นครบาลยันสถานการณ์ปกติ ลั่นงัดมาตรการเล่นงานกลุ่มป่วน

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ยังปกติเป็นที่น่าพอใจ ส่วนตามโรงแรมต่างๆ ยังไม่พบความเคลื่อนไหว พร้อมย้ำหากใครก่อความวุ่นวายให้ดำเนินการตามมาตรการทันที ส่วนตุลาการจัดตำรวจ 3 นายอารักขาเข้มก่อนและหลังพิพากษา

วันนี้ (30 พ.ค.) พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยภายหลังเดินทางนำขบวนรักษาความปลอดภัยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ถึงสถานการณ์โดยรวมในขณะนี้ว่า สถานการณ์ทั่วไปเป็นที่น่าพอใจ โดยยังไม่มีประชาชนมารวมตัวกันตามที่หวั่นเกรงกัน และถือว่ามีความสงบเรียบร้อยดี ทั้งนี้ หลายจุดรายงานมาว่ายังไม่พบการเคลื่อนไหว รวมไปถึงตามโรงแรมที่พักต่างๆ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมาก่อความวุ่นวาย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงใกล้เที่ยงคาดว่าจะมีคนอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งก็ได้สั่งการให้ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัย ห้ามนำป้ายและเครื่องขยายเสียงเข้ามาก่อความวุ่นวายในพื้นที่ รวมทั้งจะมีการตรวจอาวุธ แต่ถ้าหากเข้ามาอย่างสงบก็อนุญาตให้เข้ามาได้เฉพาะในด้านหน้าเท่านั้น ซึ่งหากกลุ่มใดก่อความวุ่นวายทางตำรวจก็จะดำเนินการตามมาตรการทันที

สำหรับในช่วงบ่ายก็จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมของพรรคไทยรักไทย และพรรคประชาธิปัติย์ เดินทางเข้ามาร่วม โดยพรรคประชาธิปัติย์ก็จะมาพร้อมกับตัวแทนของพรรคประชาธิปัติย์ โดยทางพรรคได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวก ให้มีรถนำเพื่อป้องกันความวุ่นวายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี

ส่วนแผนใน 2 วันนี้ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลทุกพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมาก็จะยังคงใช้แผนมกรา 50 ส่วนเรื่องการปิดการจราจรในถนนจักรเพชร ด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้จะยังไม่ปิดการจราจรไปจนกว่าจะมีผู้ชุมนุมเข้ามาและไม่สามารถควบคุมได้จึงจะทำการปิดการจราจร ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มที่เข้ามาเชียร์ทั้ง 2 พรรค คาดว่าไม่น่าจะมาก่อความวุ่นวาย ยกเว้นจะมีพวกกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาจจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลในบริเวณศาลรัฐธรรมนูญเป็นจำนวนมากจะกระทบต่อพื้นที่อื่นหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบ สำหรับพื้นที่สนามหลวงที่จะมีการแจ้งข่าวว่า ให้ประชาชนมารับจตุคามฯ นั้น ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่รวม 150 นายเข้าไปดูแล รวมทั้งได้แนะนำประชาชนที่เดินทางมารับจตุคามฯ ว่าเมื่อรับเสร็จก็ให้เดินทางกลับในทันที โดยจะนำแผงเหล็กไปกั้นโดยรอบ และให้มีทางเข้าออกทางเดียวเพื่อความสะดวกในการดูแลความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หลังศาลมีคำพิพากษาแล้วในช่วงเย็นจะมีการจัดเรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อปรับเปลี่ยนแผนรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง

ส่วนการให้ความคุ้มครองรักษาความปลอดภัยตุลาการรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายต่อตุลาการ 1 คน โดยมีระดับสัญญาบัตร 1 นาย ซึ่งหากทางตุลาการท่านใดไม่มั่นใจในความปลอดภัยหลังจากมีคำพิพากษาแล้ว และต้องการให้ดูแลรักษาความปลอดภัยต่อไปก็สามารถร้องขอได้

ส่วนบรรยากาศโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะย่านชุมชน เช่น พาหุรัด สำเพ็ง เยาวราช พบว่าบรรยากาศเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะถนนเยาวราช การจราจรคล่องตัวมากกว่าวันที่ศาลไม่ได้นัดฟังคำพิพากษา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ที่ทราบข่าวว่าจะมีการอ่านคำพิพากษาในคดียุบพรรควันนี้ได้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้มีการตั้งด่านจุดตรวจร่วมกันบริเวณทางแยกต่างๆ ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เช่น บริเวณแยกวังบูรพา แยกวัดตึก เพื่อสกัดกั้นการใช้รถโดยสาร หรือรถกระบะลำเลียงประชาชนเข้ามายังศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตามร้านค้าต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิดบริการตามที่ทาง กทม.ขอความร่วมมือ ส่วนร้านที่เปิดบริการเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยแม่ค้าส่วนใหญ่บ่นว่ารู้สึกเสียดายที่ต้องขาดรายได้ไป แต่ก็ยอมรับในความไม่ปลอดภัย และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 09.10 น. ได้มีกลุ่มนักศึกษารามคำแหง ใช้ชื่อว่า กลุ่มแสงสว่างเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 30 คน นำโดยนายอธิวัฒน์ บุญชาติ ได้นำแถลงการณ์มายังศาลรัฐธรรมนูญ โดยเรียกร้องให้ตุลาการทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม และตัดสินคดีโดยไม่อิงตามกระแสของสังคม พร้อมกับนำเทียนไขเพื่อมามอบให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อจุดส่องแสงสว่างในการพิพากษาคดีอีกด้วย