xs
xsm
sm
md
lg

“ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์” อีกหน่อ “ขมิ้นอ่อน” ที่ยังไม่รู้จักงานของตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง


•• ดูเหมือนว่า วอร์รูมประชาสัมพันธ์ หรือชื่อเป็นทางการว่า คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก จะ ดูดี, ดูเท่ เสมือนรัฐบาลชุดนี้จะเริ่ม สตาร์ทเครื่อง – เข้าเกียร์ 1 แล้วก็ตามแต่ “เซี่ยงเส้าหลง” ยังมองว่าเป็นเรื่อง เกาไม่ถูกที่คัน, รักษาแผลผิดที่ เพราะที่ที่กำลังคันคะเยอจริง ๆ จนเริ่มเป็นแผลพุพองนั้นคือตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี – ผู้กำกับดูแลสื่อของรัฐ และ คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องว่าเป็น คนดี, คนไม่ดี แต่เป็นเรื่องของ ความเข้าใจในภารกิจ, ความเหมาะสมกับงาน พูดสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ในเชิงเปรียบเทียบว่าจะต้องทำให้ได้ในระดับของ สุรนันท์ เวชชาชีวะ, น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือแม้แต่ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ต้องเข้าใจว่า ณ วันนี้ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ คุมทั้ง อ.ส.ม.ท. และ กรมประชาสัมพันธ์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างกว้างขวางทั้งใน ระยะเฉพาะหน้า และ วางพื้นฐานระยะยาว การตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา โดยมีตนเองเป็นประธาน หากตนเองยัง ไม่ปฏิรูปตนเอง ยังคงรักที่จะเป็น มวยจังหวะ 4, เสือซ่อนเล็บ – ที่ลืมว่าตัวยังมีเล็บอยู่ หรือ ฯลฯ ที่เพื่อนฝูง แซวจนหน้าเสีย นั้นก็ ไร้ประโยชน์ เพราะในที่สุดก็เท่ากับว่ารัฐบาลยังคง ปราศจากขุนพลที่จะออกมาตอบโต้ข่าวชนิดทันควันทันไฟชั่วโมงต่อชั่วโมงหมัดต่อหมัด หรือจะฝากความหวังไว้ที่ สนช.ดาวสภาอย่าง ประพันธ์ คูณมี ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นสู้ สละตำแหน่งรัฐมนตรี ให้อดีต สหายสงคราม เสียเลยไม่ดีกว่าหรือจะได้ไม่เกิดภาพลักลั่นกันระหว่าง ฝ่ายบริหาร กับ ฝ่ายนิติบัญญัติ อีกประการหนึ่งที่ไม่รู้ว่าคิดรอบคอบกันแล้วหรือที่ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ระบุให้คนมีตำแหน่งใหญ่ระดับ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และ ฯลฯ มาอยู่ในคณะกรรมการที่มี ประธาน เป็นเพียง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ระบุชื่อไว้ว่าคือ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ถ้าจะเอารูปแบบนี้ก็ควรระบุให้ ประธาน เป็น นายกรัฐมนตรี แล้วให้ตนเองนั่งเป็น รองประธาน คู่กับรัฐมนตรีประจำสำนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งคือ ประสิทธิ์ โฆวิไลกูล จะไม่ดีกว่า

•• เอาละถ้าจะแก้ต่างว่า ไม่ชอบพูดมาก, ไม่อยากตอบโต้ ก็เร่งทำงานให้ประจักษ์ใน เชิงนโยบาย ที่จะเป็น การวางพื้นฐานระยะยาว ซิ “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าคิดได้หลากหลายหากมีเวลาอ่านงานของ ดร.บุญรักษ์ บุญญะเขตมาลา ที่เขียนแล้วเขียนอีกใน ผู้จัดการรายวัน การทำงานเชิงนโยบายที่ว่านี้นี่แหละคือ ภารกิจของรัฐบาลเฉพาะกิจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ลองคิดดี ๆ อีกทีนะ

•• มีเวลาอยู่ช่วงสั้น ๆ มันต้อง ทำงานในเชิงกฎหมายให้เป็นแพกเกจ ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดเสียเวลา ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เรื่อง สภาพัฒนาการเมือง, แผนพัฒนาการเมือง ปล่อยให้การเมืองไทยพัฒนาไปเองหลังจากเกิด วัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง ที่จะมีได้ก็ต่อเมื่อสังคม รู้เท่าทันโจรานุโจรทางการเมือง อันเป็นผลมาจาก ปัญญา ที่จะมีขึ้นมาได้ก็ด้วย การศึกษา และการศึกษาที่สำคัญที่สุดและทั่วถึงที่สุดก็คือ การศึกษานอกระบบ, การศึกษาทางอ้อม ผ่าน สื่ออิเลคทรอนิคส์ พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องวางแผน ปฏิรูปการเมือง ให้มากนักหรอกเร่ง ปฏิรูปสื่อ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออิเลคทรอนิคส์ภาครัฐ ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ ปรับผังรายการ, แบ่งเค้กใหม่ หรือ ฯลฯ แต่จะต้องคิดค้น มาตรการทางกฎหมาย, มาตรการทางภาษี รวมทั้ง มาตรการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐ ให้แก่ ผู้ผลิตรายการคุณภาพ ซึ่งบ้านนี้เมืองนี้มีอยู่ มากมาย แต่ ไม่โต, หมดกำลัง เพราะ ขาดสปอนเซอร์, ขาดเวลา ในที่สุดก็ต้องปรับเปลี่ยนสติปัญญาไป ทำมาหากิน คงไม่ต้องสาธยายรายละเอียดมั้งว่า รูปธรรม – ที่สัมผัสได้ ควรจะออกมาอย่างไรบ้าง

•• หรือจะคิดไปไกลระดับสร้าง บีบีซีไทย ขึ้นมาที่ ช่อง 11, กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็น ตัวนำร่อง ก็ยังได้ นักสื่อสารมวลชนคุณภาพ ในบ้านเรา มีมาก แต่ไร้โอกาส

•• ที่พูดมาสั้น ๆ นี้ก็เพราะ รัก, ปรารถนาดี ในตัว ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ที่ก่อนหน้าจะไปเป็น นักวิชาการ ก็ปักหลักอยู่กับวิชาชีพ นักสื่อสารมวลชน มาก่อน

•• ขอให้ไปดีนะ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ น่าเสียดายที่ ไม่ได้เกษียณในตำแหน่งสูงสุดของวิชาชีพตำรวจ ทั้ง ๆ ที่ ณ วันที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. นั้นทุกคนรวมทั้ง “เซี่ยงเส้าหลง” ต่าง ตั้งความหวังไว้สูง ในฐานะที่ท่านเสมือน แข็งขืนกับระบอบทักษิณ แต่พอเวลาผ่านไปกลับ น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะทั้งๆ ที่ประวัติของท่านนั้นมาจาก ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็น ที่ไว้วางพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง ล่าสุดเมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ ทรงมีรับสั่งด้วย ขณะเสด็จกลับจาก โรงพยาบาลศิริราช และท่านอุตส่าห์นำ ภาพ นั้นมาปะหน้า เอกสารชี้แจงงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ดั้งแต่เดิมมานั้นท่านก็ไม่ใช่ คนในระบอบทักษิณ แถมยัง แข็งขืน เมื่อตอนที่จะถูก พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ข้ามหัวขึ้นไปเป็น ผบ.ตร. ทว่าตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดนอกจาก ไม่ได้แสดงศักยภาพให้เห็น, ไม่ได้แสดงจุดยืนให้เห็น แล้วยังมีแนวโน้มที่แสดงให้เห็นว่าเสมือนได้เข้าไปเป็น คนในระบอบทักษิณ ท่านยังโชคดีที่ได้รับความไว้วางใจเต็มเปี่ยมจาก เพื่อนรัก รับมอบภารกิจ ดูแลตำรวจเต็มที่ ใน คำสั่งคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 17, 18 แต่สุดท้ายสังคมก็ไม่เข้าใจว่าท่านทำอะไรลงไปใน การแต่งตั้งโยกย้าย 2 รอบ เพราะดูไปแล้วเสมือนท่านกำลังพยายามแปร การยึดอำนาจจากระบอบทักษิณ ให้เป็น การรอวันคืนอำนาจเต็มแก่ระบอบทักษิณ ซึ่งจะก่อให้เกิด ภยันตรายใหญ่หลวง ต่อทั้ง ประเทศชาติ, ราชบัลลังก์ และ คณะปฏิรูปฯ กรอบหน้านี้เคยสะกิดติงไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าว่านี่คือ เรื่องคอขาดบาดตาย เพราะระบอบทักษิณนั้นพูดให้ถึงที่สุดก็คือ การสร้างรัฐตำรวจ, ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ ถ้าอ่านไม่ทะลุแทงปัญหาไม่ขาด ณ จุดนี้มีโอกาส พลาด ได้ง่าย ๆ การแต่งตั้งโยกย้ายช่วงนั้นไม่ได้คำนึงถึง เป้าหมาย ยิ่งใหญ่ที่สุด ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่จะต้อง ขจัดลิ่วล้อระบอบทักษิณ แต่กลายเป็น เล่นพรรคเล่นพวก ด้านหนึ่ง นรต. 22 ได้ดี อีกด้านหนึ่ง นรต. 26 ก็ยังได้ดี หลายคนในจำนวนนั้นคือ คีย์แมนของระบอบทักษิณ และ/หรือ อยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แถมยังเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ มีกลิ่นเงินโชยหึ่ง อีกต่างหาก

•• เหมาะสมแล้วกับการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส มานั่งแทนที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ไม่ใช่อยากจะสะใจที่เห็นทั้งสองเป็น คู่รักคู่แค้น แต่เพราะในยาม วิกฤต – หัวเลี้ยวหัวต่อ เยี่ยงนี้สถานการณ์ต้องการคนที่มีทั้ง ลูกกล้า, ลูกบ้า และ ความจงรักภักดีต่อชาติและราชบัลลังก์ชนิดเกิน 100 ประการหลังนี้มีฐานภาพความเป็นหนึ่งใน สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เป็นหลักประกัน

•• ย้ำอีกครั้งเป็นวันที่ 2 ว่ากลับมาพิมพ์ซ้ำอีกครั้งหนึ่งแล้ว สามก๊ก – ฉบับคนขายชาติ เรียบเรียงโดย เรืองวิทยาคม มาครานี้ สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ตั้งราคาขายปลีกไว้ที่ 1 ชุด 6 เล่มปกแข็งหนากว่า 4,000 หน้าพร้อมชั้นวางไม้สวยหรูดูดี 3,200 บาท แต่พิเศษสุดสำหรับ ผู้สั่งจองล่วงหน้า -- จ่ายเงินล่วงหน้า ในราคาเพียง 2,400 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษสั่งซื้อ ซีดีเอ็มพี 3 เสียงอ่านโดย รุ่งมณี เมฆโสภณ ทุกบทรวม 15 แผ่น 160 ชั่วโมง ในราคาเพียง 600 บาท จากราคาปกติ 1,200 บาท พูดง่าย ๆ ว่าถ้าทั้งสั่งจองหนังสือแล้วสั่งซื้อซีดีเอ็มพี 3 ด้วยจะ ประหยัดเงินไป 1,400 บาททันที สนใจโปรดติดต่อมาได้โดยตรงที่ โทรศัพท์ 0-2629-2700 หรือ โทรสาร 0-2281-9912 ชำระเงินโดยการโอนเงินมายัง บริษัท บุ๊ค ด็อท คอม จำกัด : ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู ; บัญชีออมทรัพย์หมายเลข 008 – 2 – 07493 – 9 หรือถ้าไม่ประสงค์จะให้ส่งทางไปรษณีย์เพราะอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ครั้งนี้ก็มี ทางเลือกใหม่ โดยให้ท่านสามารถไป สั่งจอง ณ ร้านหนังสือใกล้บ้านท่าน รวมทั้งสิ้น 5 เครือข่าย ซีเอ็ด บุ๊คส์เซ็นเตอร์, บีทูเอส, ร้านนายอินทร์, มีเดีย เน็ทเวิร์ค และ ศูนย์หนังสือจุฬาทุกสาขา กรุณาดำเนินการสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ หมดเขตวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 โอกาสอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น