โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร 456 ตำแหน่ง “ตท.10” ร่วมรุ่น-คนติดตาม “ทักษิณ” ถูกเด้งพ้นวงโคจรอีกชุดใหญ่ ด้านแม่ทัพ 2 เข้ากระทรวง รอขึ้นยศพล.อ. ส่วนรองแม่ทัพ 2 ย้ายเข้าฝ่ายเสธฯ ประจำสำนักงานผู้บังคับบัญชา กินอัตรายศพลโท ขณะที่ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ถูกโยกเป็นที่ปรึกษาพิเศษ โดยให้มีผลวันที่ 1 เมษายน 2550
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ จำนวน 456 นาย โดยที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 456 นาย โดยมีบางตำแหน่งที่น่าสนใจ ดังนี้
ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรชัย กรานเลิศ รองเสนาธิการทหาร เป็นที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ตท.10 ร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร)
พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม รอขึ้นยศ พล.อ. ขณะที่ พล.ต.ธีระศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา สำนักงานผู้บังคับบัญชากองทัพบก (อัตราพลโท)
พล.ท.ฉัตรชัย ถาวรบุตร รองเสนาธิการทหารบก เป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อดีตทหารติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ)
พล.ท.ชัยพัฒน์ ธีรธำรง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก
พล.ต.พัลลภ เรขะรุจิ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร
ส่วนกองทัพบก พล.อ.อธิคม ตันเลิศ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พล.อ.องค์กร ทองประสม (อดีตแม่ทัพภาคที่ 4) ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุข ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
กองทัพเรือ พล.ร.อ.ชูศักดิ์ เอโกบล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ
กองทัพอากาศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ
พล.อ.ท.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการทหารอากาศชั้นสูง กองบัญชาการฝึกศึกษาทหารอากาศ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ (ตท.10) พล.อ.ท.วีระคุปต์ ศรีสงคราม รองผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ (ตท.10)
ขณะเดียวกัน ดัน พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา รองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นแม่ทัพภาคที่ 2
พล.ต.พัลลภ ตุละรัต ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ เป็นรองหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา
พล.ท.จิตติพงศ์ สุวรรณเศรษฐ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ พล.ต.ดุลกฤต รักษ์เผ่า รองแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.วิลาศ เย็นบำรุง ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 1 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2
ขณะเดียวกัน มีการโยกย้ายผู้บังคับการจังหวัดทหารบกในภาคอีสาน และภาคเหนือกันระนาว เช่น จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ตาก อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา เชียงราย เป็นต้น
ด้านพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจาก จ.นครศรีธรรมราช ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารที่ไม่ปรากฏชื่อ พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) จะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเรื่องนี้กระทรวงกลาโหมขอตัว พล.อ.ไวพจน์ กลับไปทำงานต่อ
ส่วนการจะสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนนั้น ต้องสรรหาภายหลัง พล.อ.ไวพจน์ กลับไปทำงานที่เดิมแล้ว ซึ่งการสรรหาทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการ โดยตนจะเป็นผู้ตัดสินใจคนสุดท้าย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธจะลงลึกว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง จะเป็นทหารหรือไม่ โดยย้ำว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
