“ไพศาล พืชมงคล” สนช. ให้สัมภาษณ์สภาท่าพระอาทิตย์ (22 ม.ค.50) แจงกรณีประธาน คมช.ไปจีน ถือเป็นเรื่องดี โดยทางจีนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดให้เข้าพบรองประธานาธิบดีฝ่ายความมั่นคงได้ ยันจีนเข้าใจเหตุผลการปฏิรูปฯ เชื่อไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างปท. ขณะเดียวกันอาจจะนำไปสู่การทบทวน เรื่องเข้าออกประเทศจีนได้อย่างเสรีของ “ทักษิณ” อีกด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการสัมภาษณ์ ไพศาล พืชมงคล
รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 22 มกราคม 2550 ดำเนินรายการโดย คำนูณ สิทธิสมาน และปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ปานเทพ – ตอนนี้เราต้องไปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วยนะครับ คุณไพศาล พืชมงคล ครับ สวัสดีครับคุณไพศาลครับ
คำนูณ – สวัสดีครับ
ไพศาล – สวัสดีครับ
ปานเทพ – ลองเล่าให้ฟังหน่อยครับว่า พล.อ.สนธิ กำลังจะไปพบใคร และก็มีนัยทางการเมืองระหว่างประเทศยังไงบ้างครับ เชิญครับ
ไพศาล – ตามข่าวขณะนี้นะครับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.กำลังเดินทางเยือนประเทศจีน คือเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 21 และคงกลับประมาณวันที่ 24 นะครับ ก็การเดินทางครั้งนี้ก็ค่อนข้างจะมีความหมายมาก เพราะประการแรกนี่ก็เป็นผู้นำทางการทหารของไทยคนแรก ที่เดินทางไปเยือนประเทศจีนหลังการปฏิรูปการปกครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีนายทหารระดับผู้ใหญ่เดินทางไปก่อนเลยนะครับ ประการที่ 2 ในการไปครั้งนี้ ทางการจีนได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งนะครับ ก็ได้จัดให้ พล.อ.สนธิ ไปกับ พลเอกเฉากังฉวน ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นมนตรีแห่งรัฐ เป็นรัฐมนตรีกลาโหมด้วยนะครับ อันที่ 3 ก็ได้ไปเยี่ยมหน่วยรบสำคัญๆของประเทศจีน โดยเฉพาะภาคทหารปักกิ่ง ซึ่งเป็นภาคทหารที่ดูแลความมั่นคงปลอดภัยของปักกิ่งและผู้นำพรรคนะครับ ซึ่งก็มีสมรรถนะในการรบค่อยข้างสูงมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือทางการจีนได้แสดงท่าทีทางการเมืองครั้งสำคัญเหมือนกันนะครับ ได้จัดให้ประธาน คมช.ได้พบกับรองประธานาธิบดีจีน คือท่านเจี่ยงจิ้งหงนะครับ ท่านเจี่ยงจิ้งหงผู้นี้ท่านเป็น 1 ในคณะกรรมการประจำกรมการการเมือง แห่งคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นผู้นำสูงสุดของจีนนะครับ
ปานเทพ – สำคัญยังไงครับ ลองเล่าให้ฟังหน่อยครับ
ไพศาล – คือประการแรกนะครับ ท่านผู้นี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีในส่วนของรัฐนะครับ เป็นสัญลักษณ์ของรัฐนะ เป็นรองก็แต่เพียงหูจิ่นเทาซึ่งเป็นประธานาธิบดีนะครับ อันที่ 2 ท่านผู้นี้ก็ดูแลกระทรวงจัดตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็คือหน่วยงานที่ปกครองดูแลตรวจสอบสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งขณะนี้ก็มีประมาณ 68 ล้านคน ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นหน่วยงานสำคัญมากที่สุดหน่วยหนึ่งนะครับ นอกจากนั้นท่านยังดูแลกระทรวงความมั่นคงของรัฐบาลจีนด้วย ซึ่งกระทรวงที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ซึ่งตรงกับภาระหน้าที่ของประธาน คมช.ของเรานั่นเองนะครับ และยังดูกระทรวงอีกหลายกระทรวง หน่วยงานอีกหลายหน่วยงาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความมั่นคงและการข่าวกรองแห่งชาติ เพราะฉะนั้นการที่ท่านเจี่ยงจิ้งหง ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีนะครับ ท่านผู้นี้ไม่เคยได้พบปะกับผู้นำไทยคนใดมาก่อนหน้านี้เลย
ปานเทพ – ไม่เคยเลยหรือครับ
ไพศาล – ไม่เคยเลยครับ เป็นผู้นำจีนที่ค่อนข้างเก็บตัว เพราะว่าหน้าที่ของท่านเกี่ยวกับความมั่งคงนะครับ โดยปกติจึงไม่ค่อยพบปะคน กับการที่ออกมาต้อนรับท่าน พล.อ.สนธิ ประธาน คมช.ในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงท่าทีทางการเมืองครั้งสำคัญต่อประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่นายกฯเหวินเจียเป่าได้มีสารอวยพรถึงนายกฯไทย ในวันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้วนะครับ ที่สำคัญผมมองว่าเป็นการส่งสัญญาณต่อข้าราชการจีน และชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศนะครับ ว่าในสถานการณ์อย่างนี้ทางจีนให้ความสำคัญกับรัฐบาลไทยและ คมช.มาก เพราะว่าสถานการณ์วันนี้ก็รู้กันทั่วไปนะครับ ว่าปัญหาวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างอำนาจเก่ากับอำนาจปัจจุบันนี้ยังดำเนินอยู่ และก็มีการเคลื่อนไหวบางประการ ในประเทศจีน ในสิงคโปร์นะครับ แต่ในประเทศจีนที่ผ่านมานี่ก็จะสังเกตได้อย่างชัดเจนนะครับ ว่าทางจีนไม่ได้เปิดโอกาสให้อดีตนายกฯไทยได้เข้าไปพบกับผู้นำในรัฐบาล ในพรรค หรือในรัฐของเขาเลย ไม่เคยอนุญาตให้มีการเปิดแถลงข่าวหรือเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆเลย นอกจากการพบปะมิตรสหาย ในขณะที่สิงคโปร์นะครับเกิดเหตุที่ทำให้เกิดความกระทบกระทั่งกันขึ้นนี่นะครับ และท่านรองประธานาธิบดีออกมาต้อนรับอย่างนี้นี่ ก็เป็นสัญญาณที่ตรงกันข้ามกับสิงคโปร์ ก็ค่อนข้างชัดเจน ผมคิดว่าอาจจะมีผลทำให้การเคลื่อนไหว การเคลื่อนตัวของอดีตนายกฯทักษิณในเมืองจีนนี่ ต้องได้รับการทบทวนมากแม้กระทั่งการเข้าเมืองนะครับ
คำนูณ – ก็เรียกว่าคงจะคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งนะครับ
ไพศาล – ครับ
ปานเทพ – ทำไมจีนถึงมีความสำคัญต่อความมั่นคงในประเทศในเวลานี้ นอกจากคุณทักษิณอย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือมีประเด็นอื่นด้วยครับ
ไพศาล – คือทางจีนนี่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมายาวนานนะ ความสัมพันธ์จริงๆไม่ใช่แค่สมัยสุโขทัย 1000 กว่าปีมาแล้วนะ และก็มาหยุดชะงักลงในช่วงสงครามเย็น หลังจากได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นใหม่เมื่อ 32 ปีก่อนนี่ ความสัมพันธ์นี้ก็ดีขึ้น พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ขยายตัวไปในทุกด้าน จีนได้ยึดหลักความสัมพันธ์ไทย-จีนนี่อยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก อย่างที่ผมเคยได้ให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งที้มีการยึดอำนาจใหม่ๆนะครับว่า คำถามแรกที่ฝ่ายจีนถามผมในคืนนั้นก็คือว่า คณะปฏิรูปได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วหรือยัง พอตอบว่าได้เข้าเฝ้าแล้วนี่นะครับ ก็คือความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเหมือนเดิม และท่าทีจีนต่อไทยก็เหมือนเดิมตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้นะครับ
ปานเทพ – แล้วทางการเคลื่อนระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยตอนนี้ คุณไพศาลมองว่าที่ผ่านมาก่อนมีการรัฐประหาร จนถึงรัฐประหาร จีนมีความสัมพันธ์กับทักษิณนี่เทียบแล้วจะทำให้เกิดความสั่นคลอนได้ไหมครับ เพราะว่าดูมีการประสานงานกันลึกมาก
ไพศาล – คือทางจีนนี่ คือมันมีความพยายามที่จะสร้างภาพพจน์ให้เห็นว่า มีความสัมพันธ์ในลักษณะส่วนตัวที่ลึกซึ้งระหว่างอดีตนากยฯไทย กับผู้นำจีน หรือหน่วยงานต่างๆของจีนนะครับ แต่เท่าที่ผมติดตามสังเกตความจริงแล้วมันไม่ใช่ จีนเขาไม่ได้ถือความสัมพันธ์ส่วนตัว เขาถือความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ ต่อประชาชนนะครับที่แน่นแฟ้นยึดหลักอันนี้เป็นหลัก เขาไม่แทรกแซงกิจการภายในของจีน เขาเป็นประเทศที่มีหลักการชัดเจนนะครับ อย่างตอนหลังนี่หลังจากยึดอำนาจการปกครองแล้วนี่ อดีตนายกฯไทยก็ได้พบติดต่อกับนักธุรกิจบางคนเช่นคุณเหยียนปิงเท่านั้นนะครับ ไม่ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือของพรรคก็ไม่มีนะครับ
คำนูณ – ก็คงจะคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งนะครับ ท่านนายกฯไปเยือนจีนก็คงจะช่วยเพิ่มความมั่นใจไปได้อีกเยอะนะครับ
ไพศาล – เท่าที่ทราบข่าว ท่านนายกฯคงจะไปประมาณเดือนมีนาคมนะครับ ก็เป็นการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ขึ้นนะครับ ก็เป็นผลดีต่อประเทศไทยและความสัมพันธ์ในจีนโดยรวมนะครับ
ปานเทพ – ครับ วันนี้ขอบพระคุณมากครับ คุณไพศาลครับ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการสัมภาษณ์ ไพศาล พืชมงคล
รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 22 มกราคม 2550 ดำเนินรายการโดย คำนูณ สิทธิสมาน และปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ปานเทพ – ตอนนี้เราต้องไปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วยนะครับ คุณไพศาล พืชมงคล ครับ สวัสดีครับคุณไพศาลครับ
คำนูณ – สวัสดีครับ
ไพศาล – สวัสดีครับ
ปานเทพ – ลองเล่าให้ฟังหน่อยครับว่า พล.อ.สนธิ กำลังจะไปพบใคร และก็มีนัยทางการเมืองระหว่างประเทศยังไงบ้างครับ เชิญครับ
ไพศาล – ตามข่าวขณะนี้นะครับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.กำลังเดินทางเยือนประเทศจีน คือเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 21 และคงกลับประมาณวันที่ 24 นะครับ ก็การเดินทางครั้งนี้ก็ค่อนข้างจะมีความหมายมาก เพราะประการแรกนี่ก็เป็นผู้นำทางการทหารของไทยคนแรก ที่เดินทางไปเยือนประเทศจีนหลังการปฏิรูปการปกครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีนายทหารระดับผู้ใหญ่เดินทางไปก่อนเลยนะครับ ประการที่ 2 ในการไปครั้งนี้ ทางการจีนได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งนะครับ ก็ได้จัดให้ พล.อ.สนธิ ไปกับ พลเอกเฉากังฉวน ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นมนตรีแห่งรัฐ เป็นรัฐมนตรีกลาโหมด้วยนะครับ อันที่ 3 ก็ได้ไปเยี่ยมหน่วยรบสำคัญๆของประเทศจีน โดยเฉพาะภาคทหารปักกิ่ง ซึ่งเป็นภาคทหารที่ดูแลความมั่นคงปลอดภัยของปักกิ่งและผู้นำพรรคนะครับ ซึ่งก็มีสมรรถนะในการรบค่อยข้างสูงมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือทางการจีนได้แสดงท่าทีทางการเมืองครั้งสำคัญเหมือนกันนะครับ ได้จัดให้ประธาน คมช.ได้พบกับรองประธานาธิบดีจีน คือท่านเจี่ยงจิ้งหงนะครับ ท่านเจี่ยงจิ้งหงผู้นี้ท่านเป็น 1 ในคณะกรรมการประจำกรมการการเมือง แห่งคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นผู้นำสูงสุดของจีนนะครับ
ปานเทพ – สำคัญยังไงครับ ลองเล่าให้ฟังหน่อยครับ
ไพศาล – คือประการแรกนะครับ ท่านผู้นี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีในส่วนของรัฐนะครับ เป็นสัญลักษณ์ของรัฐนะ เป็นรองก็แต่เพียงหูจิ่นเทาซึ่งเป็นประธานาธิบดีนะครับ อันที่ 2 ท่านผู้นี้ก็ดูแลกระทรวงจัดตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็คือหน่วยงานที่ปกครองดูแลตรวจสอบสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งขณะนี้ก็มีประมาณ 68 ล้านคน ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นหน่วยงานสำคัญมากที่สุดหน่วยหนึ่งนะครับ นอกจากนั้นท่านยังดูแลกระทรวงความมั่นคงของรัฐบาลจีนด้วย ซึ่งกระทรวงที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ซึ่งตรงกับภาระหน้าที่ของประธาน คมช.ของเรานั่นเองนะครับ และยังดูกระทรวงอีกหลายกระทรวง หน่วยงานอีกหลายหน่วยงาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความมั่นคงและการข่าวกรองแห่งชาติ เพราะฉะนั้นการที่ท่านเจี่ยงจิ้งหง ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีนะครับ ท่านผู้นี้ไม่เคยได้พบปะกับผู้นำไทยคนใดมาก่อนหน้านี้เลย
ปานเทพ – ไม่เคยเลยหรือครับ
ไพศาล – ไม่เคยเลยครับ เป็นผู้นำจีนที่ค่อนข้างเก็บตัว เพราะว่าหน้าที่ของท่านเกี่ยวกับความมั่งคงนะครับ โดยปกติจึงไม่ค่อยพบปะคน กับการที่ออกมาต้อนรับท่าน พล.อ.สนธิ ประธาน คมช.ในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงท่าทีทางการเมืองครั้งสำคัญต่อประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่นายกฯเหวินเจียเป่าได้มีสารอวยพรถึงนายกฯไทย ในวันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้วนะครับ ที่สำคัญผมมองว่าเป็นการส่งสัญญาณต่อข้าราชการจีน และชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศนะครับ ว่าในสถานการณ์อย่างนี้ทางจีนให้ความสำคัญกับรัฐบาลไทยและ คมช.มาก เพราะว่าสถานการณ์วันนี้ก็รู้กันทั่วไปนะครับ ว่าปัญหาวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างอำนาจเก่ากับอำนาจปัจจุบันนี้ยังดำเนินอยู่ และก็มีการเคลื่อนไหวบางประการ ในประเทศจีน ในสิงคโปร์นะครับ แต่ในประเทศจีนที่ผ่านมานี่ก็จะสังเกตได้อย่างชัดเจนนะครับ ว่าทางจีนไม่ได้เปิดโอกาสให้อดีตนายกฯไทยได้เข้าไปพบกับผู้นำในรัฐบาล ในพรรค หรือในรัฐของเขาเลย ไม่เคยอนุญาตให้มีการเปิดแถลงข่าวหรือเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆเลย นอกจากการพบปะมิตรสหาย ในขณะที่สิงคโปร์นะครับเกิดเหตุที่ทำให้เกิดความกระทบกระทั่งกันขึ้นนี่นะครับ และท่านรองประธานาธิบดีออกมาต้อนรับอย่างนี้นี่ ก็เป็นสัญญาณที่ตรงกันข้ามกับสิงคโปร์ ก็ค่อนข้างชัดเจน ผมคิดว่าอาจจะมีผลทำให้การเคลื่อนไหว การเคลื่อนตัวของอดีตนายกฯทักษิณในเมืองจีนนี่ ต้องได้รับการทบทวนมากแม้กระทั่งการเข้าเมืองนะครับ
คำนูณ – ก็เรียกว่าคงจะคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งนะครับ
ไพศาล – ครับ
ปานเทพ – ทำไมจีนถึงมีความสำคัญต่อความมั่นคงในประเทศในเวลานี้ นอกจากคุณทักษิณอย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือมีประเด็นอื่นด้วยครับ
ไพศาล – คือทางจีนนี่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมายาวนานนะ ความสัมพันธ์จริงๆไม่ใช่แค่สมัยสุโขทัย 1000 กว่าปีมาแล้วนะ และก็มาหยุดชะงักลงในช่วงสงครามเย็น หลังจากได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นใหม่เมื่อ 32 ปีก่อนนี่ ความสัมพันธ์นี้ก็ดีขึ้น พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ขยายตัวไปในทุกด้าน จีนได้ยึดหลักความสัมพันธ์ไทย-จีนนี่อยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก อย่างที่ผมเคยได้ให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งที้มีการยึดอำนาจใหม่ๆนะครับว่า คำถามแรกที่ฝ่ายจีนถามผมในคืนนั้นก็คือว่า คณะปฏิรูปได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วหรือยัง พอตอบว่าได้เข้าเฝ้าแล้วนี่นะครับ ก็คือความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเหมือนเดิม และท่าทีจีนต่อไทยก็เหมือนเดิมตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้นะครับ
ปานเทพ – แล้วทางการเคลื่อนระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยตอนนี้ คุณไพศาลมองว่าที่ผ่านมาก่อนมีการรัฐประหาร จนถึงรัฐประหาร จีนมีความสัมพันธ์กับทักษิณนี่เทียบแล้วจะทำให้เกิดความสั่นคลอนได้ไหมครับ เพราะว่าดูมีการประสานงานกันลึกมาก
ไพศาล – คือทางจีนนี่ คือมันมีความพยายามที่จะสร้างภาพพจน์ให้เห็นว่า มีความสัมพันธ์ในลักษณะส่วนตัวที่ลึกซึ้งระหว่างอดีตนากยฯไทย กับผู้นำจีน หรือหน่วยงานต่างๆของจีนนะครับ แต่เท่าที่ผมติดตามสังเกตความจริงแล้วมันไม่ใช่ จีนเขาไม่ได้ถือความสัมพันธ์ส่วนตัว เขาถือความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ ต่อประชาชนนะครับที่แน่นแฟ้นยึดหลักอันนี้เป็นหลัก เขาไม่แทรกแซงกิจการภายในของจีน เขาเป็นประเทศที่มีหลักการชัดเจนนะครับ อย่างตอนหลังนี่หลังจากยึดอำนาจการปกครองแล้วนี่ อดีตนายกฯไทยก็ได้พบติดต่อกับนักธุรกิจบางคนเช่นคุณเหยียนปิงเท่านั้นนะครับ ไม่ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือของพรรคก็ไม่มีนะครับ
คำนูณ – ก็คงจะคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งนะครับ ท่านนายกฯไปเยือนจีนก็คงจะช่วยเพิ่มความมั่นใจไปได้อีกเยอะนะครับ
ไพศาล – เท่าที่ทราบข่าว ท่านนายกฯคงจะไปประมาณเดือนมีนาคมนะครับ ก็เป็นการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ขึ้นนะครับ ก็เป็นผลดีต่อประเทศไทยและความสัมพันธ์ในจีนโดยรวมนะครับ
ปานเทพ – ครับ วันนี้ขอบพระคุณมากครับ คุณไพศาลครับ