xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้โพรงอดีต ส.ส.ทรท.เร่งจดทะเบียนพรรคใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” งดวิจารณ์คำวินิจฉัยยุบ ทรท.แต่แสดงความเห็นใจเพื่อนสมาชิกพรรค ขอให้เร่งเปิดโอกาสจดทะเบียนพรรคใหม่ จี้ ส.ส.ร.เร่งยุติปัญหา รธน.เปิดทางเลือกตั้งโดยเร็ว แนะรัฐบาลควรให้ กก.บห.ทรท.เข้าร่วมหารือ รธน.ด้วย

วันนี้ (31 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือถึงการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ว่า หลังจากที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน เดินทางกลับจากต่างประเทศคงจะได้มีการนัดหารือกัน เพราะเคยคุยกันไว้ว่าในสถานการณ์การเมืองที่ยังมีประเด็นปัญหาที่ต้องปรึกษาหารือกันในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน โดยหลังจากที่มีคำวินิจฉัยยกฟ้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์วานนี้ (30 พ.ค.) พล.ต.สนั่น และนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบข่าวเรื่องคำวินิจฉัยของพรรคไทยรักไทย

สำหรับกรณีที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย และห้ามกรรมการบริหารพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอไม่วิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ เพราะเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ว่า จะน้อมรับคำวินิจฉัยทั้งสองคดี แต่สิ่งหนึ่งอยากจะพูด คือ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองที่อยู่ในระบบพรรคการเมือง รู้สึกเห็นใจผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย และแม้จะจริงอยู่ว่าคณะตุลาการรัฐธรรมนูญอาจจะพูดว่า คณะกรรมการบริหารกับสมาชิกพรรคต้องรับผิดชอบ แต่คิดว่าสิ่งสำคัญสำหรับบ้านเมือง ที่จะเดินต่อไป คือ เวลานี้เราต้องการที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งหลายคนใช้คำรวมๆ ว่า ขาดความเชื่อมั่นและมีความคาดหวังต่อการเลือกตั้งสูง แต่การเลือกตั้งจะตอบสนองความคาดหวังได้ จะต้องมีกติกาที่เป็นประชาธิปไตยและประชาชนต้องมีทางเลือกที่หลากหลาย ดังนั้น สิ่งที่อยากจะขอให้รีบพิจารณาคือ การเปิดโอกาสให้การจดทะเบียบพรรคการเมืองใหม่ทำได้เร็วที่สุด

“ไม่เพียงแต่ในแง่ภาพรวมว่า คนที่ไม่ได้เป็นนักการเมืองมาก่อน ควรจะได้มีโอกาสเสนอตัวเข้ามาในช่วงระยะเวลาซึ่งเราบอกว่าอีก 6 เดือนจะเลือกตั้ง แต่ในส่วนของกลุ่มไทยรักไทยเอง เขาควรจะมีสิทธิตามวิถีทางประชาธิปไตย ที่จะรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา และขอยืนยันจุดยืนที่พูดไว้ก่อนหน้าการตัดสิน ว่า เขาจะต้องมีสิทธิใช้ชื่อเดิม ผมคิดว่าอันนี้ คือ สิ่งที่อยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาโดยเร่งด่วน เพราะผมคิดว่าการแสดงท่าทีของแกนนำพรรคไทยรักไทยที่บอกว่า เขาพร้อมที่จะเดินแนวการเมืองสันติวิธีโดยวิถีทางรัฐสภา มันควรจะเป็นท่าทีที่ทุกฝ่ายสนับสนุน การที่จะไปปฏิเสธ หรือปิดช่องทางตรงนี้ มีแต่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น ฉะนั้น ภารกิจเร่งด่วนที่สุด คือ ช่วยกันทำอันนี้ เพราะเหนือสิ่งอื่นใดคือ เราเชื่อว่า ประชาธิปไตยจะมาแก้ปัญหาของประชาชน แต่เงื่อนไขของประชาธิปไตย คือ ทั้งรัฐธรรมนูญ และสภาพการแข่งขันทางการเมือง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนจะหมายรวมถึงการยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 15 และ 27 หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเน้นประเด็นเรื่องการของจดทะเบียนพรรคก่อน ส่วนเรื่องกิจกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเรียกร้องมานานแล้ว แต่ที่ต้องพูดมากเป็นพิเศษ คือ การเปิดโอกาสให้จดทะเบียนพรรคการเมืองได้ และอย่าไปตั้งแง่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น เรื่องเงื่อนไขเวลาการชำระบัญชี โดยเจตนารมณ์ถ้าเราบอกว่าคำวิจนิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญมีผลแล้วก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาดำเนินการต่อ เพราะเมื่อตุลาการฯ บอกว่า มีการกระทำความผิดขึ้น ความรับผิดชอบทางกฎหมายก็ตกอยู่กับกรรมการบริหารพรรค แต่ไม่ควรจะไปปิดทางหรือตัดสิทธิ์บรรดาสมาชิกทั้งที่เป็นอดีต ส.ส. สมาชิกทั่วไป หรือผู้สนับสนุนพรรคการเมืองในการที่จะดำเนินงานต่อไป

เมื่อถามว่า หากบรรยากาศการเมืองเป็นเช่นนี้การเลือกตั้งควรจะเป็นไปในเวลาที่รัฐบาลกำหนดในเดือนธันวาคมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ทุกคนคงมองว่าหากปล่อยให้ความไม่แน่นอนทอดนานออกไปคงไม่ดี แต่หน้าที่ตอนนี้ตกเป็นของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ต้องเร่งให้ได้ข้อยุติในปัญหารัฐธรรมนูญ และให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นที่ยอมรับ โดยจุดอ่อนที่ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่จะต้องรับฟังให้มากแล้วแก้ไขให้เป็นที่มั่นใจได้ว่า เป็นกติกาที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นประชาธิปไตย

สำหรับกรณีที่เคยเสนอให้รัฐบาล เป็นเจ้าภาพนัดพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองมาหารือเพื่อคลี่คลายสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังยืนยันข้อเสนอเดิม และต้องรวมถึงกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นคนซึ่งมีความผูกพันกับประชาชนจำนวนมาก ดังนั้น การที่จะให้บุคคลเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วม ในการแสดงความเห็นว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะของความสงบเรียบร้อย ซึ่งทุกคนก็เคารพกติกาและอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน จึงคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเคยแปรญัตติเพิ่มคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ในมาตรา 96 ว่า เท่าที่ฟัง นายจรัญ ภักดีธนากุล รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เป็นคนละเรื่องกับคดียุบพรรค แต่ยังไม่ทราบว่าเขียนไว้ว่าอย่างไร อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า ขณะนี้คุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.เดิมก็เพียงพออยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องของการป้องกันการซื้อเสียง ถือเป็นประเด็นใหม่ที่เจตนารมณ์ก็ดี แต่ยังไม่ชัดว่าที่จะเสนอจริงๆ คืออะไร แต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำประเด็นนี้ ไปผูกพันกับเรื่องของคดียุบพรรคที่ผ่านพ้นไป

เมื่อถามถึงมาตรการในดูแลความปลอดภัย คนในพรรคประชาธิปัตย์หลังจากที่พ้นคดียุบพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครควรอยู่ในความประมาท แต่ก็หวังว่า สิ่งที่ทางแกนนำของพรรคไทยรักไทยได้พูดเอาไว้ว่า จะยึดมั่นในสันติวิธี คือ สิ่งที่ดำเนินการ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะลดปัญหาลงได้มาก แต่ก็แน่นอนว่าอาจจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่อาจจะมีอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรง อาจจะมีวาระแอบแฝงอะไรก็ตาม แต่ข้อเสนอที่บอกให้เอานักการเมืองที่เป็นแกนนำสำคัญมาพูดคุยกัน ก็เพื่อที่จะบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการแนวทางรุนแรง และหากคนส่วนใหญ่มีความชัดเจนว่า ไม่ต้องการแนวทางนั้น คิดว่าหากจะมีคนต้องการสร้างวุ่นวายด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ จะประสบความสำเร็จได้ยาก

ส่วนการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งอยู่ที่การยกเลิกคำสั่งคปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ขณะเดียวกัน งานที่พรรคทำอยู่ก็จะเดินหน้าต่อไป ทั้งเรื่องนโยบายพรรคและการเตรียมหาคนลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกันไว้ส่วนหนึ่ง แต่ตอนนั้นหลายคนรอดูความชัดเจนหลังคดียุบพรรค ซึ่งตอนนี้เมื่อชัดเจนแล้ว คงทำงานได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามถึงการรับอดีต ส.ส.จากพรรคไทยรักไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคพิจารณาเป็นรายบุคคลอยู่แล้ว โดยไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีบางคนเข้ามาแล้ว แต่พรรคก็พิจารณาไปตามเกณฑ์ที่เคยใช้มาตลอด และจะไม่พิจารณาเป็นกลุ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น