให้สามารถกลับมาจัดตั้งพรรคไทยรักไทยได้อีกครั้ง

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ภารกิจในช่วงนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งพรรค และการเลือกตั้ง แต่จะเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยร่วมกับประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสนใจอย่างจริงจัง การดำเนินการทุกอย่าง เราจะยึดหลักสันติวิธี ไม่สร้างความวุ่นวาย หรือการเผชิญหน้า เหมือนที่มีความพยายามหลอกล่อพวกเราอยู่หลายวันที่ผ่านมา การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจากนี้ต่อไปจะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ขอขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่ห่วงใยและให้กำลังใจพรรค ใครที่เศร้าก็ขอให้รีบเปลี่ยนอารมณ์เศร้านั้น ให้กลายเป็นพลังในการผลักดันให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งผลักดันให้กลุ่มไทยรักไทยดำเนินการทางการเมืองต่อไปและจะกลับมาอย่างรุ่งโรจน์อีกครั้ง

จากนั้นได้มีประชาชนที่มารับฟังการแถลงข่าว ได้สอบถามถึงจุดยืนทางการเมืองของกลุ่ม และเรียกร้องให้มีการเปิดเวทีไฮด์ปาร์กที่ท้องสนามหลวง เพื่อวัดพลังประชาชนที่ยังคงนิยมในกลุ่มไทยรักไทย โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยืนยันว่า เราจะใช้ชื่อพรรคไทยรักไทยต่อไป เพื่อสานต่ออุดมการณ์เดิม การดำเนินการทุกเรื่องจะยึดสันติวีธี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุด จะต่อสู้เพื่อให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา มั่นใจว่า ชั่วโมงนี้กลุ่มไทยรักไทยมีอดีต ส.ส.มากที่สุด ส่วนข้อเสนอที่ระบุว่าให้มีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อแสดงพลังสนับสนุน และวัดจำนวนประชาชนที่ท้องสนามหลวงนั้น เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ ซึ่งหากมีการเลือกตั้งย่อมจะต้องมีการปราศรัยอย่างแน่นอน เชื่อว่า จะมีประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะเราไม่ใช่พวกที่กลัวประชาชน หรือไม่อยากเจอประชาชน แต่มีแนวคิดที่จะเตรียมดำเนินการให้เกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มได้เตรียมการหาเสียงไว้แล้วหากมีโอกาสได้จดทะเบียนตั้งพรรค

จากนั้นประชาชนที่อ้างเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ได้สอบถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับผลการตัดสิน เพราะเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โทรทัศน์ถูกระงับสัญญาณในช่วงที่นายจาตุรนต์ปราศรัย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้ว และคงไม่พูดซ้ำ แต่เราไม่ได้รับความยุติธรรม จากนี้คงให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายดูแลว่าจะอุทธรณ์ได้หรือไม่ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกลับคืนมา

ส่วนช่วงเย็นวันนี้ (31 พ.ค.) จะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพีทีวีหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยืนยันว่ากลุ่มจะไม่ไปร่วม ส่วนประชาชนจะไปชุมนุมหรือไม่นั้น กลุ่มอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถห้ามประชาชนได้ แต่จะขอร้องประชาชนให้ใช้ความอดทนอดกลั้น ไม่ต้องไปแสดงพลังคัดค้านคดียุบพรรค เพราะกลุ่มไม่อยากเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะให้การสนับสนุนกลุ่มไทยรักไทยต่อไปหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว แต่ท่านก็ผูกพันกับพรรคไทยรักไทยมาก คนในไทยรักไทยก็รักท่าน มีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นเราย่อมให้การสนับสนุนและให้กำลังใจกันอย่างเต็มที่

สำหรับกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ลาออกจากพรรคไปนั้น จะกลับมาร่วมงานด้วยจริงหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้จะเริ่มสำรวจว่า ผู้ที่จะมาร่วมงานกับกลุ่มไทยรักไทยมีใครบ้าง ซึ่งจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ และตนจะทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งพรรค และได้บุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่ม หรือหัวหน้าพรรคแทน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เวลานี้เป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุด และไม่คิดว่าจะเจอ แต่ได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยม ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทย ได้มาเชิญชวนอดีต ส.ส.ของกลุ่มไปร่วมงานบ้างหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า หากทั้ง 2 พรรคดูดได้ อดีต ส.ส.คงไปนานแล้ว

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า สมาชิกกลุ่มได้ทาบทาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด เพราะต้องจดทะเบียนตั้งพรรคก่อน จากนั้นจะแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นมา คาดว่า ในขั้นตอนนี้คงยังต้องใช้เวลาพอสมควร การเลือกหัวหน้าพรรคนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องเป็นเสียงส่วนรวมของพรรคทั้งหมด

ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย และอดีตรักษาการกรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า วันนี้พวกเราคุยกันหลายเรื่องหลังจาก “แพแตก” ตามที่หลายคนกล่าวถึง แต่วันนี้เราเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประวัติศาสตร์ของพรรคไทยรักไทย ยิ่งกดก็ยิ่งมีแรงดัน เหตุการณ์การเมืองในอดีตหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อประชาชนโดนกดโดยสายตาของผู้ปกครอง จะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเสมอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายจาตุรนต์แถลงข่าวเสร็จสิ้น ประชาชนที่มาร่วมฟังการแถลงต่างตะโกนพร้อมกันว่า “ขอให้กำลังใจและขอให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง” จากนั้นแกนนำกลุ่มไทยรักไทย และอดีต ส.ส.ได้พร้อมกับจับมือและชูมือขึ้น ก่อนตะโกนพร้อมกับประชาชนที่มาฟังการแถลงข่าวว่า “ไทยรักไทยสู้ๆ จาตุรนต์สู้ๆ ทักษิณสู้ๆ คมช.ออกไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น