คอหอย-ลูกกระเดือก ตั้งวอร์รูมจับตาชี้ขาดยุบพรรค

นายกฯ-คมช.นั่งบัญชาการตึกไทยคู่ฟ้า จัดตั้งวอร์รูมจับตาความเคลื่อนไหวการตัดสินชี้ขาดยุบพรรค มั่นใจแผนพิทักษ์ 1 ควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด

วันนี้ (30 พ.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผช.ผบ.ทบ.และ ผช.เลขาธิการ คมช. พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ในช่วงที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรค ทั้งนี้ ใช้เวลาหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง

หลังการหารือ พล.อ.สุรยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.สนธิ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายกฯ กล่าวว่า คิดว่าทุกคนคงสนใจว่าวันนี้มีการหารือกันเรื่องใดบ้าง ที่ลงมาให้ข้อมูลอยากให้พวกเราเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ในวันนี้ (30 พ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคดียุบพรรค เราก็ต้องการที่จะให้เป็นการดำเนินการในลักษณะที่เป็นไปโดยสงบ ไม่มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร จะช่วยกันดูแลพื้นที่ต่างๆ ให้มีความสงบเรียบร้อย

“ในส่วนของรัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนถึงขั้นที่จะต้องมีการออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อประกาศใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีอำนาจตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ในการติดตามกำกับดูแลเพื่อไม่ให้สถานการณ์ขยายตัวออกไป” พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวและว่า ทั้งคณะที่ยืนอยู่ตรงนี้คงจะให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวได้เป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้มีการรายงานความเคลื่อนไหวเหตุที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี อยากให้ประธาน คมช.ได้พูดในภาพรวม เพราะท่านเป็นผู้ดูแลในด้านการรักษาความมั่นคง

ด้าน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในภาพรวมของกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวในขณะนี้ ตั้งแต่ต่างจังหวัดก็ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ เราได้ใช้เจ้าหน้าที่ในส่วนของจังหวัดกำกับดูแลและรายงานให้ทราบ คาดว่า ถ้าจะมีก็เพียงในกรุงเทพฯ เท่านั้น ส่วนจะมาจากต่างจังหวัดก็อาจจะเป็นส่วนน้อย ขณะนี้คิดว่ากำลังที่วางไว้ตามแผนพิทักษ์ 1 นั้นน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด คิดว่าน่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง

“ถ้าเผื่อว่า มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ทางกองทัพบกได้ใช้มาตรการโดยที่จากอ่อนไปหาแข็ง ในเวลานี้จะเห็นว่าตามจุดต่างๆ จะมีด่านจำนวนมาก เราจะไม่มีการใช้อาวุธทั้งสิ้น ไปแต่ตัว เพื่อจะใช้การทำความเข้าใจเป็นหลัก และขอยืนยันกับทุกคน ว่า ในการวางแผนกำหนดนโยบายเราต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยกับชาติบ้านเมือง ให้ประชาชนทุกคนได้มีความสบายใจ รอการตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” พล.อ.สนธิ กล่าว

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ เป็นลักษณะใด พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จากที่มีข่าวว่าถ้าจะมีก็มีแต่ในกรุงเทพฯ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่เยอะ ตามจุดต่างๆ ในชุมชนบางส่วน และแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์ ที่เรายังติดต่อไม่ได้ทั้งหมด เราก็ระวังพวกนี้ไว้ เมื่อถามต่อว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการรายงานว่า กลุ่มชุมชนคลองเตยและจตุจักรมีการเคลื่อนไหว ประธาน คมช.กล่าวว่า เป็นจุดที่เราเฝ้าระวัง และสามารถควบคุมได้บางส่วนแล้ว หมายถึงประสานได้บางส่วนแล้ว เมื่อถามว่า ประชาชนในต่างจังหวัดมีการวิจารณ์ว่ามีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่เรามองว่าคนที่มีเจตนาที่จะเข้ามาในกรุงเทพฯ เราก็ทำความเข้าใจ หากเดินทางมาปฏิบัติภารกิจหน้าที่ หรือต้องเดินทางโดยปกติวิสัย เราก็ไม่ได้ขัดขวางตรงนั้น

เมื่อถามว่า มีการเฝ้าติดตามนักการเมืองที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความจริงเราก็กำกับดูแลอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับกลุ่มคนต่างๆ ด้วย เพราะเราไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ตรงนี้ในบุคคลสำคัญต่างๆ เหล่านั้น อาจจะถูกมือที่สามรังแก หรือไม่อย่างไร เราก็เฝ้าดูให้ในบางส่วน เมื่อถามว่า นักการเมืองเจ้าเก่าที่จะลักลอบเข้ามาทางจังหวัดเชียงรายจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงไม่จริง เพราะโดยปกติแล้วเรามีหน่วยงานอย่างกระทรวงการต่างประเทศดูแลอยู่

เมื่อถามว่า มาตรการจากอ่อนไปหาแข็งสามารถเปิดเผยวิธีการได้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การเจรจาจนถึงขั้นสุดท้าย ส่วนไม้แข็งจะเป็นอย่างไรนั้นอธิบายยาก ซึ่งถึงเวลาแล้วจะรู้เอง เมื่อถามว่า มีระยะเวลาการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดหรือไม่ ประธาน คมช.กล่าวว่า เหตุการณ์จากวันนี้ถึงพรุ่งนี้จะชี้ขาด 2 วัน จะรู้ว่าสถานการณ์แปรเปลี่ยนไปอย่างไร แต่วันนี้ก็ถือว่าเรามีความพร้อม ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีบางส่วนจะมาชุมนุมที่ลานพระบรมรูปตามที่ได้มีการขออนุญาตไว้ เราก็จะเฝ้าดูพรุ่งนี้อีกวัน เมื่อถามว่า จะใช้แผนพิทักษ์ 1 ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ยังใช้อยู่ เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพีทีวี หรือกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ จะมีการควบคุมอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เราก็ติดตามดูตลอด ดูแล้วยังไม่มีอะไรที่จะเกิดความรุนแรง ทุกคนที่มาเคลื่อนไหวก็มีเจตนาในแนวนโยบายหรือความต้องการของกลุ่มเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ถึงขั้นไหนจึงจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทาง พล.อ.สุรยุทธ์ เดินเข้ามาคว้าไมค์ พร้อมกับตอบแทนว่า ตนคิดว่าพอสมควรแล้ว อย่าไปซักท่านมากเลย เดี๋ยวไปซักรายละเอียดหมด คงไม่ได้เป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติในด้านรักษาความปลอดภัย เราบอกหมดไม่ได้ เรารู้ว่าสื่อก็อยากทราบ ตนเข้าใจ แต่ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบก็คงจะต้องทำความเข้าใจว่า บางอย่างก็ไม่สามารถอธิบายได้จนถึงเวลาที่จะปฏิบัติ เพราะว่าไม่อย่างนั้นฝ่ายที่เขาต้องการจะทราบข้อมูล จะนำไปใช้ประโยชน์ด้วยเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการติดสินคดียุบพรรค นายกฯ และประธาน คมช.ร่วมกันหารือและแถลงข่าวอีกได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ก็คงจะดูในช่วงบ่ายนี้ก่อน หากมีความคืบหน้าหรือคลี่คลายอย่างไร จะได้ชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบ ตนจะอยู่ประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อติดตามสถานการณ์เช่นเดียวกับท่านทั้งหลายเหมือนกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ประธาน คมช.ก็ได้ยืนยันแล้ว ถ้าตนไม่เชื่อท่านแล้วจะให้ตนเชื่อใคร