ตร.-ทหารตรึงกำลังรอบอาคารศาลรัฐธรรมนูญเต็มอัตรา พร้อมมีการตรวจวัตถุต้องสงสัยละเอียดยิบ โดยกำหนดเป็นพื้นที่หวงห้ามพิเศษ ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.คณะตุลาการศาล รธน.ทั้ง 9 คนภายใต้การอารักขาสุดเข้มงวดเดินทางมาถึงแล้ว ก่อนเริ่มนาทีเป็นนาทีตายชี้ขาดอนาคต “ประชาธิปัตย์” เป็นอันดับแรก เวลา 13.30 น. จากนั้นถัดไปอีก 1 ชั่วโมงถึงคิว “ไทยรักไทย”
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเตรียมความพร้อมรับกับการพิจารณาคดี 5 ยุบการเมือง ที่ประกอบด้วย พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปปัตย์ พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคแผ่นดินไทย และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญที่จะอ่านคำวินิจฉัย และแถลงผลการลงมติในช่วงบ่ายของวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความของพร้อมของฝ่ายต่างๆ ที่รับผิดชอบได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณโดยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรม โดยการดูแลรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยต่างๆ ที่รับผิดชอบได้เร่งตรวจตราความเรียบร้อย อีกทั้งได้นำเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจำนวน 2 ตัวมาติดตั้งไว้บริเวณทางผ่านเข้าออกตัวอาคารสำนักงานฯ และได้นำสุนัขตำรวจจำนวน 2 ตัวเข้าตรวจหาวัตถุระเบิด และวัตถุต้องสงสัยในบริเวณโดยรอบตัวอาคารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนการมาตรการตรวจตราคนเข้าออกภายในบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลได้ใช้มาตรการเข้ม หากบุคคลใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีบัตรอนุญาตจะไม่ให้เข้ามาในพื้นที่สำนักงานฯ อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่หวังดีอาจจะแอบแฝงเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้ อีกทั้งยังได้วางกำลังตำรวจและทหารไว้บริเวณโดยรอบของศาลประจำอยู่ตามแยกต่างๆ อยู่รอบ ตั้งแต่แยกบ้านหม้อ เชิงสะพานพระปกเกล้า บริเวณหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบฯ จนถึงบริเวณหน้าสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตบพิธพิมุขmanager
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มมวลชนที่ไม่เกี่ยวข้องเดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีการชุมนุมของกลุ่มวลชนใด ขณะที่ร้านค้าและบ้านพักที่อยู่โดยรอบสำนักงานต่างปิดประตูหน้าต่างไม่กล้าออกมา แต่ใช้วิธีสังเกตการณ์บนชั้นสอง หรือชั้นดาดฟ้า ทั้งนี้ยังมีกำลังตำรวนนอกเครื่องแบบที่มาจากหลายหน่วยงานซึ่งมีสัญลักษณ์ที่ติดริบบิ้นสีเหลืองที่หน้าอกเพื่อแสดงคนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงบริเวณหน้าสำนักงานขอให้ประชาชนรอรับฟังคำวินิจฉัยด้วยความสงบ อย่าก่อความวุ่นวาย พร้อมกับขอให้ประชาชนระลึกถึงพระดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไม่ต้องให้การเกิดความวุ่นวาย และเปิดเพลง “รักกันไว้เถิด” สลับกับเพลง “ภูมิแผ่นดิน”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการจราจรบริเวณถนนจักรเพชร ที่อยู่ด้านหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มติดขัดและมีปริมาณยานพาหนะหนาแน่นอย่างมาก ส่งผลให้สะพานพระปกเกล้ามีจำนวนรถยนต์ติดขัดตลอดทั้งสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการระบายจำนวนรถอย่างเร่งด่วน
ด้าน นายสนิท จรอนันต์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงขั้นตอนในการอ่านคำวินิจฉัยในช่วงบ่ายของวันนี้ว่า การอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญจะเริ่มตั้งแต่ 13.30 น.ตามที่คณะตุลาการกำหนดไว้ โดยจะเริ่มจากกลุ่ม 2 ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า
หลังจากอ่านเสร็จสิ้น คณะตุลาการก็จะพักเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้ตัวแทนพรรคจากกลุ่ม 1 ประกอบด้วย พรรคไทยรักไทย พรรคแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย ได้สับเปลี่ยนที่นั่งจากด้านหลังมาอยู่ข้างหน้าแทนที่พรรคในกลุ่ม 2 ส่วนตัวแทนพรรคในกลุ่ม 1 จะขออนุญาตไม่ฟังการอ่านคำวินิจฉัยของกลุ่ม 1 ได้หรือไม่นั้น คงจะต้องขออนุญาตจากคณะตุลาการ เพราะตามหลักแล้วผู้ใดที่เข้าไปนั่งในห้องพิจารณาคดีคณะตุลาการจะไม่อนุญาตให้เข้าออกห้องพิจารณาคดี จนกว่าการอ่านคำพิจารณาคดีจะเสร็จสิ้น
นายสนิท กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ต้องห้ามที่จะไม่อนุญาตให้บุคคลใดๆ เข้าออกระหว่างพิจารณาคดีตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากที่คณะตุลาการได้เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เจ้าหน้าที่จะปิดพื้นที่บางส่วนภายในสำนักงานเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการของขั้นตอนกาเตรียมเอกสาร และการดำเนินงานต่างๆ ของคณะตุลาการ ทั้งนี้เพื่อให้ทุกอย่างเป็นความลับจนกว่าคณะตุลาการได้อ่านคำแถลงเสร็จสิ้น
นายสนิทยังกล่าวถึงคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการแต่ละคนว่า ในส่วนของสำนักงานฯ จะไม่มีการแจกคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการแต่ละคน โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดตามได้จากราชกิจจานุเบกษา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตุลาการแต่ละคนด้วยหากจะเผยแพร่เองโดยตรงก็เป็นเรื่องของตุลาการแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังมีการอ่านคำวินิจฉัยกลางผ่านไปประมาณ 20 นาทีแล้วจะมีการนำคำวินิจฉัยดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบรายละเอียดด้วย
ส่วนการรักษาความปลอดภัยในขณะนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการคุมเข้มไว้หมดแล้ว ส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในศาลรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด และขอให้ติดตามฟังคำวินิจฉัยจากการถ่ายทอดทางโทรทัศน์แทนการเดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 08.30 น. คณะตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนได้เดินทางจากศาลฎีกามายังศาลรัฐธรรมนูญด้วยรถตู้ โดยมีคณะติดตามรักษาความปลอดภัยร่วมคณะรวมทั้งสิ้นกว่า 10 คัน ทั้งนี้ ในขบวนรถดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมคณะเดินทางมาด้วยเพื่อควบคุมความปลอดภัยให้แก่คณะตุลาการในการเดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เมื่อคณะตุลาการเดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อย รถที่คณะตุลาการนั่งได้วิ่งเข้าไปด้านหลังในทันที และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าสัมภาษณ์และบันทึกภาพ
/0110
