xs
xsm
sm
md
lg

“สพรั่ง” ส่งสัญญาณลงดาบคนเลวระบอบทักษิณขั้นเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร” ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.ให้สัมภาษณ์สภาท่าพระอาทิตย์ (8 ก.พ.50) ลั่นเดินหน้าจัดการคนเลว ชี้ขณะนี้ทักษิณใช้รูปแบบการสร้างภาพ คิดว่ามีเงินซื้ออะไรก็ได้ทุกอย่าง ย้ำคมช.จับตามองกลุ่มคลื่นใต้น้ำที่แฝงตัวเงียบอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งสัญญาณเตือนคนเดือนตุลา และกุนซือระบอบแม้วหยุดทำลายสถาบัน ก่อนลงดาบขั้นเด็ดขาด

คลิกที่นี่ เพื่อฟังการสัมภาษณ์ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร

รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550 ดำเนินรายการโดยอัญชลี ไพรีรัก และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที

อัญชลี – พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ตอนนี้อยู่ในสายกับเรา สวัสดี พล.อ.สพรั่ง ค่ะ

ยุทธิยง – สวัสดีครับ

พล.อ.สพรั่ง – สวัสดีครับ คุณอัญชลีกับคุณยุทธิยงใช่ไหมครับ

อัญชลี – ขอเรียนถามเรื่องกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร กับบริษัทล็อบบี้ยิสต์ล่าสุดนี่แหละค่ะ ที่ไปจ้างให้ดำเนินความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อกดดันรัฐบาลกับ คมช.นี่ ทาง คมช.เองตอนนี้มีความคิดเห็นจะทำประการใดต่อไปคะ

พล.อ.สพรั่ง – เราได้ให้ความจริงกับประชาชนเป็นบางส่วนไปทุกระยะแล้วนะครับ และความสนใจเราขึ้นอยู่กับว่าต้องแปรเจตนาสื่อที่เขาออกสัมภาษณ์ทางสิ่งพิมพ์หรือว่าทางโทรทัศน์ เราต้องอ่านเจตนาลึกๆนะครับ ว่ามันมีผลในด้านใดบ้างที่เขาต้องการ และบางอย่างเราไม่ตอบโต้ในสิ่งที่เขาได้สื่อให้เราทราบ เพราะประสบการณ์ของพวกเรานั้นผ่านสนามรบมา การวิเคราะห์สถานการณ์รบนี่มันหนักกว่า สลับซับซ้อนกว่า อันตรายกว่า ย่อมเหนือกว่าแผนตื้นๆของใครก็ตามนะครับ ที่คิดอย่างแยบยลและก็ปกปิดแผนตัวเองมาให้ดูดีนะ เราเจาะลึกได้ทุกเรื่องแหละครับ แต่บางเรื่องเราไม่ต้องบอกเขาว่าเราจะตอบโต้อย่างไรนะ แต่ว่าเราก็ทำของเรามาโดยเรียกว่าป้องกันแล้วว่าเขาต้องคิด

เราได้คิดล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะทำอะไรๆ และก็คนที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอื่นๆด้วยนะครับ ที่ทำร้ายบ้านเมืองทั้งภาคใต้ ทั้งเรื่องของความอ่อนแอของสังคม ในเรื่องปัญหาแรงงาน ยาเสพติด เราคิดหมดใน กอ.รมน.ด้วย ตอนนี้ คมช. กอ.รมน. และรัฐบาลนะครับ รวมทั้งสภาต่างๆเราก็มาจากที่เดียวกัน ก็คือกำเนิดจากจุดความรักชาติ ห่วงใยชาติ ร่วมมือกันรวมตัวกันนั่นแหละ เราช่วยกันคิดช่วยกันทำ นี่พูดในเชิงตรรกะเหตุผลที่พวกเราคิดตามสถานการณ์เกาะติดทุกวันนะครับ และก็ตอบโต้เรียกว่ายิงกันรายวันถ้าเป็นการรบน่ะ เป็นการต่อสู้รายวัน หรืออาจจะเป็นรายสัปดาห์ สรุปกันรบกันทีอะไรอย่างนี้ ก็อยากจะบอกว่าเราเชื่อมั่น ตราบใดที่โลกมันยังไม่แตกนี่นะ ความเลวมันทำร้ายตัวมันเองอยู่แล้ว เราเข้าใจใช่ไหมว่าความเลวมันทำร้ายตัวมันเองอยู่แล้ว

อัญชลี - พล.อ.สพรั่ง คะ อย่างกรณีที่คุณทักษิณไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ว่าให้บีบ ให้กดดันรัฐบาลนี่ เราจะมีการแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลสหรัฐไหมคะ ขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลสหรัฐไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ตอนนี้ทาง คมช.เองก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกระทรวง ทบวง กรม ผ่านทางคณะรัฐมนตรีนะครับ ที่เรามีการพบปะพูดคุยกันสายตรงกันได้อยู่แล้ว เรื่องต่างๆเหล่านี้ให้ทุกคนทำหน้าที่อย่านิ่งเฉย ทุกคนนั้นหาทางออกให้กับปัญหาได้ ที่ตัวเองถนัดนะครับ ทำสิ่งที่ตัวเองถนัดน่ะและเป็นหน้าที่นี่

อัญชลี – หมายถึงว่าอะไรคะ คือให้กระทรวงนั้นได้ดำเนินการเรื่องนี้ไปแล้ว

พล.อ.สพรั่ง – แน่นอนเลยครับ บางเรื่องนี่นะครับที่เป็นปัญหาออกมานี่ มันไปเกี่ยวข้องมากกว่า 1 กระทรวง

อัญชลี – อย่างเรื่องนี้เรื่องล็อบบี้ยิสต์นี่เป็นกระทรวงต่างประเทศ

พล.อ.สพรั่ง – กระทรวงการต่างประเทศก็เป็นกระทรวงพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับกิจการระหว่างประเทศอยู่แล้ว และสิ่งใดที่ทำให้การดำเนินการของผู้ที่บ่อนเบียนประเทศชาติอยู่ข้างนอกนี่นะครับ ไม่อาจจะทำอะไรได้โดยสะดวกหรือทำไม่ได้ หรือบางประเทศเขาไม่ยอมนี่นะครับ ไม่ต้องเอ่ยชื่อนะครับ บางประเทศเขาก็ไม่ยอม บางประเทศเขาก็ถือว่าถ้ายังไม่ผิดกติกาเขา เขาก็ให้ทำในขอบเขตจำกัด แต่เรื่องการจ้างการทำอะไรในพื้นที่ที่เขามีระบบของเขาอยู่แล้ว ที่เขายอมรับได้นี่นะครับ ที่ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายนะ ก็เป็นเรื่องของคนมีเงินอาจจะซื้ออะไรก็ได้ทุกอย่าง แต่เว้นความดีซื้อไม่ได้ต้องทำเอง ผมว่าเราส่งสารไปถึงคนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองทุกกลุ่มเลยดีกว่า ว่าพวกเราผนึกกำลังกัน ณ วันนี้นะ เข้มแข็งพอสมควรแต่ว่ายังไม่เข้มแข็งที่สุด เพียงแต่ว่าต้องรอกำลังใจจากพวกข้าราชการทั้งหลายที่จะชินชากับการที่เรียกว่า อยู่ร่วมกันภายใต้ผลประโยชน์ร่วมกันนี่เลิกได้แล้ว

อัญชลี – ก็อย่างกรณีนี้น่ะค่ะ ว่าถ้าหากว่าคุณทักษิณแสดงอิทธิฤทธิ์ในเรื่องการเป็นผู้ครอบครองหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศนี่ ข้าราชการต่างๆเขาก็ยังไม่กล้าที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลกับ คมช.ถูกไหมคะ เพราะเขารู้ว่าอีกไม่นานคุณทักษิณอาจจะกลับมา

พล.อ.สพรั่ง – อ๋อ ได้ทำความเข้าใจไปแล้วครับที่คุณยกตัวอย่างนี่ ซึ่งได้ประชุมร่วมกันแล้วว่าให้หัวหน้าส่วนราชการ ที่มาเป็นส่วนประสานงานหรือเข้ามาอยู่ในโครงการต่างๆของ คมช.หรืออยู่ใน กอ.รมน.นี่นะครับ จะต้องไปสร้างความเข้าใจ สร้างความมั่นใจและยืนยัน การสร้างความมั่นใจอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ ยังท่าที แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ที่เราพูด ความมั่นใจนั้นเกิดจากศักยภาพของเราที่เหนือกว่า 1. เราได้รับความชอบธรรม สิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง สิ่งที่เราทำนั้นดีนะครับ

อัญชลี – เมื่อไปเปรียบเทียบความเคลื่อนไหว ระหว่างคุณทักษิณกับรัฐบาลและ คมช.แล้วนี่ เราจะเห็นได้ว่ามีความเข้มแข็งที่ต่างกันมาก รัฐบาลกับ คมช.ดูเหมือนว่าจะเข้มแข็งสู้ความเคลื่อนไหวของคุณทักษิณไม่ได้ อย่างนี้มันจะไปสร้างความมั่นใจให้กับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั้งปวงได้ยังไงล่ะคะ

พล.อ.สพรั่ง – ตอบแบบยกตัวอย่างเลยนะ คนที่แสดงหนังบทบู๊ที่ผมว่าแรมโบ้น่ะ แต่ตัวจริงอาจจะเป็นแค่นักกล้าม เป็นนักเพาะกายนะ จริงๆแล้วไม่ได้บู๊เหมือนตามในหนังที่แอ็คชั่นหรอกนะ แต่คนบางคนนี่บู๊ยิ่งกว่าแรมโบ้แต่ไม่ได้เป็นพระเอกหนังมีไหม เพราะฉะนั้นการสร้างภาพลักษณ์ทั้งหลายแหล่ของคนมีเงินน่ะ เหมือนเศรษฐีขับรถเบนซ์นั่งรถเบนซ์ มีบ้านมีคฤหาสน์ เราอาจจะอยู่บ้านไม้สักเก่าๆนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าความดีเขาเหนือกว่าความใหญ่โตของคฤหาสน์ ไม่ได้หมายความว่าเขาดีกว่าเรานะ เพราะฉะนั้นศักยภาพคือความดีเหมือนกันนะ ศักยภาพคืออำนาจหน้าที่ อำนาจหน้าที่ในขณะนี้เรานี่รับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่เต็มที่ เขาคือบุคคลประชาชนคนหนึ่งเท่านั้นเอง เพียงแต่เคยมีอำนาจ แต่ว่าฐานะบางอันเราต้องยอมรับว่าเขามีต้นทุนที่มากมายมหาศาล แต่ก็ไว้ได้แค่แสดงความเป็นมหาเศรษฐีเท่านั้นเอง แต่ไม่เกี่ยวเลย

อัญชลี – แต่ถ้าดูเหมือนแล้วนี่นะ คนกลับเชื่อว่าคุณทักษิณกับต้นทุนมหาศาลที่เขามีนี่ เขาสามารถที่จะกลับเข้ามายึดครองอำนาจของเขาคืนได้จากรัฐบาลและ คมช.

พล.อ.สพรั่ง – น้องต้องเข้าใจว่าประชาชนคนไทยไม่ได้โง่นะ ที่รับมาแต่ละครั้งนี่เพราะว่าสังคมไทยไม่มีการประณามนะ ข้าราชการต่างๆที่รู้ต้องทำหน้าที่การป้องกันการทุจริต การซื้อสิทธิขายเสียงต่างๆ ถ้าตำรวจและหน่วย กกต.ที่เป็นองค์กรอิสระไม่เบี่ยงเบนนะ ทำไปได้เลยนะ มีเงินฝากในแบงก์ก็ถอนไม่ได้น่ะ เราต้องรู้ว่าจุดสาเหตุที่ทำอะไรได้ก็เพราะว่ามันมีเขาเรียกว่าใบเบิกทาง ถ้าใบเบิกทางมีไม่ได้น้องขนมาให้ได้ไหมสรุป

อัญชลี – ทำไมรัฐบาลหรือ คมช.จึงไม่กล่าวโทษคุณทักษิณล่ะคะ ถ้ารู้ว่ามันเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการสื่อสารผิดพลาดไปในช่วงหลังจากรัฐประหาร ทำไมถึงไม่บอกกับประชาชนล่ะว่าคุณทักษิณผิดอะไรบ้าง ทำไมไม่ทำครับ

พล.อ.สพรั่ง – หมายถึงว่าทำผิดอะไร คือตอนนี้สิ่งที่เราบอกแล้วว่าระบบที่เลวร้ายที่สุดก็คือการไปครอบงำในข้าราชการร่วมมือนะครับ ในการที่ดำเนินธุรกิจธุรกรรมต่างๆ แล้วก็ไม่ว่าจะเป็นการเสนอนโยบายต่างๆที่มันก่อให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์อานิสงส์อะไรต่างๆนี่นะ

อัญชลี – ก็นั่นน่ะสิคะ ทำไมถึงไม่แจ้งอย่างเป็นทางการว่าคุณทักษิณนั้นมีความผิดอะไรบ้าง ทุจริตอะไร แทรกแซงองค์กรอิสระอย่างไร จาบจ้วงล่วงละเมิดอย่างไร

พล.อ.สพรั่ง – คุณอัญชลีก็รู้ว่าขณะนี้พวกเราได้มีประชุมพบปะ ในส่วนของภูมิภาคนี่นะและใน กทม.นี่ ใน กทม.ก็ยอมรับว่ามันเป็นมหานครนี่นะ หน่วยงานต่างๆตั้งแต่กระทรวงตั้งกันอยู่ที่นี่หมดเลย ก็ทำตอนนี้เขาเรียกว่าขยายผลครับ ขอยืนยันว่าทาง คมช.และรัฐบาลตอนนี้ค่อนข้างจะเรียกว่าความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เมื่อก่อนนี้เราปล่อยให้ท่านดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่นะครับ ก็ตอนนี้ให้เกียรติท่านและก็ถือว่าท่าน อย่างน้อยท่านนายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาที่พวกเราเคารพด้วยความจริงใจนะครับ และก็ชื่อชมท่านมาตลอด เราเชื่อมั่นในภาวะผู้นำท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผมไม่เคยปฏิเสธความจริง พวกเราเองก็ไม่เคยป้อนความรู้สึกว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร พวกเรานี่ตอนนี้เราเชื่อมั่นว่าความผูกพันในความรักชาติและความเหมือนกันในอุดมการณ์นี่ และอยากเห็นรัฐมนตรีทุกๆท่านได้เข้าใจว่าข้อวิตกห่วงใย

ไม่ใช่วิตกข้าศึกนะ ขอยืนยันไม่ได้วิตกเรื่องข้าศึก วิตกในเรื่องบทบาทที่ท่านดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรากำลังจัดระเบียบการเมืองสังคมหน่อย นโยบายใดที่มันก่อให้เกิดความสับสนนะ อันนี้เราก็ได้เรียนไปแล้วได้พูดกันตรงๆ เราไม่มีการฝากผ่านสื่ออยู่แล้ว ได้เรียนตรงๆกับท่านนายกฯมาโดยตลอด ท่านก็เข้าใจนะครับ แล้วที่น้องบอกว่าเราได้ทำความเข้าใจไหม แต่ถามว่าสัมฤทธิ์ผลหรือไม่นี่นะครับ อันนี้ขณะนี้ซึ่งผมไปเมื่อวานนี่นะครับ ก็เพื่อเป็นการไปขอความมั่นใจจากท่านแม่ทัพ ว่าในส่วนภูมิภาคและระดับพื้นฐานที่เขาเรียกว่าเป็นหน้าต่างของหน่วยงานต่างๆ เขาได้เข้าใจและมีความรู้สึกเหมือนกับมองตารู้ใจกับ คมช.หรือไม่ ว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นหน้าที่และก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ เป็นความจำเป็นที่ต้องมาช่วยกันทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่อยากเห็น คมช.เป็นวันแมนโชว์นะ พวกเราไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษนะ เราไม่ต้องการเป็นวันแมนโชว์ เราอยากให้ทุกคนนั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเอง

อัญชลี – คือท่านจะอธิบายอย่างนี้ใช่ไหมคะ คือ คมช.นี่ได้รัฐบาลมาแล้วนี่ก็ถอยให้รัฐบาลได้ทำหน้าที่ พอผ่านมา 3-4 เดือนมีเสียงวิจารณ์เข้ามามาก คมช.ก็เลยเข้าไปช่วยรัฐบาลทำงานใกล้ชิดมากขึ้นอย่างนั้นใช่ไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – คมช.เราไม่ได้ถอยนะครับ เราแบ่งงานกันทำ ท่านนายกฯมอบหมายให้เราทำงานทางด้านความมั่นคง บังเอิญความมั่นคงนี่มันเป็นความมั่นคงที่มีความเร่งด่วน ตั้งแต่เรื่องการก่อการร้ายในภาคใต้ การช่วยในการสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติด และเรื่องความมั่นคงคือเรื่องของการจัดระเบียบ และก็ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญ และก็ทำตามหน้าที่ที่เราได้เป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือกคัดสรรอะไรก็แล้วแต่นะครับ เมื่อจบแล้วก็ติดตามเพื่อให้เราได้มีโอกาสประเมินสิ่งต่างๆที่เราได้มีกรอบเวลาไว้แล้ว 1 ปีนะ ก็ตรงนี้เป็นหน้าที่ คมช.เหมือนกับมอนิเตอร์งานต่างๆที่ได้ส่งมอบให้ทางรัฐบาล ให้ทาง คตส. ป.ป.ช.อะไรทำนองนี้นะ แต่ขอยืนยันว่าเราทำมากกว่าการมอนิเตอร์ตอนนี้นะครับ เดินสายเลย

อัญชลี – เดินสายไปด้วยเรื่องอะไรคะ คลื่นใต้น้ำอย่างเดียวหรือคะ

พล.อ.สพรั่ง – ไม่ใช่ เดินสายในเรื่องของการปฏิบัติงาน การดำเนินงานของนโยบายของทุกกระทรวง ทบวง กรมนะครับ และยืนยันเลย

อัญชลี – คือถ้าสถานการณ์ตอนนี้ที่สื่อได้สะท้อนมานะคะ ท่านสพรั่ง ก็คือว่านายกฯอ่อนแอ ข้าราชการและรัฐมนตรีของเราใส่เกียร์ว่าง เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

พล.อ.สพรั่ง – นั่นเป็นความรู้สึกของเพื่อนรักร่วมอุดมการณ์พวกเราหลายคนนะครับ และก็ความรู้สึกต่างๆที่มันเป็นภาพสะท้อน เพราะว่าคนไทยนี่จะมีความรู้สึกว่าวัดขีดความสามารถหรือว่าศักยภาพหรือท่าทีนี่ จากการที่ได้มีโอกาสออกมาจากสื่อนี่นะ ก็จะมองได้จากว่าเครื่องไม้เครื่องมือและความต่อเนื่องเชิงรุกเชิงรับกันนี่นะครับ ก็เลยทำให้วิตกก็ส่งสัญญาณมาถึงพวกเรา เราก็ประเมินว่าสิ่งที่วิตกนั้นเป็นความจริงในระดับอันตรายหรือไม่ เราก็ได้ประเมินแล้วหลายเรื่องนี่นะครับไม่อันตราย หลายเรื่องเป็นเรื่องที่เราอาจจะอ่อนประชาสัมพันธ์ แต่หลายเรื่องที่เราเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้ที่ได้แสดงและส่งสัญญาณมานะครับ เป็นที่ยอมรับของประชาชนนี่นะครับ หลายท่านที่เป็นหัวหน้าในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้องมาตลอด ได้แสดงความรู้สึกที่หนักอกหนักใจมาโดยตลอด บอกให้รัฐบาลและทาง คมช.ทราบ และเราได้เอาความจริงที่เป็นความตระหนกตกใจนี่นะครับ ความอึดอัดทั้งหลายแหล่นี่นะครับ ได้มาประชุมหารือกันและก็ปรับท่าทีให้เข้มแข็ง แต่ไม่ใช่ว่าเราอ่อนแอ ปรับท่าทีให้เข้มแข็งให้ปรากฏ สิ่งใดที่ไม่ตัดสินใจต้องกล้าตัดสินใจนี่โอเคเลย การตัดสินใจนี่รอบคอบมากๆเลย เลยทำให้คนรู้สึกว่าเงื้ออยู่นั่นมีดาบก็ไม่ทำอยู่ในฝักดาบ ตอนนี้ท่านเอาดาบออกมาแล้วครับ จ้องเลยครับ

ยุทธิยง – เริ่มลับดาบให้คมหรือยังครับ

พล.อ.สพรั่ง – ดาบนั้นคมอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่ายังไม่อยู่ในท่าพร้อมรบตอนนั้นนะ ตอนนี้พร้อมรบแล้วครับ

อัญชลี - พล.อ.สพรั่ง คะ อย่างกรณีคลื่นใต้น้ำนี่ หลายเดือนมานี่ยังจัดการคลื่นใต้น้ำกันไม่ได้อีกหรือคะ ถึงจะต้องไปตรวจคลื่นใต้น้ำอีกรอบนึงเมื่อวานนี้น่ะค่ะ

พล.อ.สพรั่ง – ไม่ใช่ๆ วันนี้ไปสร้างจิตสำนึกบอกให้ข้าราชการเริ่มช่วยกัน วางแผนร่วมกันในเรื่องของการดูว่าการเลือกตั้ง โดยไม่ต้องคาดหวังว่ารัฐธรรมนูญจะออกมาตรายังไง ใครจะล้มประชามติยังไงนะ ยังไงก็เป็นรัฐธรรมนูญ แต่บอกว่าและความมุ่งมั่นของคณะทำงานของการยกร่างรัฐธรรมนูญนั่นเขาชัดเจนอยู่แล้ว เขามีประสบการณ์ แต่ถ้ามันมีคลื่นการเมืองประเภทว่า กูต้องล้มทุกอย่างที่ทาง คมช. หรือทางรัฐบาล คืออะไรที่เราทำเขาจะล้มนี่นะถ้าเขาทำได้ เรามองเกมไว้หลายหนทางอยู่แล้วครับ ว่าถ้าทำอย่างนี้เพื่อเตะถ่วง เพื่อดิสเครดิตต่างๆนี่นะครับ แล้วเราไม่ได้วิตกเรื่องนั้น เราบอกว่าที่บ้านเมืองมันเป็นอันตราย เนื่องจากว่ากลุ่มคนชั่วคนเลวต่างๆนี่ ถ้ายังสามารถไปเผยอไปเดินยืดอกอยู่ในแถวสภาในทำเนียบนะ นั่นคืออันตรายมากกว่ารัฐธรรมนูญ ทุกวันนี้รัฐธรรมนูญไม่เคยทำร้ายประเทศชาตินะ ความเลวต่างหากที่ทำร้ายประเทศชาติ

อัญชลี – ท่านสพรั่งคะ มีเรื่องนึงซึ่งไม่ทราบว่าทาง คมช.ดำเนินการไปถึงตรงไหนแล้ว หลังจากที่มีสายข่าวบอกว่าทหารรุ่นพี่ซึ่งใกล้ชิดกับระบอบทักษิณนั้น เป็นผู้ก่อหวอดคลื่นใต้น้ำ จริงเท็จแค่ไหนคะ

พล.อ.สพรั่ง – ทหารไหนครับ

อัญชลี – เขาบอกว่าทหารรุ่นพี่ คนที่ใกล้ชิดกับระบอบทักษิณเป็นผู้ก่อหวอดคลื่นใต้น้ำ จริงไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ก็ได้ทราบข่าวมาเหมือนกันนะครับ จะบอกว่าไม่ทราบเลยได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นข่าวแต่ว่าข่าวคือไม่ใช่ข่าวกรองนะครับ ก็เป็นข่าวสารนี่นะ เราก็ได้มาไตร่ตรองศักยภาพ ก็ถ้าดูแล้วความเป็นไปได้นี่ที่จะก่อให้เกิดผลจริงๆนี่นะ ยากมาก

อัญชลี – ทำไมถึงคิดว่ายาก ทำไมถึงประเมินว่าเขาไม่สามารถจะทำได้สำเร็จ

พล.อ.สพรั่ง – ภาวะผู้นำไง ภาวะผู้นำมันต้องรู้กัน เหมือนน้องก็รู้ในพวกวงการสื่อ ใครนี่มีคมชัดลึกใครตื้นเขินใช่ไหมครับ บางคนนี่น้ำตื้นเงาตื้น บางคนนี่น้ำตื้นเงาลึก

อัญชลี – จริงไหมคะท่าน ที่บอกว่าตอนนี้นี่มีการส่งท่อน้ำเลี้ยงลงไปที่ภาคอีสานนี่หนาแน่นมาก จริงไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ไม่ต้องถามจริงไม่จริง แต่ต้องถามว่าเขาทำได้นี่เราจะจัดการเขาอย่างไร

อัญชลี – แสดงว่าจริงใช่ไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ถ้าเราบอกว่าจริง เดี๋ยวก็บอกว่าถ้าจริงแล้วทำไมไม่จัดการ

อัญชลี – แสดงว่าตอนนี้จัดการอยู่ใช่ไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ใช่

อัญชลี – วิธีการจัดการวิธีหนึ่งที่สังคมเขาตั้งคำถามมากเลย ว่าทำไมถึงไม่อายัดทรัพย์ระบอบทักษิณกันซักทีนึง

พล.อ.สพรั่ง – นี่มันไปถามคำถามเริ่มต้นอีกแล้ว

อัญชลี – จะได้ตัดท่อน้ำเลี้ยง นี่ชาวบ้านเขาก็ถามกันแบบชาวบ้านนะคะ

พล.อ.สพรั่ง – ใช่ๆ คล้ายๆว่าเหมือนเราคล้ายๆใช้วิธีเชิงรับมาตั้งแต่ต้นนี่ แล้วเราจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น ตอนนี้กรอบเวลามันจะถึงครึ่งทางแล้ว เอาเป็นว่าถึงแม้เราจะใช้ยาอ่อนนี่นะครับ การฉีดยาวัคซีนนี่นะ ก็ยังเป็นเครื่องมือหรือว่าเป็นยาที่รักษาโรค พอดีว่าโชคดีที่ว่าสังคมไทยเรานี่มันเป็นสังคมที่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมนะ บางทีทำผิดมายอมรับผิดมาแล้วนี่ ทำผิดมาแล้วก็รู้ว่าผิดนะ แต่บางครั้งมันยังเลิกไม่ได้เพราะมันมีเหตุอันจำเป็น และบางทีมันมีบางสิ่งบางอย่างต้องพึ่งพา พอสำนึกได้มีพระผู้ใหญ่มาเตือนนี่หยุดเหมือนกันนะ สังคมไทยนี่เป็นสังคมที่มีลักษณะพิเศษเพราะว่ามาจากพื้นฐานแนบแน่น การรู้จักคำว่ารับผิดชอบชั่วดี

อัญชลี – ท่านสพรั่งคะ จริงไหมคะ ที่เขาบอกว่ามีภรรยานักการเมืองใหญ่นี่ หอบเงินเอาไปซื้อเสียงบางคนใน คมช.

พล.อ.สพรั่ง – โอ้โห อยากได้จังเลย ผมจะได้เอาไปบริจาคให้กองทุนเพื่อยกระดับการศึกษาเด็กด้อยโอกาส

อัญชลี – หมายถึงว่า คมช. 8 คนนี่ ถูกระบอบทักษิณนี่เข้าไปมีบทบาทโดยการใช้เงินเข้าไปแล้วนี่จริงไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – คือผมไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องอะไรที่ ตัวผมเองนะว่าไร้สาระและไม่ระคายเคืองเลย ถ้าผมเป็น 1 ใน 8 นะที่ถูกกล่าวหา ก็อยากให้ออกข่าวโจมตีมาเยอะๆ จะได้มีโอกาสออกโทรทัศน์ได้พูดได้สวนกลับไปเลย เพราะว่าเขาย่อมรู้ดีว่าถ้าเป็นผมนะผมไม่พูดถึงคนอื่นนะ เพราะถามว่า คมช.มันเป็นชื่อ ถ้าถามตัวคนนะต้องถามผมเพราะน้องสัมภาษณ์ผมนะ น้องสัมภาษณ์ผมผมจะตอบจากตัวผมนะ ว่าถ้าสมมุติว่าในกรณีที่คนสงสัยผม ผมก็จะบอกว่าถ้าผมจะมาซื้อตรงนี้ ผมไม่รู้ว่าผมโง่หรือฉลาด ควรจะร่วมมือกับเขาตั้งแต่ต้น มีความสุขได้รับยศได้รับตำแหน่งถูกต้องไหมครับ ถามตัวผมถ้าใครว่าแต่ผมจะไม่โกรธเลย ถ้าเพื่อนรักถามนี่จะชอบใจ แต่ถ้าศัตรูถามผมจะสวนกลับอย่างแรง พอเขารู้ว่าไม่ระคายเคืองต่อข้อครหาที่ตื้นเขิน

อัญชลี – ท่านสพรั่งครับ อยากถามคำถามที่เป็นกำลังใจ อยากจะถามท่านว่าความจริงที่ซื้อด้วยเงิน กับความจริงที่ซื้อด้วยความดีนี่ ณ วันนี้นี่เราจะสู้กันไหวไหมครับ

พล.อ.สพรั่ง – ไหวสิครับ เพราะว่าประเทศที่เขาเจริญแล้วนี่นะครับ Ethics (จริยธรรม) เขามีนะ เรื่องงานต่างๆนี่เขาจะดูเรื่อง Ethics ด้วยนะ ความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจได้ เขาจะเขียนไว้เลยประเมินค่าเลยนะ ที่ผมเคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมหน่วยงานที่เป็นเขาเรียกว่าแหล่งผลิตคนนี่นะ ที่ของสถาบันการศึกษาทางการทหารนี่ ผมเห็นการบันทึกการประเมินค่าเขานี่ ถามประโยคแรกเลยเขาถามคนๆนี้ไว้ใจได้หรือไม่ ไว้วางใจได้หรือไม่ มีความซื่อสัตย์หรือไม่ สิ่งแรกเป็น Ethics เลยนะครับ และสิ่งใดที่เป็นความโปร่งใสเขาก็เป็นหลักการของประเทศที่เราค่อนข้างจะชื่นชมเขานะครับ ในความเจริญก้าวหน้าและเป็นสังคมที่เข้มแข็ง ขอให้ยืนยันได้เลยนะครับฝรั่งเองก็ไม่แตกต่างกับเรา เพราะความดีเป็นสากลนะครับ ความดีไม่มีสัญชาตินะครับ

อัญชลี – ท่านสพรั่งคะ ขอเรียนถามกลับไปที่ประเด็นเรื่องของระบอบทักษิณนะคะ กุนซือซึ่งเป็นคนเดือนตุลาของคุณทักษิณนี่ตอนนี้ไปไหนหมดคะ หายไปไหนหมด

พล.อ.สพรั่ง – คงไม่หายมั้งครับ คงทำตัวเงียบๆ เก็บตัวเงียบๆแต่คิดวางแผน หรืออาจจะสำนึกก็ขออนุโมทนาเลยนะ ถ้าได้สำนึกว่าได้หลงทางผิดแล้ว และคิดผิดแล้ว และไม่มีทางชนะแน่นอน และเป็นภัยแก่ตัวเองด้วยนะครับ

อัญชลี – ตอนนี้ท่านได้ติดตามกุนซือของคุณทักษิณในสายคนเดือนตุลาไหมคะ ว่าไปทำอะไรอยู่ที่ไหน

พล.อ.สพรั่ง – ขออนุญาตไม่บอกได้ไหม

อัญชลี – แสดงว่าตามอยู่ใช่ไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – ขออนุญาตไม่บอกได้ไหม เพราะว่าทุกคนก็ฟังอยู่ทั้งพันธมิตรและก็ข้าศึก

อัญชลี – งั้นขอถามอีกหน่อยว่า แสดงว่าท่านสพรั่งได้จับตามองดูกุนซือในสายเดือนตุลา เท่าที่ประเมินในการจับตาดูแล้วนี่ มีฤทธิ์มีเดชแค่ไหนคะ

พล.อ.สพรั่ง – ผมขอยกย่องพวกน้องๆนะ ถือเป็นรุ่นน้องผมนะ น้องๆกลุ่มนักศึกษาตั้งแต่เดือนตุลา ไม่ว่าตุลา 16 หรือ 19 อะไรก็แล้วแต่ จะเรียกเดือนตุลาปีไหนหรือ พ.ศ.ไหนไม่สำคัญ ก็เป็นฉายาก็แล้วกันก็เป็นโค้ดกัน ก็เอาเป็นว่าคนดีในยุคโน้น ปัจจุบันที่ยังดีอยู่ผมก็ให้ความเคารพนะครับ ยอมรับในความมุ่งมั่นและอุดมการณ์ ถึงแม้เราจะเคยเผชิญหน้ากันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ตอนนี้ทุกคนได้รู้แล้วว่าจริงๆแล้วเราเป็นพวกเดียวกัน แต่คนเดือนตุลาบางพวกที่เขาเรียกว่ามิจฉาทิฐิพวกเห็นผิดนี่นะ และยังมีความมุ่งมั่น เขาเรียกว่ามีจิตใจอาฆาตมาดร้ายต่อสิ่งที่เป็นความเป็นสามัญของชาติ ศาสน์ กษัตริย์นี่นะ คนพวกนี้นะครับผมว่าซักวันหนึ่งเขาคงจะต้องรับกรรมในสิ่งที่เขาไม่สำนึกนะครับ มีอยู่กลุ่มเล็กๆไม่กี่คน ทำตัวเป็นเหมือนเป็นผู้ที่มีความสงบเสงี่ยม เป็นคนที่มีความรู้ดี มีการศึกษาดี และก็แสดงบทบาทให้สังคมได้เห็นว่าเขาเป็นบุคคลที่น่านับถือ มีบุคลิกลักษณะและก็วางมาดน่ะ แต่จิตใจคิดชั่วร้ายนี่มีแน่นอน เราก็รู้ว่าใครเป็นใครนะ เอาว่าอย่าบอกให้ข้าศึกรู้เลยว่าเรารู้

อัญชลี – ท่านคะ สุดท้ายเลยนะคะ วันนี้ทาง คมช.เองจะมีการเรียกทูตสหรัฐมาคุยเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดต่างๆในระบอบทักษิณไหมคะ

พล.อ.สพรั่ง – อันนั้นก็ขอให้เป็นมารยาททางการทูตก็แล้วกันนะครับ กับกระทรวงการต่างประเทศที่จะได้ไปทำความเข้าใจด้วยกันนะครับ ต้องให้เกียรติในกิจการภายในประเทศนะ เราก็ต้องรู้ว่าเขาเป็นชาติมหาอำนาจ และก็เข้าใจประเทศไทยมากที่สุดครับ ผมคิดว่าทุกอย่างลงเอยด้วยดีครับ Happy ending กับชาติมหาอำนาจนี่นะ ผมยืนยันว่า Happy ending

อัญชลี – ค่ะ กราบขอบพระคุณมากค่ะ ท่าน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร สวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น