xs
xsm
sm
md
lg

"ไพศาล"เชื่อมั่น ระเบิดป่วนกรุงไม่เกี่ยวไฟใต้ - พิรุธ"วงจรปิด"เสียใกล้ป้อม ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไพศาล พืชมงคล” สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสภาท่าพระอาทิตย์ (4 ม.ค.50) เผยการระเบิดทั่ว กทม. โดยวิธีการบ่งบอกได้ 100% ว่าไม่มีเรื่องภาคใต้เกี่ยวข้อง ส่วนข่าวลือปฏิวัติซ้อน เป็นการปล่อยเพื่อทำลาย“พล.อ.สพรั่ง” หมายสร้างความแตกแยกกันเอง ทำให้รัฐบาลและ คมช.อ่อนแอลง แต่เชื่อ “บิ๊กจิ๋ว” ไม่มีส่วนในการวางแผนระเบิดเมือง พร้อมชี้พิรุธกล้องวงจรปิดเสียก่อนระเบิดป้อม ตร.

คลิกที่นี่ เพื่อฟังการสัมภาษณ์ ไพศาล พืชมงคล

รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 4 มกราคม 2550 ดำเนินรายการโดยปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ปานเทพ – เราจะมาสัมภาษณ์ถึงความเห็นในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คุณไพศาล พืชมงคล ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วันนี้ก็ถือว่ามาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และก็ถือว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการร่างคำสั่งของ คปค.นะครับในช่วงแรกๆ จะมามองมุมในเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคุณไพศาล พืชมงคล ครับ สวัสดีครับ คุณไพศาลครับ

ไพศาล – สวัสดีครับ

ปานเทพ – คุณไพศาลมองเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืน ต่อเนื่องกันตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดมาจนถึงเหตุการณ์การขู่วางระเบิด มาจนถึงเหตุข่าวลือเมื่อคืนที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารว่าอย่างไรบ้างครับ

ไพศาล – คือการวางระเบิด กทม.ในวันปีใหม่นี่นะครับ มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่อยู่ๆมันเกิดขึ้นลอยๆนะ มันต่อเนื่องมา มันพัฒนามาจากเหตุการณ์ที่จะมีการเอาม็อบเข้ามาขับไล่ คมช.หรือรัฐบาลนี่นะครับ แต่ว่าในที่สุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมนี่ การระดมคนนี่มันก็ล้มเหลวลงไป ก็เพราะว่ารัฐบาลและ คมช.เขาก็ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆได้ผล ในช่วงนั้นมันก็เกิดการเผาโรงเรียนเกิดขึ้น ตั้งแต่ภาคเหนือภาคอีสานเป็นหลัก แต่เผื่อไม่ให้น่าเกลียดก็เอาที่ประจวบเสียอีกหน่อยอย่างนี้ ทีนี้ซึ่งการเผาโรงเรียนนั้นมันก็มี รู้สึกหนังสือพิมพ์ผู้จัดการนี่แหละเอาแผนนี้มาเปิดเผยทีนึงแล้วนะครับ ซึ่งมันก็ต่อเนื่องมา ระหว่างนั้นก็มีข่าวว่าจะมีการเกิดเหตุร้ายในพื้นที่ กทม.นะครับ ปีต่อมาก็มาเกิดขึ้นในเวลาประมาณก่อนช่วง 6 โมงเย็นนะครับ ซึ่งตอน 2 ทุ่มนี่คนไทยก็รู้กันแล้วว่าจะเป็นเวลามหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพรแก่ประชาชนชาวไทย แต่คนคิดนี้มันก็ยังกล้าทำ

ปานเทพ – ยังคิดว่าคนที่ทำนี่คิดในเรื่องนี้ด้วยใช่ไหมครับ

ไพศาล – ผมคิดว่าเขาคิดนะ ซึ่งอันนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องของทางปักษ์ใต้นะ ก็เพราะว่าทางปักษ์ใต้เราดูนะ เขาจะไม่เคยประกาศตัวว่าเป็นใคร พอเกิดเหตุขึ้นมาก็มีคนพยายามชักไปเรื่องปักษ์ใต้เลย แล้วก็เอารหัสบ๊องรหัสโจ๊กนี่มาพูดเป็นตุเป็นตะนะครับ ในที่สุดมันก็หน้าแตกกันไป คือมีความพยายามที่จะทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องปักษ์ใต้ ตั้งแต่วินาทีแรกๆที่เกิดระเบิดแล้วนะครับ ซึ่งอันนั้นก็เหมือนคาร์บ๊องใช่ไหมครับ พอเกิดเหตุปั๊บก็เป็นตุเป็นตะเลย นี่ก็เหมือนกัน แต่เรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องโจ๊กไป เอาเข้าจริงบอกให้ประชาชนรู้กันเมื่อวานนี่ เมื่อเป็นอย่างนี้ตอนนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานความสงบภาคใต้ เขาก็ให้ความเห็นตรงกันแล้วว่าไม่ใช่เรื่องปักษ์ใต้แน่นอน

ปานเทพ – ทำไมถึงได้สรุปอย่างนั้นว่าไม่ใช่ใต้แน่ๆเพราะอะไรครับ

ไพศาล – คือ 1. โดยผลประโยชน์ของเขานี่มันไม่สอดคล้องกัน อันที่ 2 เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น อันที่ 3 เวลาที่เกิดนี่มันเป็นเวลาที่เวลามุสลิมเขาไม่ทำบาปไม่ทำชั่ว เป็นเทศกาลที่เขากินบุญกันน่ะ มีชื่อเฉพาะอยู่นี่นะครับ ซึ่งอันนี้เขาก็เคร่งครัดเขาก็เคารพในหลักศาสนาของเขา เขาก็ไม่มีทางมาทำอย่างนั้น อันที่ 4 การมาประกาศตัวองค์กร มาเขียนรหัสลับอะไรนี่นะครับมันไม่มี มันไม่เคยประกาศอันนี้ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้ และที่สำคัญก็คือว่าการทำในเวลาอย่างนั้นในพื้นที่อย่างนี้ และการประกอบวัตถุระเบิดต่างๆนี่มันคนละสไตล์คนละแบบกัน วิธีการทำก็คนละอย่างนะครับ แต่พยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องปักษ์ใต้ นี่มันก็เป็นอย่างนี้ไป

ทีนื้พอเกิดเหตุนั้นแล้วนี่มันก็มีต่อเนื่องขึ้นมานะครับ ซึ่งอันนี้ก็มีข่าวมาตั้งนานแล้วว่าจะต้องมีขึ้นตลอด 2 เดือน แต่ผลที่เกิดขึ้นนี่มันก็คือว่าคนทำจะเสียหาย เพราะคิดเรื่องนี้ก็แพ้แล้ว ก็ผลเสียหายมันขึ้นต่อประเทศชาติและประชาชน พอคนไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องไฟใต้ลามขึ้นมานี่ มันก็จะเกิดผลเชิงกลับทันทีเลย ความเห็นอกเห็นใจต่อรัฐบาลและ คมช. การที่จะมาเข้าร่วมกันปกป้องชาติบ้านเมือง การที่จะร่วมกันเป็นหูเป็นตาเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมืองของประชาชนนี่ก็เกิดขึ้น ดังจะเห็นว่ากลุ่มประชาชนพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยตอนนี้เริ่มขับเคลื่อนตัวแล้ว เริ่มปฏิบัติหน้าที่ยามเฝ้าแผ่นดินส่งข่าวๆ กันอย่างกว้างขวางแล้ว เพราะฉะนั้นนี่หูตาประชาชนเป็น 70 ล้านช่วยกันดูนี่ ผมก็เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะคลี่คลายลงไป และผมเชื่อว่ารัฐบาลและ คมช.เขาก็มีข่าวสารข้อมูลที่จะติดตามหาตัวผู้กระทำความผิด แต่ว่าเรื่องนี้ตำรวจต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ต้องเห็นแก่ชาติบ้านเมืองมากกว่านี้ ทีนี้การตั้งคณะผู้สอบสวนคดีนี้มันก็ทำให้เกิดคนสงสัย ไม่สบายอยู่นะครับ

ผมก็อยากเสนอว่าทางตำรวจนี่ควรจะได้ฟังเสียงประชาชน ว่าเขาสบายใจอย่างไหนไม่สบายใจ อย่างไหนควรจะตั้งใครที่ประชาชนเขาไว้วางใจหรือเชื่อมั่น ว่าจะทำงานได้ผลอย่าให้เป็นเหมือนกับไฟเผาโรงเรียนอีกนะครับ ซึ่งถึงวันนี้ไฟไหม้ไปตั้งเป็นสิบๆแห่งนี่ไม่มีใครถูกจับกุมเลย มันเป็นไปได้ยังไงบ้านเมือง ถ้าจับกุมไม่ได้จริงๆแสดงว่ามันก็ต้องพิจารณาเรื่องปัญหาประสิทธิภาพในการทำงานแล้วนะครับ ซึ่งแค่นี้ก็ต้องสำนึกรับผิดชอบแล้ว แต่ถ้ารู้เห็นเป็นใจหรือว่าเอื้อเฟื้อไม่ทำหน้าที่ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก ทีนี้มาเหตุการณ์ระเบิดใน กทม.นี่ เหตุการณ์นี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนะครับ มันเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและมันกระทบมาก มันเป็นการลักษณะทำลายชาติบ้านเมือง ก่อความเดือดร้อนต่อประชาชน ทำให้วิถีชีวิตผู้คน กทม.เปลี่ยนแปลงไปหมดเลย และยิ่งมีข่าวการขู่โน่นขู่นี่นะครับ ก็คือทำลายทุกคนนั่นเอง เป็นการซ้ำเติมชาติบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีกับผู้กระทำเลย ผมว่ายิ่งทำไปหนักเข้านี่นะครับ คนจะเห็นใจและสนับสนุน คมช.และรัฐบาลมากขึ้น ดีไม่ดีคนจะเรียกร้องให้ใช้มาตรการเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ปานเทพ – แล้วเมื่อคืนที่มีข่าวในเรื่องของรัฐประหารซ้ำ

ไพศาล – เมือคืนนี้ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งนะครับ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วก็มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการปฏิวัติอย่างกว้างขวาง ไปจนถึงเวลา 4 ทุ่มพอถึง 4 ทุ่มเริ่มระบุว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งอันนี้นี่ก็เป็นการปล่อยข่าวลือแต่ข่าวลือนั้นมันเกิดขึ้นเพื่ออะไร

ปานเทพ – เพื่ออะไรครับ

ไพศาล – ก็พอจะจับเป้าหมายชัดเจนแล้วนะครับ ว่าต้องการที่จะทำลาย พล.อ.สพรั่ง

ปานเทพ – เป็นเป้าหมาย พล.อ.สพรั่งเลยหรือครับ

ไพศาล – ครับ เป้าหมายในการปล่อยข่าวลือครั้งนี้ ปล่อยกว้างมากนะครับ ในตอนต้นนี้ไม่บอกว่าใครทำ แต่พอตอน 4 ทุ่มกว่าเริ่มออกชื่อแล้ว

ปานเทพ – คือเริ่มมีพูดชื่อว่า

ไพศาล – เริ่มมีพูดชื่อก็เพื่อให้คนเกลียด พล.อ.สพรั่ง เพื่อยืมมือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี่ ลดทอนอำนาจ พล.อ.สพรั่ง ซึ่งเป็นผู้ที่จงรักภักดีและก็ประกาศว่าจะเป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัวมาแต่ต้นนะ ก็เพื่อทำลาย คมช.ให้อ่อนแอลง เพื่อทำลายรัฐบาลให้อ่อนแอลงนั่นเอง

ปานเทพ – ทำไมต้องเป็น พล.อ.สพรั่งครับ ทำไมไม่เป็นคนอื่นครับ

ไพศาล – เพราะว่า พล.อ.สพรั่งนี่ท่านจำได้ไหมครับ ในช่วงที่มีการขับเคี่ยวกันอยู่นั้นนี่ พล.อ.สพรั่งเป็นนายทหารคนแรกนะครับ ที่ออกมาประกาศตัวว่าเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพลีชีวิตเพื่อพิทักษ์ราชบัลลังก์ และก็เป็นคนที่เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาวิกฤติในขณะนั้น มาในตอนนี้ พล.อ.สพรั่งก็ได้รับมอบหมายให้ไปสะสางการทุจริตในสุวรรณภูมิจุดหนึ่ง และยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการพิเศษ ที่ดูแลพื้นที่ทั่ว กทม.โดยเฉพาะนี่นะครับ เพราะฉะนั้นการที่มาเรียกร้องให้ฝ่ายทหารรับผิดชอบ หรือ คมช.รับผิดชอบ คือจี้ไปที่ พล.อ.สพรั่ง

ปานเทพ – แสดงว่ามีกระบวนการบางอย่างเพื่อ

ไพศาล – มีกระบวนการทำลาย พล.อ.สพรั่ง โดยเฉพาะประชาชนต้องเข้าใจสถานการณ์นี้ ต้องช่วยกันปกป้องคนดีของบ้านเมืองไว้

ปานเทพ – และใครทำครับ ทำไมจะต้องทำลาย พล.อ.สพรั่งเป็นการเฉพาะ

ไพศาล – คือถ้าหากว่า พล.อ.สพรั่งถูกทำลายลงนี่ คมช.ก็จะอ่อนแอ รัฐบาลก็จะอ่อนแอ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เป็นอันตราย เพราะฉะนั้นต้องรีบทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดี ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาปกป้อง พล.อ.สพรั่ง ช่วยทำความเข้าใจกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ปานเทพ – พูดง่ายๆ ก็คือว่าข่าวลือและข่าวปล่อยตั้งแต่เมื่อคืนนี่ คือพยายามโยงว่าเป็นฝีมือของ พล.อ.สพรั่งใช่ไหมครับ

ไพศาล – ใช่ครับ

ปานเทพ – และก็พยายามลดความน่าเชื่อถือของ พล.อ.สพรั่ง ให้ทุกคนหวาดระแวงอย่างนั้นใช่ไหมครับ

ไพศาล – ใช่ครับ ทำให้เกิดความหวาดระแวงกันใน คมช. ให้เกิดความแตกแยกกันใน คมช. เพื่อทำลาย คมช.ให้อ่อนแอลง เพื่อทำลายรัฐบาลให้อ่อนแอลง

ปานเทพ – คือเป้าหมายสุดท้ายก็คือทำลายรัฐบาล

ไพศาล – ถูกต้อง

ปานเทพ – ทีนี้มีอีกประเด็นนึงก็คือในฐานะที่คุณไพศาลทำงานกับ พล.อ.ชวลิต มานานนี่นะครับ กับคำพูดเมื่อวานนี้นี่คุณไพศาลคิดยังไงบ้างครับ มันเกิดอะไรขึ้น

ไพศาล – ผมคิดว่าจุดยืนทางการเมืองของแต่ละคนนี่ก็เห็นต่างกันไปได้นะครับ ซึ่งอันนี้ท่านก็อาจจะมีความคิดเห็นของท่านอย่างไรผมก็ไม่ทราบ แต่ว่าการที่จะไปสงสัยว่าท่านวางระเบิดนี่ เท่าที่ผมรู้จักนี่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในสมัยรัฐบาลที่แล้วนี่นะ เท่าที่ผมทราบนี่ท่านก็ถูกไล่ออกจากตำแหน่งมาทีนึงแล้ว และโดยอ้างเบื้องบนด้วยแต่สรุปก็ไม่ใช่ ตอนก่อนจะมีการยึดอำนาจนี่ ท่านก็หวิดๆจะถูกออกหมายจับพร้อมกับนายชิงชัย มงคลธรรม และคณะของนายไทกร โดยหาว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดอีกเหมือนกัน ทีนี้ผมว่าท่านพูดเมื่อวานท่านคงยัวะนะครับ เพราะว่าคนอย่างท่านเท่าที่ผมรู้จัก ผมเชื่อว่าท่านไม่ได้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดอะไร ท่านกำลังถูกชูขึ้นเพื่อให้หลงเป้า

ปานเทพ – ใครเป็นคนชูครับ ชูเพื่ออะไรครับ ถ้าคุณไพศาลคิดอย่างนั้น

ไพศาล – ก็เพื่อจะหาพวกน่ะ เพื่อดึงท่านออกมาจากรัฐบาลและ คมช.

ปานเทพ – และมันจะได้ประโยชน์ยังไงครับ

ไพศาล – ก็ดึงคนออกมาจาก คมช.และรัฐบาลมากเท่าไหร่ รัฐบาลและ คมช.ก็จะโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น อ่อนแอลงเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ทั้ง คมช.และรัฐบาลก็ควรจะคิดให้ดี ต้องไตร่ตรองให้ดี ท่าน พล.อ.ชวลิต มีคนทำลายท่านเยอะนะครับ แต่ว่าคนที่ทำงานอย่างท่านได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีศักดิ์รามาธิบดีนี่ ผมเชื่อมั่นว่าท่านไม่ได้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดแน่นอน

ปานเทพ – แต่ว่าดูเหมือนว่าจะมีเรื่องข่าวที่ไม่ปรากฏแหล่งข่าว ตั้งแต่เรื่องโบกี้รถไฟ เรื่องที่ดิน แม้กระทั่งเรื่องที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วางระเบิดนี่ ที่โยงที่ พล.อ.ชวลิต

ไพศาล – ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้นะครับ แต่เท่าที่อ่านจากข่าวนี่ผมก็พยายามอ่านละเอียดนะ ว่า พล.อ.ชวลิตพูดหรือว่าใครพูดนะครับ

ปานเทพ – ท่านไม่ได้พูดใช่ไหมครับ

ไพศาล – ตัวท่านไม่ได้พูดหรอก แต่ว่ามีการเขียนข่าวว่าแหล่งข่าวระบุว่า พล.อ.ชวลิต สั่งให้คนสนิทซึ่งใครก็ไม่รู้ ไปตรวจสอบนะครับ มันก็เป็นอย่างนี้เป็นกระบวนขึ้นมาอย่างนี้

ปานเทพ – เป็นกระบวนขึ้นมาเหมือนกับว่าดึง พล.อ.ชวลิต มาให้เป็นจุดสำคัญ และก็เผชิญหน้ากับ คมช.อย่างนี้ใช่ไหมครับ

ไพศาล – ใช่แล้ว

ปานเทพ – ทีนี้ถ้ามองเกมต่อในอนาคตตอนนี้นี่จะเกิดอะไรขึ้น และก็ คมช.และรัฐบาลควรจะมีบทบาทยังไงครับ

ไพศาล – คือปมเงื่อนที่สำคัญที่สุดก็คือต้องสร้างความมั่นใจ ว่ารัฐบาลและ คมช.สามารถดูแลรักษาความปลอดภัย ในชีวิตร่างกายทรัพย์สินของประชาชนได้ ตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจทุกคนก็รู้แล้วว่ามันเริ่มวิกฤติ อันนั้นคนมันก็เสียหายเยอะอยู่แล้ว แต่มันยังทนไหวยังไม่ระเบิด แต่ถ้าเมื่อใดกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของแต่ละคนแล้วนี่ อันนั้นแหละคนมันจะระเบิดแล้ว ทีนี้ทำไมถึงป้องกันและแก้ไขไม่ได้ อย่างไฟไหม้โรงเรียนนี่จับใครไม่ได้ซักคนมันเป็นไปได้ยังไง แต่คราวนี้ผมเชื่อว่าทหารคงจะจัดการเอง แต่ตำรวจนี่ควรจะได้ทบทวนบทบาทอันนี้นะครับ ว่าทำไมถึงได้มีบทบาทในการนำความสงบสุขกลับคืน ผมอยากชี้ให้ไปดูไปไล่เบาะแสตรงนี้ก็น่าจะเจอแล้ว ว่าทำไมกล้องวงจรปิดนี่ 3 ป้อม 4 ป้อม 3 อัน 4 อันนี่มันถึงเสียพร้อมๆ กัน เสียในเวลาไล่เลี่ยกันนี่มันอะไร ควรจะคิดได้ยังไง มันเกิดขึ้นเพื่ออะไร ตรงนี้เป็นเบาะแสสำคัญนะครับ สำคัญยื่งกว่าไอ้รหัสลับอะไรที่ว่านั่นอีก

ปานเทพ – ต้องไปดูที่จุดเกิดอะไรขึ้นกับป้อมตำรวจใช่ไหมครับ

ไพศาล – นี่ไปไล่จากจุดนี้แหละครับก็จะได้เบาะแสแล้ว ถ้าในทางสอบสวนสืบสวนเขาเรียกว่าแผลใหญ่เลยตรงนี้เข้าไปเถอะ

ปานเทพ – ครับ ขอบคุณมากนะครับ คุณไพศาลครับ

ไพศาล – ครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น