“พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุข” คนสนิทนายกรัฐมนตรี ยันข่าวลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นความจริง โยนขี้สื่อปะติดปะต่อข่าวไปเอง แถมประจวบกับช่วงที่มีการยื่นหนังสือให้ปลดนายกรัฐมนตรี เลยเป็นกระแสข่าวขึ้นมา แต่ยอมรับข่าวลอบสังหารนายกฯมีทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะสมัย “ป๋าเปรม” เจอของจริง ชี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
วันนี้ (10 พ.ค.) พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุข นายทหารคนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่มีกระแสข่าวการลอบสังหาร พล.อ.สุรยุทธ์ ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง เข้าใจว่า เป็นการปะติดปะต่อข่าวของสื่อมวลชนบางฉบับ เพราะเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ได้นั่งรถเบนซ์ เอส-คลาส ติดป้ายทะเบียน ษห 3835 ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยใช้สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.สนธิ ไม่ได้ติดป้าย ศท 1251 ซึ่งเป็นทะเบียนที่ใช้ประจำ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่ใช้ทะเบียน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพราะ พล.อ.สนธิ ได้นำรถไปเข้าตรวจสภาพมา และยังไม่ได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนเดิมออก
พล.ท.นินนาท กล่าวว่า เรื่องการแยกแยะว่าเป็นรถของใครนั้น ในทางทหารมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะจะดูจากรถมอเตอร์ไซค์สารวัตรทหารที่นำขบวน เพราะแต่ละคนมีรถมอเตอร์ไซค์สารวัตรทหารนำขบวนที่มีหมายเลขต่างกัน สามารถแยกแยะได้ ดังนั้น ประกอบกับวันดังกล่าวที่มีการนำรถแจมเมอร์ คือ รถโตโยต้า พลาโด สีขาว ที่ติดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์จากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) มาจอดไว้บริเวณที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็มีการเอาไปปะติดปะต่อกันว่าเป็นเพราะมีการลอบสังหารประธาน คมช.และนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รถตัดสัญญาณดังกล่าวเป็นเพียงรถที่ปฏิบัติงานอยู่กับที่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้ง และยืนยันว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้เข้าร่วมขบวนของทั้งนายกรัฐมนตรี และประธาน คมช.แต่อย่างใด
“เรื่องข่าวการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี มีมาทุกยุคทุกสมัย ขนาด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็เคยโดนมาแล้ว แต่ของท่านนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ข่าวของ พล.อ.สุรยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแน่นอน แต่อาจเป็นเพราะมาประจวบกับช่วงที่มีการยื่นหนังสือให้ปลดนายกรัฐมนตรี จึงเกิดเป็นกระแสข่าวขึ้นมา” พล.ท.นินนาท กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ พูดเป็นนัยว่า ได้ใช้ชีวิตมานานพอสมควรแล้ว และพร้อมเสมอ อะไรจะจบก็จบ พล.ท.นินนาท กล่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ก็มีทั้งคนชอบและคนเกลียด ซึ่งเป็นพวกที่เกลียด เพราะเสียประโยชน์ในเรื่องต่างๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยากฝากให้สื่อตระหนักก่อนลงข่าวด้วยว่า มีมูลความจริงหรือไม่ เพราะข่าวการลอบสังหารที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อเศรษฐกิจประเทศ พอข่าวนี้ออกมา หุ้นก็ตกเสียหายไปหมด และอยากถามด้วยว่า เสนอข่าวไปอย่างนี้ ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร
วันนี้ (10 พ.ค.) พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุข นายทหารคนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่มีกระแสข่าวการลอบสังหาร พล.อ.สุรยุทธ์ ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง เข้าใจว่า เป็นการปะติดปะต่อข่าวของสื่อมวลชนบางฉบับ เพราะเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ได้นั่งรถเบนซ์ เอส-คลาส ติดป้ายทะเบียน ษห 3835 ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยใช้สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.สนธิ ไม่ได้ติดป้าย ศท 1251 ซึ่งเป็นทะเบียนที่ใช้ประจำ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่ใช้ทะเบียน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพราะ พล.อ.สนธิ ได้นำรถไปเข้าตรวจสภาพมา และยังไม่ได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนเดิมออก
พล.ท.นินนาท กล่าวว่า เรื่องการแยกแยะว่าเป็นรถของใครนั้น ในทางทหารมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะจะดูจากรถมอเตอร์ไซค์สารวัตรทหารที่นำขบวน เพราะแต่ละคนมีรถมอเตอร์ไซค์สารวัตรทหารนำขบวนที่มีหมายเลขต่างกัน สามารถแยกแยะได้ ดังนั้น ประกอบกับวันดังกล่าวที่มีการนำรถแจมเมอร์ คือ รถโตโยต้า พลาโด สีขาว ที่ติดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์จากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) มาจอดไว้บริเวณที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็มีการเอาไปปะติดปะต่อกันว่าเป็นเพราะมีการลอบสังหารประธาน คมช.และนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รถตัดสัญญาณดังกล่าวเป็นเพียงรถที่ปฏิบัติงานอยู่กับที่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้ง และยืนยันว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้เข้าร่วมขบวนของทั้งนายกรัฐมนตรี และประธาน คมช.แต่อย่างใด
“เรื่องข่าวการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี มีมาทุกยุคทุกสมัย ขนาด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็เคยโดนมาแล้ว แต่ของท่านนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ข่าวของ พล.อ.สุรยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแน่นอน แต่อาจเป็นเพราะมาประจวบกับช่วงที่มีการยื่นหนังสือให้ปลดนายกรัฐมนตรี จึงเกิดเป็นกระแสข่าวขึ้นมา” พล.ท.นินนาท กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ พูดเป็นนัยว่า ได้ใช้ชีวิตมานานพอสมควรแล้ว และพร้อมเสมอ อะไรจะจบก็จบ พล.ท.นินนาท กล่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ก็มีทั้งคนชอบและคนเกลียด ซึ่งเป็นพวกที่เกลียด เพราะเสียประโยชน์ในเรื่องต่างๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยากฝากให้สื่อตระหนักก่อนลงข่าวด้วยว่า มีมูลความจริงหรือไม่ เพราะข่าวการลอบสังหารที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อเศรษฐกิจประเทศ พอข่าวนี้ออกมา หุ้นก็ตกเสียหายไปหมด และอยากถามด้วยว่า เสนอข่าวไปอย่างนี้ ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร