สมาชิก “ปชป.-ทรท.” ทยอยเดินทางเข้าพรรคปักหลักรอลุ้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาคดียุบพรรค ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร เข้าตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
รายงานข่าวแจ้งบรรยากาศที่พรรคไทยรักไทยตั้งแต่ช่วงเช้าว่า มีคณะสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก โดยทางพรรคได้จัดตั้งเวทีด้านหน้าอาคารสำนักงานไว้รอแถลงข่าวแถลง และทำกิจกรรม ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอาคารที่ทำการพรรคไทยรักไทย มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราตามปกติ ไม่มีการตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกัน ได้มีแกนนำพรรคเริ่มทยอยเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค เช่น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองหัวหน้าพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ทีมกฎหมายของพรรค โดยในเวลาประมาณ 09.00 น. สมาชิกพรรคจะเดินทางมาประชุมร่วมกัน จากนั้นเวลา 10.00 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วยแกนนำและสมาชิกพรรคจำนวน 20 คนจะเดินทางไปฟังคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญในช่วงเวลา 14.00 น. โดยภายหลังจากฟังคำตัดสินแล้ว สมาชิกพรรคไทยรักไทยจะเดินทางกลับมายังที่ทำการพรรค เพื่อมาแถลงให้สมาชิกรับทราบถึงทิศทางทางการเมืองของพรรคว่าจะเป็นไปในแนวทางใด
ด้าน นายพงศ์เทพ ยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้ไปเกณฑ์คนให้มาร่วมชุมนุมในช่วงนี้ เนื่องจากมีกระแสข่าวลือมาเมื่อคืนที่ผ่านมา และขอย้ำว่าคนที่จะมาให้กำลังใจไม่ต้องเดินทางมาที่พรรค โดยให้รอฟังผลอยู่ที่บ้าน
ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าเช่นกัน โดยมีสื่อมวลชนมาติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด ส่วนแกนนำพรรคได้เริ่มทยอยเดินทางมาถึง เช่น นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ฝ่ายกฎหมาย นายสาธิต วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค และนางผุสดี ตามไท ผู้อำนวยการพรรค ซึ่งต่างแสดงความมั่นใจว่าไม่ได้กระทำความผิดจนถึงขั้นจะถูกยุบพรรคได้ และประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันตายแม้จะถูกยุบจริง ก็จะสามารถจดทะเบียนพรรคในชื่อเดิมได้
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และบรรดาแกนนำพรรคได้เดินทางไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ที่อาคารรัฐสภา ก่อนเดินทางไปรับฟังการพิจารณาคดียุบพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีผู้ใดเดินทางมายังที่ทำการพรรค
ทั้งนี้ ก่อนจะมีการพิจารณาคดี จะมีฝ่ายความมั่นคงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 และเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาคุมเข้มบริเวณพรรคโดยรอบ ซึ่งจะมีการนำเครื่องตรวจวัตถุระเบิดมาตรวจรถและบุคคลที่เข้าออกบริเวณพรรคเพื่อป้องกันบุคคลภายนอกมาสร้างความวุ่นวายในช่วงตัดสินคดี