นายกฯ มั่นใจวันติดสินคดียุบพรรคเหตุการณ์ไม่รุนแรง บอกช่วงศาลอ่านคำพิพากษาจะนั่งฟังอยู่ในทำเนียบฯ ย้ำการประกาศภาวะฉุกเฉินต้องรอดูสถานการณ์ก่อน เผยนายกฯ จีนสนใจการเมืองไทยสอบถาม “จะมียุบพรรคหรือไม่”
วันนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนประเทศจีน ถึงกรณีการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ว่า ภาพรวมไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง แม้อาจจะมีสถานการณ์ที่ดูแล้วอาจจะมีความรุนแรง แต่จริงๆ ไม่ถึงกับทำให้เป็นปัญหาในการแก้ไขสถานการณ์ของบ้านเมือง
ถามว่า จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือไม่ หากสถานการณ์มีความรุนแรงเกินกว่าควบคุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องดูว่าเข้าอยู่ในเกณฑ์ของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ เพราะในนั้นจะระบุชัดเจนว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องประกาศใช้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเท่าที่ได้รับรายงาน สถานการณ์เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร และในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้จะทำงานอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการหารือกับประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของจีน ได้พูดถึงสถานการณ์ในภูมิภาคและในโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งสองคนเข้าใจความก้าวหน้าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายเหวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เข้าใจว่าเหตุใดถึงต้องลดเวลาการเยือนลง เพราะรู้ว่าในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้จะมีการตัดสินคดียุบพรรค
“นายกรัฐมนตรีจีนได้ถามว่าตกลงจะมีการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ผมตอบไปว่าไม่ได้ติดต่อศาล ต้องรอผลวันที่ 30 พ.ค.นี้เหมือนกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับภารกิจเยือนจีนของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในวันอังคารที่ 29 พ.ค.ซึ่งเป็นวันที่ 2 ในการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ โดยเวลา 08.15 น. นายถังเจียสวน มนตรีแห่งรัฐจีนเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.สุรยุทธ์ ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และการถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี อย่างดีเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความผูกผันที่แน่นแฟ้นในระดับราชวงศ์กับรัฐบาลจีน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์เมืองในประเทศไทยว่ารัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะนำพาประเทศให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน รัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและเป็นประชาธิปไตย
ขณะที่ นายถังได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณและความซาบซึ้งในการต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเห็นว่าความสัมพันธ์ไทยจีนนั้นเปรียบเสมือนพี่น้องกัน นอกจากนี้ ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีของไทยได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของจีนและได้มีการลงนามแผนปฏิบัติการร่วมกัน ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการเยือนจีนในครั้งนี้
ในโอกาสนี้ นายถังได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างไทย-จีนที่แน่นแฟ้น มุ่งขยายความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ รวมทั้งสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีขึ้นดำรงตำแหน่ง ไทยสามารถรักษาความมั่นคงทางการเมืองและสวัสดิภาพของประชาชน ซึ่งนับว่าเป็นผลงานซึ่งเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นอกจากนี้ นายถัง กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของไทยเป็นอันดับต้นๆ ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่ว่าสถานการณ์โลกและการเมืองของทั้งสองประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นโยบายดังกล่าวจะยังดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง
พร้อมกันนี้ รัฐบาลจีนยังให้ความสำคัญกับโครงการในพระราชดำริต่างๆ และมีความยินดีที่จะมอบเงินช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทนมูลค่า 8 ล้านหยวน ซึ่งรัฐบาลจีนและไทยจะร่วมกันเร่งรัดและส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาศึกษาและจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกันต่อไป
/0110