“ตุลาการศาล รธน.” เริ่มอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคแล้ว!

เมื่อเวลา 13.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ขึ้นบัลลังก์ เตรียมอ่านคำวินิจฉัย ยุบพรรคแล้ว โดยมีตัวแทนพรรคไทยรักไทยและประชาธิปัตย์ ทยอยเข้ารอฟัง และเมื่อเวลา 13.35 น.ที่ผ่านมา ตุลาการได้ได้เริ่มอ่านคำพิพากษาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์แล้ว


วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ประกอบไปด้วย นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธานคณะตุลาการฯ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ นายสมชาย พงษธา นายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ นายนุรักษ์ มาประณีต นายจรัญ หัตถกรรม และนายวิชัย ชื่นชมพูนุท ขึ้นบัลลังก์เตรียมอ่านคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ กรณีอัยการสูงสุดขอให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มพรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย กลุ่มที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค และพรรคไทยรักไทย นำโดยนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรค เริ่มทยอยเข้านั่งภายในห้องอ่านคำวินิจฉัยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.35 น. นายปัญญา ตัวแทนคณะตุลาการฯได้เริ่มอ่านคำวินิจฉัย กรณีอัยการสูงสุดขอให้มีคำสั่งยุบพรรคการเมือง โดยเริ่มอ่านในส่วนของกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า

ทั้งนี้ นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธานคณะตุลาการฯ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ นายสมชาย พงษธา นายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ นายนุรักษ์ มาประณีต นายจรัญ หัตถกรรม อ่านคำวินิจฉัยกรณีอัยการสูงสุดขอให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง ในส่วนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ตอนหนึ่งว่า การกระทำของบุคคลทั้งสาม(ผู้สมัครพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า) ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเลือกตั้ง นอกจากนี้การยื่นคำสั่งหัวหน้าพรรคการเมือง เพื่อรับรองเป็นเอกสารการเลือกตั้งนั้น ถือว่าเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายได้ การแจ้งความอันเป็นเท็จถือเป็นการทำความผิดตามกฎหมายอาญา

ส่วนของนายทักษนัย ผู้แนะนำบุคคลทั้งสาม เตรียมหาหลักฐานให้พาไปสมัครนั้น การกระทำดังกล่าว เป็นการอำนายความสะดวกให้ไปสมัครทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ประกอบกับรัฐธรรมนุญ การกระทำของนายทัศนัย เป็นการกระทำที่สนับสนุน ให้บุคคลทั้งสามผิดกฎหมายเลือกตั้ง

น.ส.อิสรา ยวงประเสริฐ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เป็นผู้จัดทำหนังสือของหัวหน้าพรรคส่งบุคคลทั้งสามลงรับสมัครเลือกตั้งในจังหวัดตรัง เป็นการดำเนินการแทนบุคคลที่สอง

น.ส.อิสรา เป็นหัวหน้าพรรคที่ถูกร้องที่สอง ได้รับรองว่าทั้งสามเป็นสมาชิกพรรค แต่ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำให้การของบุคคลทั้งสามว่า เป็นสมาชิกพรรคเมื่อปี49 จึงเป็นหนังสือรับรองอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้สมัครเป็นสมาชิกไม่ครบ 90 วัน ขัดกับกฎหมายเลือกตั้ง

จากการสืบสวนข้อเท็จจริงมีความเห็นว่าให้ดำเนินคดีอาญากับนางนิภา จันโพธิ์ นางรัชนู ต่างสี นายสุวิทย์ อบอุ่น ผู้สมัครจังหวัดตรัง และดำเนินคดีอาญาแก่นายทัศนัย ตามกฎหมายอาญา

นายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้มีคำสั่งยุบพรรค ในฐานะ น.ส.อิศรา ได้กระทำการปฏิปักษ์ต่อการปกครอง เป็นภัยต่อความมมั่นคงของรัฐขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.พรรคการเมือง และ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. และขอให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของ น.ส.อิศราเป็นเวลา 5 ปี

ผู้ถูกร้องได้คัดค้าน โดยให้การว่า ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยตัวเองโดยปราศจาการข่มขู่ โดยขั้นตอนการสมัคร เป็นไปตามข้อบังคับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าปี 2548โดยมีหัวหน้าพรรคเป็นผู้อนุมัติ และได้เป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่ปี 2548 ตามข้อบังคับพรรค และมีคุณสมบัติครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ลงมติเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2549 ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.2549 และการเลือกตั้งที่ต่อเนื่องมา เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่การกำหนดวันเลือกตั้ง การรับสมัคร การลงคะแนน การนับคะแนน การประกาศผล การรับรอวงผล ก็เสียไปด้วย ดังนั้น การกล่าวหาของผู้ร้องที่ว่าผู้ถูกร้องทำผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ถูกยุบพรรค น่าจะตกไปด้วย เพราะคำนิจฉัยบศาลรัฐธรตมนูญถือเป็นเด็ดขาด

(ยังมีต่อ)