“สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งนสพ.ผู้จัดการ แสดงทรรศนะหลังเกิดเหตุการณ์วางระเบิด 8 จุดทั่ว กทม. ในสภาท่าพระอาทิตย์ (1 ม.ค.49) โดยเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง ที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาลด้านความปลอดภัย ย้ำเหตุระเบิดครั้งนี้ไม่เกี่ยวโยงกับภาคใต้ และชี้การทำงาน “โกวิท-อชิรวิทย์” ไร้ประสิทธิภาพอย่างร้ายแรง สมควรถูกเด้งเข้ากรุให้คนอื่นทำแทนมากกว่า เพราะขืนให้อยู่ต่อรังแต่จะเป็นผลเสียต่อประเทศชาติ และวอน คมช.ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้จะยิ่งทำให้ผู้ไม่ประสงค์ได้ใจมากขึ้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล
รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 1 มกราคม 2550 ดำเนินรายการโดยสำราญ รอดเพชร และปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
สำราญ – ครับ มาช่วงที่ 3 นะครับ สภาท่าพระอาทิตย์วันจันทร์ปีใหม่ครับ วันที่ 1 มกราคม 2550 นะครับ อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าตอนนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็จะมาร่วมสนทนารายการกับเราด้วยครับ คุณสนธิมาแล้วครับ สวัสดีครับ
สนธิ – สวัสดีครับ คุณสำราญ คุณปานเทพ ครับ
สำราญ – ทำไมต้องมาพูดครับ เมื่อคืนก็ยาวเหมือนกันนะครับ
สนธิ – ความจริงเมื่อคืนนี้เดิมทีผมจะไปปฏิบัติธรรมไง แล้วก็พอตกเย็นพอรู้ข่าวก็เลยกลับมา เพราะว่าโดยวิชาชีพแล้วมันต้องอยู่ใช่ไหม แล้วผมก็มีความรู้สึกจากประสบการณ์ในการที่ทำงานทางด้านสื่อมวลชนมานาน เห็นการสร้างและทับถมของลักษณะข่าว ที่มันจะก่อไปสู่เหตุการณ์นี่มันเกิดขึ้นมาได้ประมาณเดือนกว่าๆแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าใช่แล้วว่าต้องมีเรื่องราว มันใช่แค่ระเบิดแค่ทีเดียวเท่านั้นเอง มันคงจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ ผมก็เลยตัดสินใจยกเลิกการปฏิบัติธรรมมา และก็เข้ามาในที่ทำงาน และก็หลังจากดูเหตุการณ์ซักพักนึงแล้วนี่ ผมก็คิดว่าผมก็เลยวิเคราะห์ก็ค่อนข้างที่จะฟันธงไปพอสมควร ซึ่งผมก็มั่นใจว่าผมไม่ผิดหรอกครับ ว่าจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องราวของกระบวนการที่จะป่วนรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งการป่วนรัฐบาลชุดนี้นี่มันพิสูจน์ชัดว่ามันต้องเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน
ที่คุณศิธา ทิวารี พูดบอกว่าอย่าโยนมาให้กับการเมือง มันไม่มีการเมืองแล้วมันเป็นเรื่องอะไร มันเป็นเรื่องของคนบ้าหรือไงที่จัดการเอาระเบิดมาวาง และก็จากการซึ่งตรวจสอบภายในของผมนี่ ก็พบว่าจริงๆแล้ววางระเบิดไว้ 30 ครับ และก็มีหน่วยงานของทหารบางหน่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นทหารด้วย เพราะว่างานการวางระเบิดนี่ พวกเป๋ คลองเตย ทำไม่ได้หรอก หรือว่าพวกกุ๊ยที่คุมสนามม้าก็ทำไม่ได้ ป่าไม้ก็ทำไม่ได้ ต้องเป็นหทารแน่นอนงานนี้นะครับ ทีนี้ถ้าเป็นทหารแน่นอนก็ฟันธงไปได้เลยว่า เป็นทหารฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะว่าคนเรานั้นกว่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นนายพล พลตรี พลโท หรือพลเอกนี่ มันต้องมีลูกน้องเยอะ บางครั้งตัวเองกำลังจะขึ้นเป็นแม่ทัพ หรือตัวเองเป็นแม่ทัพอยู่แล้วถูกโยกย้ายไปเพราะว่าเป็นพวกทักษิณนี่ ความเจ็บแค้นเจ็บช้ำน้ำใจมันก็ต้องมีอยู่ มันก็เลยต้องเกิดขึ้น
สำราญ – นิดเดียวครับ คุณสนธิ แทรกเรื่องระเบิดนิดนึงนะครับ ตอนเช้า พล.อ.อนุพงษ์ ก็พูดผ่านช่อง 5 นะ บอกว่าระเบิดนี้คนทำระเบิดนี่นะ จะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน คือผลิตมาจากแหล่งเดียวเท่านั้นเอง
สนธิ – ถูกต้องครับ และที่น่าสังเกตอย่างนึงว่า เมื่อคืนนี้ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช พูดจาไม่ค่อยเหมาะสมกับการเป็นโฆษกตำรวจนะครับ คือพยายามโยงให้เห็นว่าเป็นเรื่องปัญหาของทางใต้ ไม่ใช่แน่นอนนะครับ
ปานเทพ – ทำไมถึงตัดทางเลือกนี้ทิ้งไปครับ
สนธิ – ที่ผมต้องตัดทางนี้ทิ้งไปก็เพราะว่าลักษณะการโยงเพื่อที่จะให้ตัดเรื่องเกี่ยวกับการเมือง เข้าใจไหมครับ ก็คือเสมือนกับว่าคุณอชิรวิทย์นี่ คือผมสังเกตคุณอชิรวิทย์มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอำนาจอยู่นี่ พยายามพูดจาช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณนะครับ ปกป้อง เอาว่าปกป้องดีกว่า พอ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปนี่คุณอชิรวิทย์ก็พูดจาช่วยเหลือหลายๆเรื่อง ที่น่าเกลียดมากๆก็คือเมื่อคืนนี้นี่คุณอชิรวิทย์นี่ได้ล้ำเส้นของการเป็นตำรวจไป คือคุณสำราญครับเมื่อคืนนี้ผมพูดชัด ผมบอกว่าคุณอชิรวิทย์นี่มีหน้าที่ออกมาแถลงข่าวเฉยๆ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนี่ประชาชนให้มั่นใจในความปลอดภัย ตำรวจจะดูแลให้เป็นอย่างดี และตำรวจให้ความมั่นใจว่าตำรวจนี่จะหาผู้ซึ่งกระทำผิดมาให้ได้ แต่คุณอชิรวิทย์กลับไม่ได้พูดอย่างนี้ กลับไปเสนอวิสัยทัศน์ทางการเมือง และก็ไปดูในเรื่องของไออาร์เอซึ่งเป็นเรื่องตลกมาก คนซึ่งเขารู้เรื่องไออาร์เอของประเทศไอร์แลนด์เหนือเขาก็หัวเราะ คือผมเรียนมาทางประวัติศาสตร์ ผมก็รู้ว่าความรู้ของคุณอชิรวิทย์ติ้นเขินมากที่พูดเรื่องนี้ แต่คุณอชิรวิทย์พยายามโยงให้เห็น วิธีโยงง่ายๆโยงให้เห็นว่าที่ไอร์แลนด์เขาก็มีการระเบิดอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็คุยกันรู้เรื่อง
ปานเทพ – เหมือนกับตำรวจอยู่เฉยๆ ให้ประชาชนรับสภาพ
สนธิ – ครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วที่น่าเกลียดมากๆ และมาพูดออกมาบอกว่านี่ถ้าไม่มีสมานฉันท์เรื่องก็ไม่สงบ เอ๊ะ คุณอชิรวิทย์ คุณเป็นใครนี่ คุณมาบอกให้มีสมานฉันท์ เข้าใจไหม คุณสำราญ
สำราญ – แสดงว่าให้เลือกกันไปเลย
สนธิ – ให้เลือกกันไปเลย ผมถึงบอกเมื่อคืนผมบอกว่า คุณอชิรวิทย์ ถ้าจะเล่นการเมืองยืนอยู่ข้างคุณทักษิณนี่ถอดเครื่องแบบลงมา เพราะว่าการกระทำอะไรหลายอย่างนี่ประชาชนเห็น เห็นหมดว่าเนื้อแท้คุณอชิรวิทย์ที่แท้จริงเป็นยังไง ผมเสียดายคนๆนี้ เป็นคนที่มีความรู้พอสมควร มีความสามารถ ผมคิดว่าถ้าเขายืนอยู่ข้างความถูกต้อง เขาจะเป็นตำรวจที่ดีมาก เมื่อคืนคุณสังเกตอะไรไหมตั้งแต่มีเรื่องมา ผมยังไม่เห็นหน้า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
สำราญ – ผมกำลังจะพูดถึงพอดี
สนธิ – ไม่มีออกมาแถลงข่าวเลย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด
สำราญ – ไปต่างประเทศหรือเปล่า คุณสนธิ
สนธิ – จะไปหรือไม่ไปก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องโทรศัพท์กลับมา หรือจะต้องให้นายเวรของตัวเองโทรศัพท์กลับมา คือหายไปไหนนี่ผมไม่เข้าใจ ก็คือว่าคือยิ่งถ้าไปต่างประเทศนี่ยิ่งน่าเกลียด เพราะว่าอย่าง พล.อ.สนธิ นี่ไปเป็นพิธีทางศาสนา พิธีฮัจจ์
สำราญ – แต่ท่านก็โทรข้าวทวีปมานะ
ปานเทพ – ท่านก็ยังโทร
สนธิ – ผมว่าประเด็นอยู่ตรงนี้ พล.อ.สนธิ ไปซาอุดิอาระเบียเพราะว่าภารกิจทางศาสนาบังคับให้ต้องไป ตัวเองต้องไปทำพิธีฮัจจ์ แต่ พล.ต.อ.โกวิท ตัวเองเป็นคนออกคำสั่งว่าวันสิ้นปีกับวันปีใหม่นั้นตำรวจห้ามลา ตำรวจต้องทำงานทุกคน แต่ตัวเองถ้ายิ่งไม่อยู่ยิ่งไปอยู่ต่างประเทศนะครับยิ่งน่าเกลียดมาก จะถามว่าจะไปดูงานอะไรที่ต่างประเทศ ผมถึงบอกว่าคุณโกวิทกับคุณอชิรวิทย์นั้น เป็น 2 นายตำรวจที่สมควรจะต้องถูกย้ายประจำสำนักนายกฯทันที และควรจะย้ายวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน ไม่ควรจะต้องรอ เพราะว่าการยึดอำนาจนี่ข้อบกพร่องก็คือว่า การยึดอำนาจคือชื่อมันบอกอยู่แล้วนี่ยึดอำนาจมา
เมื่อยึดมาแล้วนี่ก็ต้องยึดมาจากคนใดคนหนึ่งเขาถืออำนาจอยู่ใช่ไหม ทีนี้กลุ่มนั้นมันก็แน่ชัดว่าเป็นกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีนี้ภายใต้กลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะมีนายพลของเขา นายพลทหารบก นายพลทหารเรือ นายพลตำรวจ เมื่อดึงออกมาแล้วนี่ก็มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้บัญชาการกองพลที่ 1 พล.ต.พฤณฑ์ หรือว่านายทหารอีกหลายนายซึ่งถูกโยกย้ายไป คุณสำราญสังเกตอย่างว่าความคิดของ พล.อ.สนธิ นี่เป็นความคิดที่ดี ท่านบอกว่าต้องสมานฉันท์ใช่ไหมครับ ทีนี้คำว่าสมานฉันท์นี่ท่านตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ท่านเชื่อว่าเรื่องราวไม่มีแล้ว ท่านเชื่อในอำนาจที่ท่านมี แต่ท่านไปประมาทอำนาจของฝ่ายตรงกันข้ามที่ยังมี
สำราญ – คือท่านมองคนในแง่ดีด้วย
สนธิ – ท่านมองคนในแง่ดี ท่านเป็นคนซึ่งมีจิตใจดี แต่อีกฝ่ายนึงนี่ไม่ยอม เราอยู่ในวงการข่าวมานานแล้วคุณสำราญ อยู่มาตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่น เราก็รู้ว่ากระบวนการนี้เริ่มเข้มข้นมาทีละนิดๆเป็นลำดับ ตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่สมัยที่พอเขาเข้ามาในอำนาจยังไม่ถึง 2 อาทิตย์ โรงเรียนกำแพงเพชร 5 โรงถูกเผาทันทีเลย และที่สำคัญจับคนร้ายไม่ได้ โรงเรียนที่ถูกเผาทุกโรงเรียนทั้งอีสานเหนือ อีสานใต้ กำแพงเพชร ที่ระยอง เป็น 10 โรงเรียนนี่นะครับ ที่น่าตลกที่สุดเลยตำรวจจับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว จับไม่ได้ ซึ่งประหลาดใจมาก น่าประหลาดใจจริงๆ ก็สรุปได้ง่ายๆจากองค์ความรู้ที่เรามีว่า ตำรวจในยุคของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นใส่เกียร์ว่าง ที่ใส่เกียร์ว่างก็เพราะว่าตำรวจนี่คือตัวการ เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณมานานแล้ว แต่ว่าความที่คุณโกวิท วัฒนะ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ พล.อ.สนธิ ก็เลยไว้ใจว่าน่าจะเข้าใจเหตุการณ์ น่าจะช่วยน่าจะพูดจาได้ ปรากฏว่าไม่มี เหตุการณ์มันก็เลยยิ่งพัฒนาไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น คุณสำราญเมื่อคืนฟังผมพูดหรือเปล่า
สำราญ – ดูตอนท้ายนิดนึงครับ
สนธิ – คือมันเป็นเรื่องตลกครับ ไฟไหม้โรงเรียนที่อีสานใต้ทุกโรงเรียนนี่ พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 บอกว่าไฟฟ้าลัดวงจร ผมก็เลยบอกพ่อแม่พี่น้องอีกหน่อยนี่นะ คุณจะสร้างบ้านและคุณจะเดินไฟนะ ช่างไฟมาทำงานที่บ้านคุณต้องถามนะว่ามาจากไหน ถ้าพื้นเพคนอีสานใต้ต้องไม่ให้เดินนะ เพราะว่าเดินแล้วลัดวงจรหมดเลย
ปานเทพ – มีบอกตั้งแต่ 45 โรงนะ
สำราญ – 45 คดี คดีโรงเรียนทั้งหมดนี่นะครับ ทั้งเหนือทั้งอีสานนะครับ 45 คดี และปรากฏว่าตำรวจชี้ได้แค่เพียงบอกว่ามีการลอบวางเพลิงนี่ 7 คดี นอกนั้นลัดวงจรหมด
สนธิ – ที่เหลือไฟฟ้าลัดวงจรหมด คือบ้านนี้เมืองนี้นี่มันไม่เคยลัดวงจรเยอะขนาดนี้ เกิดมาลัดวงจรในช่วงนี้พอดี มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก คือให้เด็กอมมือที่ไม่รู้เรื่องการเมืองเขาก็ต้องหัวเราะ เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือเหตุการณ์นี้ ทีนี้ถ้าคุณสำราญสังเกตให้ดีๆนี่ 1. ความใจดีของ คมช. 2. พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ท่านเงียบๆ คือท่านเป็นคนอ่อนนอกแต่แข็งใน แต่ความอ่อนนอกนี่ทำให้ท่านต้องการจะทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน ถ้าเป็นผมหรือ ผมมาวันแรกต้องจับเข่าคุยกับทาง คมช.แล้ว ว่าคุณโกวิท วัฒนะ ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทนี่ผมต้องขอเถอะ ไปเลยสำนักนายกฯ คุณอชิรวิทย์ไปเลย ใครที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณไปประจำให้หมด เพราะว่าตำรวจไทยมีอยู่ 1.8 แสนคน มันมีคนดีอยู่แล้ว มันมีตำรวจที่ถูกรังแกมาเยอะ 4-5 ปีที่แล้วนี่เราสามารถจะเอาขึ้นมาแทนได้ และเป็นคนที่ตั้งใจจะทำงานใช่ไหมครับ
และคุณสังเกตอะไรอย่างนะ ผมคิดว่าเป็นเรื่องตลก เมื่อวานนี้ผมอ่านหนังสือพิมพ์มติชน มันมีหน้าวิเคราะห์การเมือง เขาบอกเลยว่าปีนี้จะมี 5 เหตุการณ์ 1,2,3,4, 5 เขาก็ไล่มาทีละเรื่อง และก็สรุปว่าสังคมไทยปีหน้าเป็นสังคมที่ต้องรู้จักสมานฉันท์ รู้จักให้อภัยกัน ผมก็มานั่งนึกในใจ เอ๊ะ มติชนงวดนี้มาแปลกอีกแล้ว เหมือนสมัยที่คุณเสถียร จันทิมาธร เขียนหน้า 3 มาอีกแล้ว มาในเชิงเหมือนกับสอดคล้องไง สอดคล้องช่างสอดคล้องกับคำพูดของคุณอชิรวิทย์ที่พูดเมื่อคืน รับลูกกันหมดทุกอย่าง และที่น่าสังเกตคือผมเป็นคนช่างสังเกต ผมก็เลยนึกในใจ เอ๊ะ คนเขียนเพี้ยนหรือเปล่าบอกว่าต้องรู้จักให้อภัย ถ้าอย่างนั้นไอ้คดีความที่คุณทักษิณกำลังโดนนี่ต้องให้อภัยหมดสิ ก็หมายความว่าหยุดใช่ไหม หยุดขุดคุ้ย ซึ่งมันก็ตรงกับข้อมูลที่ผมได้มา ว่าคุณทักษิณพยายามส่งทูตมาเจรจากับ คมช.หลายๆสายให้หยุดขุดคุ้ยคุณทักษิณ เข้าใจหรือยัง ซึ่งมันตลกมาก และก็ถ้าดูพฤติกรรมคุณทักษิณนี่ จากการซึ่งเคยอยู่อังกฤษนี่ต้องบินมาอยู่แถวเมืองจีนนี่เพื่ออะไร เพื่อก่อให้เกิดคลื่นให้เห็นว่ายังอยู่แถวนี้
สำราญ – คือปักกิ่ง-กทม. นี่มัน 5 ชั่วโมง
สนธิ – ไม่ใช่ปักกิ่ง-กทม. เขาไม่ได้อยู่ปักกิ่งด้วย เขามาอยู่แถวกวางโจว วันดีคืนดีก็บินข้ามฝั่งเข้ามาฮ่องกง กวางโจว-ฮ่องกงนั่งรถไฟชั่วโมงเดียวถึง กทม.-ฮ่องกง 2 ชั่วโมงกว่า ฮ่องกงมีอาหารการกินทาน มีโรงแรมหรูอย่างดีอยู่ และได้ข่าวคุณทักษิณก็อยู่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล และแมนดารินโมเรียนเต็ลนี่ใครเป็นหุ้นส่วนด้วยรู้ไหม
ปานเทพ – ใครครับ
สนธิ – อิตัลไทยไงล่ะ เข้าใจหรือยังล่ะ เพราะฉะนั้นแล้วคุณทักษิณก็เลยใช้เครือข่าย ที่ตัวเองเกื้อหนุนและได้ประโยชน์ด้วย อันนี้ไม่มีใครเคยคิดเลยนะ แมนดารินโอเรียนเต็ล อิตัลไทยมีหุ้นส่วนอยู่ อิตัลไทยกับระบอบทักษิณนี่ผูกตัดกันเลย สนามบินสุวรรณภูมิ การก่อสร้างนี่หลายๆอย่างนี่อิตัลไทยทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเวลาวิเคราะห์เหตุการณ์ต้องวิเคราะห์ให้เป็น ทีนี้มันเริ่มเข้มงวดตอนไหนรู้ไหม ตอนที่ คตส.เริ่มเล่นงานลูกคุณทักษิณ คุณทักษิณกับคุณเฉลิม อยู่บำรุง มีอะไรเหมือนกันหลายอย่างตรงที่รักลูก ทีนี้เหตุการณ์ที่ คตส.เขาต้องเล่นงานคุณทักษิณ ก็เพราะว่าคุณทักษิณได้ไปสร้างเรื่องให้ลูกตัวเองต้องถูกเล่นงาน คุณจำได้หรือเปล่าล่ะ ที่เขาบอกว่าผมไม่เกี่ยวแล้วนะ ลูกผมขายหุ้น ผมไม่เกี่ยวจำได้หรือเปล่า เป็นเรื่องของลูก
ทีนี้พอเป็นเรื่องของลูก เมื่อเป็นเรื่องของลูก ไม่เชื่อนะเอาหลักฐาน คือหลักฐานพวกนี้โกหกกันไม่ได้ เอาหลักฐานพวกนี้เอามาฉายให้ดูอีกที คุ้ยกันให้ดูอีกที เขาพูดอย่างนี้จริงๆ ตอนนั้นต้องการจะปัดสวะให้พ้นตัว เพื่อทำให้ภาพตัวเองดีว่าผมไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนะ ก็เป็นเรื่องของลูก เอาล่ะ เมื่อเป็นเรื่องของลูกพอลูกทำผิดเรื่องหนีภาษี คตส.จะเรียกลูกเข้ามาสอบ อ้าวตายแล้ว ตัวเองต้องเข้าเกี่ยวแล้วสิ กลับไม่ใช่เรื่องของลูกแล้ว ตรงนี้นี่ที่ช้ำน้ำใจเข้าใจไหม และคุณหญิงพจมานเองก็อยู่ใน กทม.ก็ช้ำน้ำใจ ก็จะทำยังไงล่ะที่จะไม่ให้ลูกตัวเอง ก็รู้อยู่แล้วว่าสติปัญญาลูกมีอยู่แค่ไหน จะไปตอบอะไรได้เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง เด็กไม่รู้เรื่องจริงๆ
เพราะฉะนั้นเมื่อลูกตอบไม่ได้และเขาซักตัวต่อตัวไม่ให้ทนายเข้า หรือให้ทนายเข้านี่ก็ตาย ตายแน่นอน เพราะซักไปวกไปนิดนึง ซักพักก็ตกหลุม ก็ในที่สุดก็สรุปได้แน่ว่านี่คือนอมินี สมมุตินะครับ นี่คือที่มาว่าในช่วงก่อนที่ลูกเขาจะถูกเรียกเข้ามาซักนี่ แล้วก่อนที่กุมภาพันธ์นี้พรรคจะถูกยุบหรือไม่ เห็นไหมครับ หลายๆอย่างนี่มันบีบรัด ความเข้มงวดเข้มข้นนี่มันมามากเลย ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วนี่ก็เลยในขณะเดียวเขาก็เลยต้องส่งสัญญาณให้รู้ว่าทำไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้นี่ไม่มีปัญญาที่จะรักษาความสงบ ทีนี้สัญญาณที่ส่งมานี่มันมีนัยอยู่ 2-3 ข้อ ข้อแรกนี่ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือว่า สงครามจิตวิทยาให้เห็นว่าพวกเขานี่อยากจะทำอะไรก็ทำได้ เพราะฉะนั้นแล้วนี่ถ้า คมช.และรัฐบาลชุดนี้นี่ไม่สั่งปรับเปลี่ยนตำรวจทันที เชื่อผมว่าตำรวจก็จะถ่างขาใส่เกียร์ว่างเฉยๆ
สำราญ – กำลังพล 2 แสนจะอยู่เฉยๆ
สนธิ – คือไม่จำเป็นต้อง 2 แสน จุดต่างๆที่สำคัญเช่นอีสานใต้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งคอยตรวจว่าใครเข้าใครออก
สำราญ – ที่สำคัญๆ
สนธิ – คุณสำราญสมัยก่อนที่ผมรบกับคุณทักษิณนี่ เขาแกล้งผมขนาดไหน ผมนี่แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินจะไปเมืองจีนหรือไปไหนนี่ เขาไปสั่งเลยนะ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสั่งสายการบินว่า มีชื่อผมซื้อตั๋วปั๊บนี่ให้ขึ้นทันที
ปานเทพ – ให้รายงานทันที
สนธิ – เพราะฉะนั้นเวลาผมเดินออกนี่ เข้าที่ด่าน ตม.ที่มีคนยืนอยู่นี่ จะมีเจ้าหน้าที่สันติบาล 2-3 คนยืนค้ำหลังพนักงาน ตม.มาดูผม คนเดียวเลยนะ นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง เวลาผมกลับเวลาที่ตั๋วที่บุ๊คมาไม่ว่าสายการบินไหน มันก็ขึ้น ตม.ก็จะมีตำรวจ ตม.หรือว่ามีพวกนอกเครื่องแบบออกมาดักรอผม คล้ายๆ 1. เชิงข่มขู่ 2. ติดตามความเคลื่อนไหว เอ๊ะ สมัยนั้นถ้าตำรวจสันติบาลทำได้ ทำไมสมัยนี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองถึงไม่ระบุไปบ้างล่ะ ว่าคนอย่างเช่นคุณวราเทพ รัตนากร ที่บินไปหาคุณทักษิณที่ตงกวน หรือสายสัมพันธ์ของพรรคไทยรักไทยที่บินไปนี่ทำไมไม่รายงาน คมช.เขาตลอดล่ะ
ปานเทพ – ว่าใครไปบ้าง
สนธิ – ไปเมื่อไหร่ ไปวันไหนกลับเงียบ คนในวงในเขาบอกว่าถ้าไม่ถามเขาไม่บอก คือตัวเองรับรู้เอาไว้แต่ตัวเองไม่ทำผิดไงแต่ว่าไม่แจ้ง ว่าสมัยผมนี่แจ้งก่อนล่วงหน้านี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้วนี่งานทางการเมืองนี่ คุณสำราญ เราต้องยอมรับว่าเป็นงานที่ต้องพึ่งตำรวจ ถ้าตำรวจใส่เกียร์ว่างอย่างนี้นี่นะ คมช.รบไปอีก 10 ชาติก็รบไม่ชนะ ไม่ชนะ มัวแต่เกรงอกเกรงอะไรกัน เพราะฉะนั้นแล้วนี่ผมคิดว่าเรื่องนี้นี่ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องแก้ไขอย่างรวดเร็ว และถ้าจำเป็นจะต้องรุนแรงถึงขั้นปลดก็ต้องปลดกัน เพราะว่าวันนี้จริงๆสาเหตุปลดมีอยู่แล้วนี่
ปานเทพ – ครบแล้ว
สนธิ – ทั้งๆที่สาเหตุปลดคุณโกวิทนี่มีเยอะมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่โอ๋ สืบ 6 จำได้ไหม โอ๋ สืบ 6 นี่ก็ปลดได้แล้ว ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาที่สนับสนุนให้ท้ายลูกน้องที่กระทำผิด ให้ท้ายยังไง ให้ท้ายแทนที่จะตั้งกรรมการสอบสวน หรือแทนที่จะถึงกรรมการสอบสอนตั้งแล้วจะช่วยเหลือนี่ แทนที่จะให้อยู่ในตำแหน่งหรือว่าย้ายไปอยู่ในตำแหน่งระดับเดียวกัน กลับเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้การเสียอีก การให้ท้ายเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดภาพพจน์ที่เสียหายต่อสาธารณชน ทำให้สาธารณชนเข้าใจบทบาทตำรวจผิดไป เพราะฉะนั้นแล้วโยกย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะได้หลายๆเรื่อง อีสานใต้นี่ พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษ ถ้าเป็นผมหรือผมจะบอกคุณโกวิท วัฒนะ เลยนี่ คุณโกวิทถ้าคุณไม่ย้าย พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ภายใน 24 ชั่วโมงผมจะย้ายคุณ
ทำไมก็เพราะว่าโรงเรียนเผาแล้วเผาอีก ทำอะไรไม่ได้จับอะไรไม่ได้ใช่ไม่ใช่ พล.ต.ท.สถาพรท่านก็เป็นคนสนิทเป็นเด็กในบ้าน คนของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นนายตำรวจรุ่น 28 รุ่น พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา เข้าใจไหมรุ่นเดียวกัน เพราะฉะนั่นแล้วคุณสถาพรนี่ซึ่งจู่ๆเคยเป็นตำรวจสันติบาล ไม่ได้เป็นตำรวจฝ่ายบู๊มานั่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และคุณก็รู้ว่าอีสานใต้นี่พื้นที่ใคร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร อุบล ศรีสะเกษ พื้นที่คุณเนวิน ชิดชอบ ทั้งสิ้น คุณเนวินไม่ต้องทำอะไรหรอก อยู่ที่ กทม.อยู่เฉยๆ เขาไม่ต้องโทรศัพท์ก็ได้ เขาเอาติดต่อคุณส่งโพยไปซึ่งเราก็ไม่รู้ แต่ว่านี่ไม่ใช่วิธีใช้หลักซุนวูมาต่อสู้ อันนี้ใช้วิธีใช้หลักพระพุทธเจ้า เมตตา กรุณา มุทิตา เมื่อทำไม่ได้แล้วก็อุเบกขาช่างมัน จะวางระเบิดก็วางไป
ปานเทพ – ทีนี้คุณสนธิลองวิเคราะห์ว่าถ้าไม่ปลด ผล.ตร.ปลดคุณอชิรวิทย์นี่นะครับ มันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ มันจะเป็นกระบวนการ สถานการณ์จะพัฒนาขึ้นไปแค่ไหน
สนธิ – คือสถานการณ์มันพัฒนาสิคุณ เพราะว่าคนซึ่งดูแลความมั่นคงภายในมันไม่ใช้ทหารมันเป็นตำรวจ ใช่ไหมครับ คุณสำราญ คุณเป็นคนนครศรีธรรมราชใช่ไหม ผมคนสุโขทัย คุณเคยมีเรื่องอะไรบ้างไหม ว่าคุณอยู่จังหวัดคุณ อำเภอคุณ คุณมีความรู้สึกว่าตำรวจทำอะไรก็หลงหูหลงตาไม่ได้หรอก
สำราญ – ตำรวจรู้หมด
สนธิ – รู้หมด คนเล่นหวย คนขายหวย เจ้าของซ่องโสเภณี มือปืนรับจ้าง ผู้มีอิทธิพลรู้หมดนี่ ถ้าตำรวจรู้หมดนี่ผมถามจริงๆเถอะ ตำรวจไม่รู้เลยหรือว่าคนที่อยู่ในคลื่นใต้น้ำนี่ใครบ้าง มันต้องรู้สิ มันต้องรู้นอกเสียจากว่าตำรวจนั้นร่วมด้วย และที่ตลกอะไรรู้ไหม นี่พ่อแม่พี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ เขาเพิ่งย้ายผู้การจังหวัดบุรีรัมย์คือเขาจำเป็นต้องย้าย เพื่อให้ดูว่าย้ายแล้วนะเดือนที่แล้วเอาคนใหม่เข้าไป คนใหม่นี่ก็ตั้งใจทำงานเต็มที่เลย แต่มองไปก็คนของเนวิน ผู้กำกับโรงพักคนของอำนาจเก่าหมด ก็เลยเสนอไปที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ขอย้ายผู้กำกับซักคนเข้ามาช่วยงาน ไม่ให้
สำราญ – ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
สนธิ – ทำอะไรไม่ได้ แขนขาไม่มี ก็คือไปแค่ตำแหน่งผู้การ ผู้การจะวิ่งอะไรได้ พอผู้การมีเรื่องไฟไหม้ที่สะดึก โทรศัพท์ไปถามผู้กำกับ ผู้กำกับเป็นคนของเขานะสมมุติ และบอกไฟฟ้าลัดวงจรครับ และผู้การทำอะไรได้ล่ะ แต่ถ้าผู้กำกับเป็นคนของผู้การ เขาบอกว่าวางเพลิงครับ ไอ้คนวางนั้นเป็นหัวคะแนนเก่า ตอนนี้นั้นหนิเข้าข้ามเขมรไปแล้ว มีรู้ไหมชื่อใคร นี่เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจนี่เป็นสิ่งแรกที่ผมต้องทำ ต้องทำเด็ดขาดเลยต้องย้าย แล้วคุณสำราญ ในขณะซึ่งอัยการสูงสุดสั่งบถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผม แต่ปรากฏว่าคุณโกวิท วัฒนะ แอบสั่งลูกน้องให้รวบรวมคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายๆคดีนี่ ให้พิจารณาหาทางฟ้องให้ได้ พยายามจะเล่นงานผมให้ได้ เห็นหรือยัง คนอย่างนี้นี่ไม่สมควรจะเป็นตำรวจ
ปานเทพ – มีท่านผู้ชมถามว่าช่วยวิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุร้ายใน กทม.อีกหรือไม่
สนธิ – กทม.เป็นเมืองใหญ่ เหตุร้ายนั้นคือเหมือนฝีน่ะ ถ้าคุณไม่ขุดที่ตรงหัวฝีก็ไม่หาย เพราะฉะนั้นแล้วนี่ถ้าคุณไม่จัดการเหตุร้าย คุณไม่จัดการต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุร้าย มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุ
สำราญ – ก็เหมือนที่เราวิเคราะห์เมื่อซักครู่นะครับ
ปานเทพ – เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
สำราญ – คือพูดไปก็เสียวไปนะครับที่พูดไปนี่ ทีนี้ตำรวจอีกนิดนึงนะครับให้มันสะเด็ดน้ำ ก็คือสมมุติคำถามก็คือย้ายคุณโกวิทมาที่ทำเนียบ สมมุตินะครับเอาเบาะๆก่อน 2 คนก็แล้วแต่ ผบ.ตร.คนใหม่ รักษาการนี่ควรจะเป็นใคร ผู้อาวุโสหรือเอาเป็นรองหรือเป็นใคร
สนธิ – คือผมคิดว่าประการแรกนี่ต้องเลือกคนที่ไม่ได้อยู่ในระบอบทักษิณ จะสำคัญที่สุดต้องให้ชัดเจนตรงนี้ แล้วต้องเข้ามาเรียกเข้ามาถามเลยทันที
ปานเทพ – ถึงจุดยืนใช่ไหมครับ
สนธิ – ถึงจุดยืน แล้วต้องบอกว่าคุณแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม ที่สำคัญที่สุดคือต้องปรับกำลังพลทั่วประเทศ ต้องปรับกำลังพล เชื่อผมเถอะคุณสำราญ ตำรวจนี่อยากเป็นผู้กำกับใจแทบขาด ผู้กำกับโรงพัก ตำรวจอยากเป็นผู้การจังหวัดใจแทบขาด และตำรวจอยากเป็นผู้บัญชาการใจแทบขาด เพราะฉะนั้นแล้วนี่มีคนทั้งที่ตั้งใจที่จะสู้กับระบอบทักษิณ หรือแอบแฝงเพื่อพึ่งพาการสู้ระบอบทักษิณมาแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวนี่เยอะแยะไปหมด
สำราญ – คือต้องจัดแถวตำรวจใหม่ว่าอย่างนั้น
สนธิ – จัดแถวตำรวจ ต้องจัดใหม่ครับไม่จัดใหม่ไม่ได้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ภาค 4 ภาค 5-6 ตอนเหนือตอนล่างตอนบนนี่ค่อนข้างจะเรียบร้อยพอสมควร คุณรู้ไหมว่าทำไม
ปานเทพ – ทำไมครับ
สนธิ – พล.อ.สพรั่ง ท่านลงไปจิ้มเลย อย่างที่จังหวัดเชียงรายนี่ ท่านย้ายหมดเลยนะท่านขอให้ย้าย ผู้กำกับโรงพักทุกอำเภอไปหมดเลยนะ เปลี่ยนผู้การ
ปานเทพ – แล้วนิ่งเลยนะครับ
สนธิ – นิ่ง เชียงรายนี่นิ่งมากเลย นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เชียงใหม่นี่ได้เกือบหมดเหลืออยู่คนเดียวยังไม่ได้ รวมทั้งอำเภอด้วยรวมทั้งนายอำเภอด้วยเขาล้างทันที เพราะทำไม เพราะ พล.อ.สพรั่งนี่ท่านเป็นแม่ทัพภาค 3 ท่านรู้พื้นที่ ถ้าผู้การจังหวัดลูกน้องท่าน ค่ายกาวินละที่เชียงราย ท่านสั่งผู้การมาบอกฝ่ายไหนบ้างที่เป็นฝ่ายเอาประชาชนมาหลอกลวงประชาชน ให้เงินให้ทองประชาชนเข้ามาจัดตั้งมวลชน และที่เชียงรายนี่มีเรื่องชั่วๆอีกเยอะมากมาย ผมคิดว่าจะโผล่มา อย่างเช่นบุกรุกที่ป่าสงวนเพื่อที่จะทำสนามกอล์ฟของตัวเอง แล้วก็อุ้มฆ่าคนอย่างมหาศาล และปรากฏว่าคนที่เชียงรายวันนี้ถอนหัวใจอย่างโล่งอกเมื่อทหารเข้ามา
ปานเทพ – นี่เขาอุ้มฆ่าไม่ใช่เฉพาะภาคใต้หรือครับ
สนธิ – ทางตอนเหนือเลย พวกนักการเมืองทั้งสิ้น นักการเมืองที่มีอำนาจทั้งสิ้น นักการเมืองที่พอลงจากเครื่องปั๊บ ถึงเชียงรายปั๊บนี่มีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวเดินทางไปที่บ้านตัวเอง อย่างนั้นเลยนะ เพราะฉะนั้นแล้วผมจะเรียนให้คุณสำราญทราบว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
ปานเทพ – พูดถึงเรื่องลูกคุณทักษิณถูกเลื่อนคดีไปเดือนมกราคม และก็ดูเหมือนว่าสถานกาณ์จะเร่งรัดมาก ในเดือนธันวาคมมีเวลาอีกไม่กี่วันเองนะครับ ลูกคุณทักษิณต้องขึ้นรายงานต่อ คตส.แล้ว สถานการณ์นี้ดูเหมือนจะเป็นปัจจุบันหลักไหมครับที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้น
สนธิ – ผมคิดว่าเป็นปัจจัยหลักนะครับ และผมเองคือผมสงสารลูกคุณทักษิณ คือวันนี้นี่คุณทักษิณเขียนใบมรณบัตรให้กับตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ผมยังเชื่ออย่างนี้นะ คือผมยังเชื่อว่า คมช.นึ่เขามีพรหมวิหาร 4 มาตั้งแต่ต้น ผมเชื่อว่าหลังปีใหม่แล้วนี่เขาคงไม่มีพรหมวิหาร 4 แล้ว เข้าใจไหมครับ คือคุณสำราญ พวกเรานี่อยู่ในวงการหนังสือพิมพ์ ใครชั่วใครรับเงินใครมานี่เราจะรู้ยอมรับไหม ตำรวจก็เหมือนกัน ทหารก็เหมือนกันเขาก็รู้ วันนี้เขาต้องรู้อยู่แล้วว่ากลุ่มไหนเป็นคนทำ เขารู้และเขาก็รู้ว่ากลุ่มนี้มันโยงถึงใครๆๆต้องรู้อยู่แล้ว เมืองไทยนี่มันปิดไม่ได้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นงานเขียนอย่างนี้ งานเขียนฝีมือแบบนี้ สำนวนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่อาจารย์ปานเทพก็คุณสำราญ ไม่ใช่สำราญก็สนธิหรือคุณคำนูณ หรือค่ายโน้นค่ายนี้ทุกคนรู้ถูกไหม คนๆนี้ผูกพันกับคนๆนี้ เคยทำงานให้คนๆนี้มาก่อนรู้หมด
สำราญ – ในวงการนี้แคบลงไปแล้ว
สนธิ – แคบ ทุกๆวงการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละวงการแคบ
สำราญ – เขาจะรู้
สนธิ – คำถามก็คือว่าเขาจะเอาจริงหรือเปล่า ผมเชื่อว่าวันนี้นี่คุณทักษิณและระบอบทักษิณมาเล่นแรง ที่น่ากลัวคือมาเล่นแรงกับประชาชน คืองานชุดนี้นี่ต้องการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้ และต้องการทำลายความเชื่อมั่นที่ต่างชาติมีต่อประเทศไทย คือ ม.ร.ว.ปรีดียาธร นี่คนเดียวทำลายความเชื่อมั่นยังไม่พอ ยังเอาเหตุการณ์แบบนี้มาทำลายความเชื่อมั่นอีก
ปานเทพ – พูดถึงทหาร คุณสนธิบอกว่าทหารมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยนี่ เท่ากับว่าตอนนี้กลุ่มที่อยู่ข้างระบอบทักษิณนี่ต้องรวมตัวกันได้แล้วในฝั่งทหารใช่ไหมครับ
สนธิ – คือทุกอย่างนี่มันรวมตัวได้ด้วยเงิน เงินเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่สุดเลย จู่ๆทหารจะมาทำนี่เพียงเพราะว่าตัวเองนี่ไปเชื่อมั่นใน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นี่เขาไม่ทำหรอก แต่ว่ามันต้องมีเม็ดเงินเป็นจำนวน 8 หลักหรือ 9 หลักนะเผลอๆ เป็นหลาย 10 ล้านหรือ 100 ล้านที่จะเอามาให้ คงจะต้องมีหัวคนนึงรับเรื่องและก็จ่ายเงินออกไป คุณปานเทพ คุณสำราญ ขนาดพวกเรายังจิ๊บจ๊อบนี่นะ เป็นแค่หนังสือพิมพ์อาวุโสนี่นะ ดีๆชั่วๆเราก็มีลูกน้องสายๆเราอยู่บ้าง 2-3 คน ที่เราฝึกมาเข้าใจหรือเปล่า และนับประสาอะไรกับสายทหารซึ่งเขาเป็นสายบังคับบัญชา ซึ่งเขาเลื่อนจากร้อยตรีไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาถึงพันตรี ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับกองพลไปเรื่อยๆ เขาจะไม่มีลูกน้องเขามา แล้วพวกนี้เขาพึ่งพาอะไร เขาถึงบอกว่าทหารหรือตำรวจถ้าหัวหลุดไปนี่สายทั้งสายก็แทบจะหลุดไปเหมือนักน ถูกไหมล่ะ
ปานเทพ – แสดงว่าหัวยังเหลืออยู่
สนธิ – ก็หรือว่าหัวหลุดไปแล้ว แต่ว่าหัวนี่ยังมีลูกน้องในสาย แล้วหัวก็รับเงินมาและก็มาแจกให้กับลูกน้อง มากระจายต่อตามสาย
สำราญ – คือหัวไปตั้งหลักใหม่ ไปตั้งหลักอยู่ข้างนอกว่าอย่างนั้นเถอะ
ปานเทพ – อาจจะอยู่ข้างนอกก็ได้
สนธิ – ก็ขนาดว่าพี่จิ๋วของผมวันดีคืนดีก็เกิดเพี้ยนขึ้นมา นึกออกไหมครับ เพราะฉะนั้นนับประสาอะไรล่ะครับกับคนประเภทนี้
สำราญ – งานคิดว่าพี่จิ๋วรู้ไหมครับ
สนธิ – คือจะว่าท่านรู้ก็คงจะไม่น่าเชื่อ
สำราญ – คือระดับแบบนี้ต้องรู้
สนธิ – ครับ จะว่าไม่รู้ก็คงไม่น่าเชื่อ
สำราญ – คือรู้นี่คือรู้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้
สนธิ – ครับ แต่ว่าถ้าจะถามว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นี่ผมไม่กล้าพูด อันนี้พูดไม่ได้นะครับ แต่ว่าน่าจะรู้ ไม่รู้ได้ยังไงล่ะครับ เป็นขงเบ้งผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร เครือข่ายมีอยู่ครับ และก็ท่านจริงๆแล้วนี่บางครั้งท่านพูดจาไปแล้วนี่ในคำพูดนี่มันมัดตัวท่าน เพราะท่านชอบพูดเลยว่ามีนาคมนี้จะวุ่น ท่านก็พูดเอง
สำราญ – มีมานี้จะวุ่น
สนธิ – จะวุ่นหมด วุ่นวายหมด
สำราญ – ดังนั้นเพื่อให้ตัวเองทำนายถูก ก็ต้องทำให้มันวุ่น
สนธิ – และตัวท่านเองท่านเป็นคนพูดมาตลอดกับคนใกล้ชิดและคนที่รู้จักเข้าไปหา ท่านจะพูดเลยว่ารัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้หรอก ท่านพูดอย่างนี้ตลอดเวลา อยู่ไม่ได้
ปานเทพ – คุณสนธิมองว่าอยู่ได้
สนธิ – ผมมองว่ารัฐบาลชุดนี้จะลากกันได้หรือไม่ได้นี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะว่าถ้าอยู่ไม่ได้เขาก็ตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ผมเชื่อว่าระบอบทักษิณกลับมายาก ยิ่งเล่นวิธีการรุนแรงเล่นกีฬาแบบนี้ เล่นเกเรแบบนี้กับประชาชนนี่นะ คุณสำราญ คมช.เขาเข้ามาตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน จนวันนี้นี่ผมยังไม่ได้ยินเสียงระเบิดซักตูมเลย ไม่ได้ยินเสียงกระสุนยิงออกจากปืนซักนัดเลย ยังไม่มีคนตายซักคน และไม่เคยจับใครเข้าคุกด้วยเข้าใจหรือยัง ใจดีมาก นี่ขนาดเขามีอำนาจอยู่ในมือเต็มๆ พวกที่อยู่ข้างนอกประเทศนี่ยังไม่ทันไรเลยมาก่อวางระเบิดตั้งไม่รู้กี่จุด
ปานเทพ – คุณสนธิวิเคราะห์ว่าโยกย้ายข้าราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ อีกส่วนนึงก็คือน้ำเลี้ยงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญนี่ต้องเดินหน้ายังไงครับ
สนธิ – น้ำเลี้ยงนี่มันชัด ผมคิดว่าในขณะนี้นี่ที่ผมอยากเห็นมากๆ ผมอยากเห็นการเร่งดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการยุบพรรค เรื่องการยุบพรรคผมอยากให้ชัดไปเลยนะครับ
สำราญ – มันจะได้จบฉาก
สนธิ –จบไปเลย เราจะได้รู้ว่าเป็นหมู่หรือเป็นจ่าให้มันแน่นอน อันนี้เรื่องที่ 1 นะครับ เรื่องที่ 2 นี่ผมไม่อยากให้มีการยืดเยื้อหรือยึกยื้อยึกยันเหมือนกับกรณีที่ คตส.ฟันธวไปเรื่องเกี่ยวกับกรณีซื้อที่ดินของคุณหญิงอ้อ แล้ว ม.ร.ว.ปรีดียาธร ท่านก็บอกว่าท่านยังไม่ได้รับหนังสือ คตส.มา เพราะว่ากระทรวงการคลังต้องเป็นเจ้าภาพในการแจ้งความกล่าวโทษ ทั้งๆที่คนใน คตส.เขาบอกว่าส่งไปให้ตั้งนานแล้ว ท่านก็ยังบอกท่านยังไม่ได้รับ ผมไม่อยากเห็นตรงนี้ ทีนี้กระบวนการมันเป็นอย่างนี้ ถ้าเขาไปกล่าวโทษให้ คตส.คดีนี้ก็มีมูล เมื่อมีมูล คตส.ก็ส่งเรื่องเข้า ป.ป.ช. ป.ป.ช.ก็ไม่ต้องรอตั้งองค์คณะพิจารณาทันที พิจารณาเลย พิจารณาเปิดเผยก็ยังได้เลยไม่เป็นไรนี่ ถ่ายทอดโทรทัศน์เลยเปิดเผยว่ามีมูลไหม ถ้ามีมูลชี้มูลปังว่ามีมูลปั๊บนี่ ปปง.ต้องเข้าทันที เมื่อ ปปง.เข้าแล้วอำนาจ ปปง.ก็เหมือนกับอำนาจ ปปง.ที่คุณทักษิณเคยใช้กับคนอื่นเขา เข้าไปอายัดทรัพย์ ตรวจสอบทรัพย์สินคุณทักษิณ ถ้ามีคุณพจมานๆก็ต้องโดนด้วย พาดพิงถึงใครคนนั้นก็ต้องโดนด้วย
ปานเทพ – น้ำเลี้ยงก็จะหยุด
สนธิ – ผมคิดว่าน้ำเลี้ยงหยุดไม่หยุดไม่รู้ แต่ว่าสะอึกมี สะดุดมีแน่นอน หรือว่าแม้กระทั่งคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธ์นี่ ทรัพย์สินท่านเยอะเหลือเกิน อย่างที่บนสมุยนี่ท่านบอกว่าไม่ได้ชื่อท่านนี่ แต่ว่าชาวบ้านก็บอกว่านี่ของท่านๆ สามีท่านซึ่งไม่ได้จดทะเบียนก็มีทรัพย์สินเยอะมาก บ้านท่านบนสมุยนี่อย่างกับปราสาทราชวัง คำถามก็คือท่านทำธุรกิจอะไรนี่ทำไมท่านถึงร่ำรวยนักหนาจากการเป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้นแล้วนี่ผมเข้าใจว่าคงต้องเชิญคุณสุดารัตน์มาคุยกันซักนิดนึง ว่าคุณสุดารัตน์จริงๆแล้วเรื่องราวต่างๆนี่ ที่มันเกิดขึ้นมีคนเขาว่าคุณสุดารัตน์เอาเงินเอาทองมาจ่ายจริงหรือไม่จริง
สำราญ – ก็เป็นข่าวลืออยู่เหมือนกัน
สนธิ – เป็นข่าวลือก็ต้องถาม ต้องถามชัดไง ต้องถามคุณสุดารัตน์ตรงไปตรงมา คุณสุดารัตน์ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ และก็มีความสุขกับการใช้เงินใช้ทอง เพราะว่าหลักฐานเอาไม่ถึงคุณสุดารัตน์ คุณสุดารัตน์ก็น่าจะหยุดนะ เข้ามาร่วมชาติเพื่อกู้ชาติได้ไหม ช่วยชาติให้มันดีขึ้น ตัดการเมืองไปเลย คุณสุดารัตน์อย่าไปยุ่งกับมันเลย ใช่ไหม มายุ่งอะไรกับเรื่องพวกนี้ คุณทำอะไรนี่ เดี๋ยวคนเขาจะเข้าใจผิดว่าคุณนี่ทุกเดือนยังจ่ายเงินเดือนให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยอยู่ เข้าใจไหมซึ่งมันไม่ดี
สำราญ – จากชลบุรีบอกว่าอยากให้คุณสนธิมาวิเคราะห์บ่อยๆ ในรายการสภาท่าหรือรายการใดๆก็ได้นะครับ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกนะครับ
สนธิ – ถ้ามาวิเคราะห์บ่อย เมืองไทยรายสัปดาห์ก็ไม่ต้องออกสิครับ
สำราญ – จากลพบุรีบอกว่าควรปรับ ครม.รับสถานการณ์หรือไม่ ควรไหมครับ คุณสนธิ
สนธิ – ต้องปรับครับ คือผมมองอย่างนี้ ผมมองว่า ครม.ชุดนี้นี่ วัตถุประสงค์ของการตั้งขึ้นมานี่ถูกต้อง แต่ว่าวิธีการที่ไปทำงานนี่ผิดหมด คือทุกคนเข้ามานี่ทุกคนไม่ได้มองเหตุผลที่ตัวเองเข้ามา
ปานเทพ – ไม่ได้มองเป้าหมายว่าต้องการอะไร
สนธิ – ไม่ได้มองว่าต้องการอะไร และที่สำคัญคือไม่ได้มองว่าเข้ามาได้เพราะอะไร เข้าใจหรือยัง ครม.ชุดนี้เป็น ครม.ชั่วคราว อยู่ได้ไม่เกินปีนึงหรือมากสุดผมให้ 1 ปี 6 เดือนเลย เข้ามานี่เพื่อที่จะดำเนินการให้งานของบ้านเมืองนั้น เป็นไปต่อไปอย่างไม่สะดุด คำว่าเป็นไปต่อไปอย่างไม่สะดุดนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปเที่ยวสร้างโครงการใหม่ๆ และในขณะเดียวกันข้อที่ 2 นี่ในฐานะเจ้ากระทรวงนี่ เข้ามาเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะว่าเรื่องราวต่างๆนี่ที่จะไปถึง คตส.หรือ ป.ป.ช.นั้น ถ้ากระทรวงไม่เป็นเจ้าภาพนี่ ให้ คตส.เข้าไปคุ้ยด้วยตัวเองนี่มันลำบาก อย่างกรณีของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เจ้ากระทรวงก็ต้องถามตัวเองหรือเอาข้อมูลมาว่า ในสมัยที่รัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐมนตรีอยู่นั้น มีโครงการอะไรบ้างที่มีข้อสงสัย เรียกเรื่องมาดู และตั้งคณะกรรมการจากภายนอกมาพิจารณาเป็นชุดๆไป
เมื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้วว่าโครงการอันนี้นี่ประมูลไม่ถูกต้อง มีการฮั้วกันเอื้อเฟื้อกัน ช่วยเหลือกัน มีการเพิ่มวงเงินอย่างมหาศาล ก็สามารถที่จะเรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ที่มีชื่อเซ็นชื่อในโครงกานนั้นทุกคนมาเลย และตั้งคณะกรรมการสอบทีละคน ถ้ามีมูลก็ส่งมูลทั้งหมดให้ คตส.เขาดำเนินเรื่องราวต่อไป หน้าที่ ครม.ชุดนี้มีอยู่เพียงแค่นี้ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ขยันที่จะทำรถไฟฟ้า เข้าใจไหม ไม่ใช่มีหน้าที่ที่จะเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เข้าใจหรือยัง ไม่ใช่หน้าที่นี้ และไม่ใช่มีหน้าที่ที่จะไปดำเนินการที่เป็นเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการในฝันที่ตัวเอง
เหมือนอย่างที่ท่านรัฐมนตรีสิทธิชัย โภคัยอุดม นี่ท่านเพอร์เฟกมาก ท่านเข้ามาท่านมารื้อสัมปทานเก่าๆและท่านดูว่าผิดตรงไป ท่านชี้ให้เห็น และท่านก็ประกาศต่อชาวประชาชน ท่านบอกว่านี่ใช้ไม่ได้นี่ใช้ไม่ได้ ทุนโทรคมนาคมนี่โกงแผ่นดิน เหมือนกับท่านลุกขึ้นมาตอบคำถามคุณคำนูณ สิทธิสมานในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ท่านตอบมาผมยังตกใจเลย ท่านบอกว่าเครือข่ายเอไอเอสที่ยังไม่ไดโอนทรัพย์สินให้กับหลวงนี่ มีมูลค่าถึง 50000 กว่าล้าน ผมก็ยังงงว่าไอ้ 50000 กว่าล้านที่คุณจะต้องโอนมานี่ ทรัพย์สินตรงนี้นี่ ถ้าพูดถึงกรณีมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นี่นะ รัฐมนตรีไอซีที นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ท่านต้องโดนแล้วนะ ทำไมคุณถึงไม่ให้เขาโอนมา ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า เพราะว่าหัวหน้าพรรคเป็นพ่อของลูกที่ถือหุ้นชินคอร์ปอยู่ นี่เห็นไหมมันต้องลักษณะแบบนี้
ตรงนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณที่ต้องสู้กลับ ผมกลับมองอย่างนี้ ผมกลับมองว่ารัฐบาลนี่โดยเฉพาะทหารนี่ คมช.นี่ ผมอยากให้ คมช.พิจารณาอารักขาให้ความปลอดภัยกับคนอย่างเช่นรัฐมนตรีสิทธิชัย กับพวก คตส.กับพวก ป.ป.ช. ให้ความมั่นคงเขา นี่คุณจะเห็นได้ชัดว่านี่คือภารกิจของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ แต่ว่า ครม.ชุดนี้ต้องเห็นใจท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านไม่ได้เป็นคนตั้ง คนอื่นตั้งเข้ามาเยอะ ท่านก็เลยอยู่ในสภาวะทีค่อึดอัดใจ ผมว่าต้องปรับ ครม. ครม.ตั้งแต่นี้ต่อไปต้องเป็น ครม.เชิงรุกไม่ใช่ ครม.เชิงรับ และคนที่มีอะไรเกี่ยวพันกับระบบเก่า ถึงจะเกี่ยวพันกับระบบเก่าผมไม่ว่า แต่ในระหว่างที่เข้ามานี่ช่วยแสดงอาการสนับสนุนช่วยเหลือระบอบเก่านี่ต้องเอาออกเสีย
สำราญ – มีคำถามมา อยากให้คุณสนธิต่อสายตรงคุยกับท่านนายกฯไปเลย
สนธิ – เรื่องผมคุยสายตรงนี่ไม่ใช่หน้าที่ผม เดี๋ยวท่านายกฯท่านก็หาว่าผมจะไปสอนหนังสือสังฆราช ผมคิดว่าท่านนายกฯสุรยุทธ์คนนี้ท่านเป็นคนซื่อสัตย์ 100% สุจริต และท่านตั้งใจทำงาน เป็นอ่อนนอกแข็งใน ท่านจะทำยังไงที่จะรุกมากกว่าจะรับ ผมเชื่อว่าท่านมีท่านเป็นทหาร ผมเชื่อว่าบทท่านรุกท่านรุกจริงนะ อย่าไปประมาทนะ พล.อ.สุรยุทธ์ คุณอย่าไปประมาทว่าเป็นสุภาพบุรุษมากๆและไปมองว่าท่านบ่มิไก๊ จริงๆลักษณะท่านก็คือว่าถ้าไม่ประดาบก็แล้วไปนะ คือจะหลีกเลี่ยงการประดาบ แต่พอประดาบก็เลือดเดือด
สำราญ – คือคล้ายๆว่าผมให้โอกาสคุณแล้วนะ
สนธิ – ใช่ ผมเชื่อว่าพวกนี้ไปประมาท พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผมคนนึงล่ะผมไม่กล้าประมาทท่านหรอก
สำราญ – คือท่านอาจจะนับนานไปบ้างในบางเรื่อง นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
สนธิ – ครับ ก็เพราะว่าท่านไปบวชเรียนมาแล้วไง ท่านไปบวชกับท่านอาจารย์ทุยที่หนองคาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว สายพระป่า ท่านก็เลยอาจจะพุทโธๆท่านเมตตามากขึ้น แต่บทถ้าท่านจะอำมหิตผมเชื่อว่าองคุลีมานเรียกท่านว่าพี่นะ ผมเชื่อนะ
ปานเทพ – เรื่องไฟใต้กับ กทม.เที่ยวนี้นี่ คุณสนธิวิเคราะห์ว่าเชื่อมโยงกันไหมครับ
สนธิ – ไม่เชื่อมเลย ไม่เชื่อมเด็ดขาดงานนี้
ปานเทพ – ถ้ามีคนวิเคราะห์ต่อว่าเป็นการเมืองที่อยู่ทั้งใต้และ กทม.ด้วยไหม
สนธิ – ไม่ใช่
สำราญ – คนนครสวรรค์นี่มีอารมณ์ขันนะครับ อาจารย์ปานเทพ บอกว่าคุณโกวิท คุณอชิรวิทย์ ควรออกไปได้แล้ว ทำไมไฟไม่ไปลัดวงจรที่บ้าน 2 คนนี้บ้าง จากสุไหงโกลกบอกว่าได้เจอ พล.ต.อ.โกวิท ที่สุไหงปาตี เมื่อบ่ายวานนี้ จริงหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ
สนธิ – คือปัญหาอยู่อย่างนี้ ถ้าคุณโกวิทอยู่ในเมืองไทย คุณโกวิทก็ใช้ไม่ได้ถูกไหม เพราะว่าเรื่องราวต่างๆในฐานะผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบสูงสุดนี่ไม่ออกมาแสดงจุดยืน
ปานเทพ – ต้องปรากฏตัว
สนธิ – หรือออกมาชี้ นี่ไม่ใช่เรื่องของการขว้างระเบิดใส่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุม นี่เป็นการวางระเบิดทั่ว กทม.และมีคนตายและบาดเจ็บนับสิบ ถ้าท่านไม่ได้อยู่ใน กทม.ท่านไปต่างประเทศก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าท่านเป็นคนออกคำสั่งให้ตำรวจทุกคนห้ามลาและท่านก็ดันลาเอง เพราะฉะนั้นท่านจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศนี่ใช้ไม่ได้
ปานเทพ – มีคำถามว่าถ้ายุบพรรคไทยรักไทยนี่คลื่นใต้น้ำหยุดไหมครับ
สนธิ – ผมคิดว่าส่วนหนึ่งนี่ต้องวิ่งเกาะที่ใหม่ อาจจะวิ่งเกาะคุณบรรหาร หรือว่าพรรคการเมืองใหม่อย่างพรรคคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือพรรคคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ก็ต้องเกิดขึ้น พวกนี้ก็วิ่งไปเกาะแล้ว พอพวกนี้มีที่ไปเกาะแล้วนี่ สายการเมืองก็จะนิ่ง ทีนี้ก็เป็นการเจรจาต่อรองกันแล้วว่าใครจะเข้าใคร ใครจะรวมตัวกับใคร สายการเมืองนิ่ง พอสายการเมืองนิ่งก็เหลือตัวป่วนอยู่ไม่กี่คนที่ตาดูได้เป็นตัวๆไป อย่างเช่นตัวป่วนที่อยู่ใกล้ชิดคุณทักษิณ มีหมอคนไหนบ้าง มียี้คนไหนบ้างก็ว่ากันไป ตรงนั้นจะคุมสถานการณ์ได้
สำราญ – จะมีวิธีนำตัวทักษิณมาลงโทษเหมือนอย่างซัดดัมได้หรือไม่
สนธิ – มันคนละแบบกันครับ เพราะว่าซัดดัมนี่โทษฐานความผิดเขาคือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คุณทักษิณนี่ยังไม่ถึงขั้นขนาดนั้น คนทักษิณยังไม่พอ วันนี้คุณทักษิณนี่เป็นห่วงอยู่เรื่องเดียวว่าจะรักษาสมบัติตัวเองยังไง เรื่องกลับมาใหญ่ทางการเมืองนี่จบแล้ว เขากลับไม่ได้แล้ว ถึงกลับมาก็ไม่มีทางที่จะตั้งพรรคและก็มีคนเข้ามาสนับสนุน ไม่เหมือนเดิมแล้ว
สำราญ – เรื่องซัดดัมนี่มันจะส่งผลต่อสถานการณ์โลกไหม
สนธิ – สถานการณ์โลกคงไม่มี แต่สถานการณ์ในอิรักนี่คงมีอย่างแน่นอนที่สุดครับ เพราะว่าคนที่ช่วยและก็ยังชอบคุณซัดดัมอยู่ยังมีอยู่เยอะ เป็นของธรรมดานะครับ
สำราญ – คงไม่ถึงกับมีกระบวนการล้างแค้นกันทั่วโลก
สนธิ – คงไม่ๆ เพราะว่าคุณซัดดัมไม่ได้เป็นตัวแทนการต่อสู้ของผู้ก่อการร้าย แต่มันจะเป็นการปะทะกันระหว่างสุหนี่กับชีอะห์
สำราญ – เป็นสงครามจำกัดเขต เอาล่ะครับ มาถึงช่วงท้ายเหลืออีก 2 นาทีนะครับ
สนธิ – วันนี้ที่มาก็เพราะวันปีใหม่ด้วย ก็เลยถือโอกาสมาเปิดรายการและก็ให้ทางท่านผู้ชมได้รับพรจากพวกเรา ว่าปีใหม่นี้ก็สงบสติอารมณ์อย่าไปตื่นตระหนกตกใจ ผมยังมีความมั่นใจ 100% ว่า คมช.รักษาการได้ คลื่นใต้น้ำมันคือคลื่นครับ เพียงแต่ว่าหาคนซึ่งไปสร้างคลื่นที่อยู่ใต้น้ำ หาให้ได้ เมื่อหาได้แล้วจัดการเขาเสียมันก็จบ คลื่นก็ไม่มีแล้วไม่ต้องไปพะวงกับอะไรทั้งสิ้นครับ เป็นธรรมชาติของผู้ที่สูญเสียอำนาจไป ก็พยายามที่จะดึงอำนาจนั้นกลับคืนมา แต่ทั้งหมดทั้งคนที่รับเงินรับทองหรือรับภารกิจมาที่จะสร้างคลื่นใต้น้ำนี่ ทั้งหมดที่ทำมานี่ทำเพื่อเงินอย่างเดียว
และผมก็เห็นใจคุณทักษิณ เพราะว่าคุณทักษิณเองเป็นคนสร้างเรื่องที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องลูกตัวเองที่จะต้องถูกสอบ และตัวเองเจ็บช้ำน้ำใจนี่ มองย้อนหลังกลับไปก็ตัวเองเป็นคนทำเองแหละ เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมครับ ปีใหม่ฟ้าใหม่นี่อย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหน เหมือนกับพระพุทธเจ้าพูดกรรมใดใครก่อใช่ไหมครับ กรรมที่คุณทักษิณสร้างเอาไว้เป็นคนก่อให้ลูก ลูกก็ต้องรับไป พวกเราตื่นมาเช้าวันที่ 1 ด้วยแสงแดดที่สดใส คิดดีทำดีใช่ไหม จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ และก็นำชาติบ้านเมืองไปสู่ความโปร่งใส
สำราญ – เอาล่ะครับ วันนี้ก็เวลาหมดนะครับ อาจารย์ปานเทพ ผมสำราญ ขอบพระคุณคุณสนธิที่มาร่วมรายการครับ ประเดิมให้เศีลให้พรและก็เป็นมงคลกับรายการของเรานะครับ ขอบพระคุณมากครับ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล
รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 1 มกราคม 2550 ดำเนินรายการโดยสำราญ รอดเพชร และปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
สำราญ – ครับ มาช่วงที่ 3 นะครับ สภาท่าพระอาทิตย์วันจันทร์ปีใหม่ครับ วันที่ 1 มกราคม 2550 นะครับ อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าตอนนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็จะมาร่วมสนทนารายการกับเราด้วยครับ คุณสนธิมาแล้วครับ สวัสดีครับ
สนธิ – สวัสดีครับ คุณสำราญ คุณปานเทพ ครับ
สำราญ – ทำไมต้องมาพูดครับ เมื่อคืนก็ยาวเหมือนกันนะครับ
สนธิ – ความจริงเมื่อคืนนี้เดิมทีผมจะไปปฏิบัติธรรมไง แล้วก็พอตกเย็นพอรู้ข่าวก็เลยกลับมา เพราะว่าโดยวิชาชีพแล้วมันต้องอยู่ใช่ไหม แล้วผมก็มีความรู้สึกจากประสบการณ์ในการที่ทำงานทางด้านสื่อมวลชนมานาน เห็นการสร้างและทับถมของลักษณะข่าว ที่มันจะก่อไปสู่เหตุการณ์นี่มันเกิดขึ้นมาได้ประมาณเดือนกว่าๆแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าใช่แล้วว่าต้องมีเรื่องราว มันใช่แค่ระเบิดแค่ทีเดียวเท่านั้นเอง มันคงจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ ผมก็เลยตัดสินใจยกเลิกการปฏิบัติธรรมมา และก็เข้ามาในที่ทำงาน และก็หลังจากดูเหตุการณ์ซักพักนึงแล้วนี่ ผมก็คิดว่าผมก็เลยวิเคราะห์ก็ค่อนข้างที่จะฟันธงไปพอสมควร ซึ่งผมก็มั่นใจว่าผมไม่ผิดหรอกครับ ว่าจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องราวของกระบวนการที่จะป่วนรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งการป่วนรัฐบาลชุดนี้นี่มันพิสูจน์ชัดว่ามันต้องเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน
ที่คุณศิธา ทิวารี พูดบอกว่าอย่าโยนมาให้กับการเมือง มันไม่มีการเมืองแล้วมันเป็นเรื่องอะไร มันเป็นเรื่องของคนบ้าหรือไงที่จัดการเอาระเบิดมาวาง และก็จากการซึ่งตรวจสอบภายในของผมนี่ ก็พบว่าจริงๆแล้ววางระเบิดไว้ 30 ครับ และก็มีหน่วยงานของทหารบางหน่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นทหารด้วย เพราะว่างานการวางระเบิดนี่ พวกเป๋ คลองเตย ทำไม่ได้หรอก หรือว่าพวกกุ๊ยที่คุมสนามม้าก็ทำไม่ได้ ป่าไม้ก็ทำไม่ได้ ต้องเป็นหทารแน่นอนงานนี้นะครับ ทีนี้ถ้าเป็นทหารแน่นอนก็ฟันธงไปได้เลยว่า เป็นทหารฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะว่าคนเรานั้นกว่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นนายพล พลตรี พลโท หรือพลเอกนี่ มันต้องมีลูกน้องเยอะ บางครั้งตัวเองกำลังจะขึ้นเป็นแม่ทัพ หรือตัวเองเป็นแม่ทัพอยู่แล้วถูกโยกย้ายไปเพราะว่าเป็นพวกทักษิณนี่ ความเจ็บแค้นเจ็บช้ำน้ำใจมันก็ต้องมีอยู่ มันก็เลยต้องเกิดขึ้น
สำราญ – นิดเดียวครับ คุณสนธิ แทรกเรื่องระเบิดนิดนึงนะครับ ตอนเช้า พล.อ.อนุพงษ์ ก็พูดผ่านช่อง 5 นะ บอกว่าระเบิดนี้คนทำระเบิดนี่นะ จะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน คือผลิตมาจากแหล่งเดียวเท่านั้นเอง
สนธิ – ถูกต้องครับ และที่น่าสังเกตอย่างนึงว่า เมื่อคืนนี้ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช พูดจาไม่ค่อยเหมาะสมกับการเป็นโฆษกตำรวจนะครับ คือพยายามโยงให้เห็นว่าเป็นเรื่องปัญหาของทางใต้ ไม่ใช่แน่นอนนะครับ
ปานเทพ – ทำไมถึงตัดทางเลือกนี้ทิ้งไปครับ
สนธิ – ที่ผมต้องตัดทางนี้ทิ้งไปก็เพราะว่าลักษณะการโยงเพื่อที่จะให้ตัดเรื่องเกี่ยวกับการเมือง เข้าใจไหมครับ ก็คือเสมือนกับว่าคุณอชิรวิทย์นี่ คือผมสังเกตคุณอชิรวิทย์มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอำนาจอยู่นี่ พยายามพูดจาช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณนะครับ ปกป้อง เอาว่าปกป้องดีกว่า พอ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปนี่คุณอชิรวิทย์ก็พูดจาช่วยเหลือหลายๆเรื่อง ที่น่าเกลียดมากๆก็คือเมื่อคืนนี้นี่คุณอชิรวิทย์นี่ได้ล้ำเส้นของการเป็นตำรวจไป คือคุณสำราญครับเมื่อคืนนี้ผมพูดชัด ผมบอกว่าคุณอชิรวิทย์นี่มีหน้าที่ออกมาแถลงข่าวเฉยๆ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนี่ประชาชนให้มั่นใจในความปลอดภัย ตำรวจจะดูแลให้เป็นอย่างดี และตำรวจให้ความมั่นใจว่าตำรวจนี่จะหาผู้ซึ่งกระทำผิดมาให้ได้ แต่คุณอชิรวิทย์กลับไม่ได้พูดอย่างนี้ กลับไปเสนอวิสัยทัศน์ทางการเมือง และก็ไปดูในเรื่องของไออาร์เอซึ่งเป็นเรื่องตลกมาก คนซึ่งเขารู้เรื่องไออาร์เอของประเทศไอร์แลนด์เหนือเขาก็หัวเราะ คือผมเรียนมาทางประวัติศาสตร์ ผมก็รู้ว่าความรู้ของคุณอชิรวิทย์ติ้นเขินมากที่พูดเรื่องนี้ แต่คุณอชิรวิทย์พยายามโยงให้เห็น วิธีโยงง่ายๆโยงให้เห็นว่าที่ไอร์แลนด์เขาก็มีการระเบิดอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็คุยกันรู้เรื่อง
ปานเทพ – เหมือนกับตำรวจอยู่เฉยๆ ให้ประชาชนรับสภาพ
สนธิ – ครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วที่น่าเกลียดมากๆ และมาพูดออกมาบอกว่านี่ถ้าไม่มีสมานฉันท์เรื่องก็ไม่สงบ เอ๊ะ คุณอชิรวิทย์ คุณเป็นใครนี่ คุณมาบอกให้มีสมานฉันท์ เข้าใจไหม คุณสำราญ
สำราญ – แสดงว่าให้เลือกกันไปเลย
สนธิ – ให้เลือกกันไปเลย ผมถึงบอกเมื่อคืนผมบอกว่า คุณอชิรวิทย์ ถ้าจะเล่นการเมืองยืนอยู่ข้างคุณทักษิณนี่ถอดเครื่องแบบลงมา เพราะว่าการกระทำอะไรหลายอย่างนี่ประชาชนเห็น เห็นหมดว่าเนื้อแท้คุณอชิรวิทย์ที่แท้จริงเป็นยังไง ผมเสียดายคนๆนี้ เป็นคนที่มีความรู้พอสมควร มีความสามารถ ผมคิดว่าถ้าเขายืนอยู่ข้างความถูกต้อง เขาจะเป็นตำรวจที่ดีมาก เมื่อคืนคุณสังเกตอะไรไหมตั้งแต่มีเรื่องมา ผมยังไม่เห็นหน้า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
สำราญ – ผมกำลังจะพูดถึงพอดี
สนธิ – ไม่มีออกมาแถลงข่าวเลย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด
สำราญ – ไปต่างประเทศหรือเปล่า คุณสนธิ
สนธิ – จะไปหรือไม่ไปก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องโทรศัพท์กลับมา หรือจะต้องให้นายเวรของตัวเองโทรศัพท์กลับมา คือหายไปไหนนี่ผมไม่เข้าใจ ก็คือว่าคือยิ่งถ้าไปต่างประเทศนี่ยิ่งน่าเกลียด เพราะว่าอย่าง พล.อ.สนธิ นี่ไปเป็นพิธีทางศาสนา พิธีฮัจจ์
สำราญ – แต่ท่านก็โทรข้าวทวีปมานะ
ปานเทพ – ท่านก็ยังโทร
สนธิ – ผมว่าประเด็นอยู่ตรงนี้ พล.อ.สนธิ ไปซาอุดิอาระเบียเพราะว่าภารกิจทางศาสนาบังคับให้ต้องไป ตัวเองต้องไปทำพิธีฮัจจ์ แต่ พล.ต.อ.โกวิท ตัวเองเป็นคนออกคำสั่งว่าวันสิ้นปีกับวันปีใหม่นั้นตำรวจห้ามลา ตำรวจต้องทำงานทุกคน แต่ตัวเองถ้ายิ่งไม่อยู่ยิ่งไปอยู่ต่างประเทศนะครับยิ่งน่าเกลียดมาก จะถามว่าจะไปดูงานอะไรที่ต่างประเทศ ผมถึงบอกว่าคุณโกวิทกับคุณอชิรวิทย์นั้น เป็น 2 นายตำรวจที่สมควรจะต้องถูกย้ายประจำสำนักนายกฯทันที และควรจะย้ายวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน ไม่ควรจะต้องรอ เพราะว่าการยึดอำนาจนี่ข้อบกพร่องก็คือว่า การยึดอำนาจคือชื่อมันบอกอยู่แล้วนี่ยึดอำนาจมา
เมื่อยึดมาแล้วนี่ก็ต้องยึดมาจากคนใดคนหนึ่งเขาถืออำนาจอยู่ใช่ไหม ทีนี้กลุ่มนั้นมันก็แน่ชัดว่าเป็นกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีนี้ภายใต้กลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะมีนายพลของเขา นายพลทหารบก นายพลทหารเรือ นายพลตำรวจ เมื่อดึงออกมาแล้วนี่ก็มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้บัญชาการกองพลที่ 1 พล.ต.พฤณฑ์ หรือว่านายทหารอีกหลายนายซึ่งถูกโยกย้ายไป คุณสำราญสังเกตอย่างว่าความคิดของ พล.อ.สนธิ นี่เป็นความคิดที่ดี ท่านบอกว่าต้องสมานฉันท์ใช่ไหมครับ ทีนี้คำว่าสมานฉันท์นี่ท่านตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ท่านเชื่อว่าเรื่องราวไม่มีแล้ว ท่านเชื่อในอำนาจที่ท่านมี แต่ท่านไปประมาทอำนาจของฝ่ายตรงกันข้ามที่ยังมี
สำราญ – คือท่านมองคนในแง่ดีด้วย
สนธิ – ท่านมองคนในแง่ดี ท่านเป็นคนซึ่งมีจิตใจดี แต่อีกฝ่ายนึงนี่ไม่ยอม เราอยู่ในวงการข่าวมานานแล้วคุณสำราญ อยู่มาตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่น เราก็รู้ว่ากระบวนการนี้เริ่มเข้มข้นมาทีละนิดๆเป็นลำดับ ตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่สมัยที่พอเขาเข้ามาในอำนาจยังไม่ถึง 2 อาทิตย์ โรงเรียนกำแพงเพชร 5 โรงถูกเผาทันทีเลย และที่สำคัญจับคนร้ายไม่ได้ โรงเรียนที่ถูกเผาทุกโรงเรียนทั้งอีสานเหนือ อีสานใต้ กำแพงเพชร ที่ระยอง เป็น 10 โรงเรียนนี่นะครับ ที่น่าตลกที่สุดเลยตำรวจจับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว จับไม่ได้ ซึ่งประหลาดใจมาก น่าประหลาดใจจริงๆ ก็สรุปได้ง่ายๆจากองค์ความรู้ที่เรามีว่า ตำรวจในยุคของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นใส่เกียร์ว่าง ที่ใส่เกียร์ว่างก็เพราะว่าตำรวจนี่คือตัวการ เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณมานานแล้ว แต่ว่าความที่คุณโกวิท วัฒนะ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ พล.อ.สนธิ ก็เลยไว้ใจว่าน่าจะเข้าใจเหตุการณ์ น่าจะช่วยน่าจะพูดจาได้ ปรากฏว่าไม่มี เหตุการณ์มันก็เลยยิ่งพัฒนาไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น คุณสำราญเมื่อคืนฟังผมพูดหรือเปล่า
สำราญ – ดูตอนท้ายนิดนึงครับ
สนธิ – คือมันเป็นเรื่องตลกครับ ไฟไหม้โรงเรียนที่อีสานใต้ทุกโรงเรียนนี่ พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 บอกว่าไฟฟ้าลัดวงจร ผมก็เลยบอกพ่อแม่พี่น้องอีกหน่อยนี่นะ คุณจะสร้างบ้านและคุณจะเดินไฟนะ ช่างไฟมาทำงานที่บ้านคุณต้องถามนะว่ามาจากไหน ถ้าพื้นเพคนอีสานใต้ต้องไม่ให้เดินนะ เพราะว่าเดินแล้วลัดวงจรหมดเลย
ปานเทพ – มีบอกตั้งแต่ 45 โรงนะ
สำราญ – 45 คดี คดีโรงเรียนทั้งหมดนี่นะครับ ทั้งเหนือทั้งอีสานนะครับ 45 คดี และปรากฏว่าตำรวจชี้ได้แค่เพียงบอกว่ามีการลอบวางเพลิงนี่ 7 คดี นอกนั้นลัดวงจรหมด
สนธิ – ที่เหลือไฟฟ้าลัดวงจรหมด คือบ้านนี้เมืองนี้นี่มันไม่เคยลัดวงจรเยอะขนาดนี้ เกิดมาลัดวงจรในช่วงนี้พอดี มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก คือให้เด็กอมมือที่ไม่รู้เรื่องการเมืองเขาก็ต้องหัวเราะ เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือเหตุการณ์นี้ ทีนี้ถ้าคุณสำราญสังเกตให้ดีๆนี่ 1. ความใจดีของ คมช. 2. พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ท่านเงียบๆ คือท่านเป็นคนอ่อนนอกแต่แข็งใน แต่ความอ่อนนอกนี่ทำให้ท่านต้องการจะทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน ถ้าเป็นผมหรือ ผมมาวันแรกต้องจับเข่าคุยกับทาง คมช.แล้ว ว่าคุณโกวิท วัฒนะ ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทนี่ผมต้องขอเถอะ ไปเลยสำนักนายกฯ คุณอชิรวิทย์ไปเลย ใครที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณไปประจำให้หมด เพราะว่าตำรวจไทยมีอยู่ 1.8 แสนคน มันมีคนดีอยู่แล้ว มันมีตำรวจที่ถูกรังแกมาเยอะ 4-5 ปีที่แล้วนี่เราสามารถจะเอาขึ้นมาแทนได้ และเป็นคนที่ตั้งใจจะทำงานใช่ไหมครับ
และคุณสังเกตอะไรอย่างนะ ผมคิดว่าเป็นเรื่องตลก เมื่อวานนี้ผมอ่านหนังสือพิมพ์มติชน มันมีหน้าวิเคราะห์การเมือง เขาบอกเลยว่าปีนี้จะมี 5 เหตุการณ์ 1,2,3,4, 5 เขาก็ไล่มาทีละเรื่อง และก็สรุปว่าสังคมไทยปีหน้าเป็นสังคมที่ต้องรู้จักสมานฉันท์ รู้จักให้อภัยกัน ผมก็มานั่งนึกในใจ เอ๊ะ มติชนงวดนี้มาแปลกอีกแล้ว เหมือนสมัยที่คุณเสถียร จันทิมาธร เขียนหน้า 3 มาอีกแล้ว มาในเชิงเหมือนกับสอดคล้องไง สอดคล้องช่างสอดคล้องกับคำพูดของคุณอชิรวิทย์ที่พูดเมื่อคืน รับลูกกันหมดทุกอย่าง และที่น่าสังเกตคือผมเป็นคนช่างสังเกต ผมก็เลยนึกในใจ เอ๊ะ คนเขียนเพี้ยนหรือเปล่าบอกว่าต้องรู้จักให้อภัย ถ้าอย่างนั้นไอ้คดีความที่คุณทักษิณกำลังโดนนี่ต้องให้อภัยหมดสิ ก็หมายความว่าหยุดใช่ไหม หยุดขุดคุ้ย ซึ่งมันก็ตรงกับข้อมูลที่ผมได้มา ว่าคุณทักษิณพยายามส่งทูตมาเจรจากับ คมช.หลายๆสายให้หยุดขุดคุ้ยคุณทักษิณ เข้าใจหรือยัง ซึ่งมันตลกมาก และก็ถ้าดูพฤติกรรมคุณทักษิณนี่ จากการซึ่งเคยอยู่อังกฤษนี่ต้องบินมาอยู่แถวเมืองจีนนี่เพื่ออะไร เพื่อก่อให้เกิดคลื่นให้เห็นว่ายังอยู่แถวนี้
สำราญ – คือปักกิ่ง-กทม. นี่มัน 5 ชั่วโมง
สนธิ – ไม่ใช่ปักกิ่ง-กทม. เขาไม่ได้อยู่ปักกิ่งด้วย เขามาอยู่แถวกวางโจว วันดีคืนดีก็บินข้ามฝั่งเข้ามาฮ่องกง กวางโจว-ฮ่องกงนั่งรถไฟชั่วโมงเดียวถึง กทม.-ฮ่องกง 2 ชั่วโมงกว่า ฮ่องกงมีอาหารการกินทาน มีโรงแรมหรูอย่างดีอยู่ และได้ข่าวคุณทักษิณก็อยู่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล และแมนดารินโมเรียนเต็ลนี่ใครเป็นหุ้นส่วนด้วยรู้ไหม
ปานเทพ – ใครครับ
สนธิ – อิตัลไทยไงล่ะ เข้าใจหรือยังล่ะ เพราะฉะนั้นแล้วคุณทักษิณก็เลยใช้เครือข่าย ที่ตัวเองเกื้อหนุนและได้ประโยชน์ด้วย อันนี้ไม่มีใครเคยคิดเลยนะ แมนดารินโอเรียนเต็ล อิตัลไทยมีหุ้นส่วนอยู่ อิตัลไทยกับระบอบทักษิณนี่ผูกตัดกันเลย สนามบินสุวรรณภูมิ การก่อสร้างนี่หลายๆอย่างนี่อิตัลไทยทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเวลาวิเคราะห์เหตุการณ์ต้องวิเคราะห์ให้เป็น ทีนี้มันเริ่มเข้มงวดตอนไหนรู้ไหม ตอนที่ คตส.เริ่มเล่นงานลูกคุณทักษิณ คุณทักษิณกับคุณเฉลิม อยู่บำรุง มีอะไรเหมือนกันหลายอย่างตรงที่รักลูก ทีนี้เหตุการณ์ที่ คตส.เขาต้องเล่นงานคุณทักษิณ ก็เพราะว่าคุณทักษิณได้ไปสร้างเรื่องให้ลูกตัวเองต้องถูกเล่นงาน คุณจำได้หรือเปล่าล่ะ ที่เขาบอกว่าผมไม่เกี่ยวแล้วนะ ลูกผมขายหุ้น ผมไม่เกี่ยวจำได้หรือเปล่า เป็นเรื่องของลูก
ทีนี้พอเป็นเรื่องของลูก เมื่อเป็นเรื่องของลูก ไม่เชื่อนะเอาหลักฐาน คือหลักฐานพวกนี้โกหกกันไม่ได้ เอาหลักฐานพวกนี้เอามาฉายให้ดูอีกที คุ้ยกันให้ดูอีกที เขาพูดอย่างนี้จริงๆ ตอนนั้นต้องการจะปัดสวะให้พ้นตัว เพื่อทำให้ภาพตัวเองดีว่าผมไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนะ ก็เป็นเรื่องของลูก เอาล่ะ เมื่อเป็นเรื่องของลูกพอลูกทำผิดเรื่องหนีภาษี คตส.จะเรียกลูกเข้ามาสอบ อ้าวตายแล้ว ตัวเองต้องเข้าเกี่ยวแล้วสิ กลับไม่ใช่เรื่องของลูกแล้ว ตรงนี้นี่ที่ช้ำน้ำใจเข้าใจไหม และคุณหญิงพจมานเองก็อยู่ใน กทม.ก็ช้ำน้ำใจ ก็จะทำยังไงล่ะที่จะไม่ให้ลูกตัวเอง ก็รู้อยู่แล้วว่าสติปัญญาลูกมีอยู่แค่ไหน จะไปตอบอะไรได้เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง เด็กไม่รู้เรื่องจริงๆ
เพราะฉะนั้นเมื่อลูกตอบไม่ได้และเขาซักตัวต่อตัวไม่ให้ทนายเข้า หรือให้ทนายเข้านี่ก็ตาย ตายแน่นอน เพราะซักไปวกไปนิดนึง ซักพักก็ตกหลุม ก็ในที่สุดก็สรุปได้แน่ว่านี่คือนอมินี สมมุตินะครับ นี่คือที่มาว่าในช่วงก่อนที่ลูกเขาจะถูกเรียกเข้ามาซักนี่ แล้วก่อนที่กุมภาพันธ์นี้พรรคจะถูกยุบหรือไม่ เห็นไหมครับ หลายๆอย่างนี่มันบีบรัด ความเข้มงวดเข้มข้นนี่มันมามากเลย ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วนี่ก็เลยในขณะเดียวเขาก็เลยต้องส่งสัญญาณให้รู้ว่าทำไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้นี่ไม่มีปัญญาที่จะรักษาความสงบ ทีนี้สัญญาณที่ส่งมานี่มันมีนัยอยู่ 2-3 ข้อ ข้อแรกนี่ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือว่า สงครามจิตวิทยาให้เห็นว่าพวกเขานี่อยากจะทำอะไรก็ทำได้ เพราะฉะนั้นแล้วนี่ถ้า คมช.และรัฐบาลชุดนี้นี่ไม่สั่งปรับเปลี่ยนตำรวจทันที เชื่อผมว่าตำรวจก็จะถ่างขาใส่เกียร์ว่างเฉยๆ
สำราญ – กำลังพล 2 แสนจะอยู่เฉยๆ
สนธิ – คือไม่จำเป็นต้อง 2 แสน จุดต่างๆที่สำคัญเช่นอีสานใต้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งคอยตรวจว่าใครเข้าใครออก
สำราญ – ที่สำคัญๆ
สนธิ – คุณสำราญสมัยก่อนที่ผมรบกับคุณทักษิณนี่ เขาแกล้งผมขนาดไหน ผมนี่แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินจะไปเมืองจีนหรือไปไหนนี่ เขาไปสั่งเลยนะ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสั่งสายการบินว่า มีชื่อผมซื้อตั๋วปั๊บนี่ให้ขึ้นทันที
ปานเทพ – ให้รายงานทันที
สนธิ – เพราะฉะนั้นเวลาผมเดินออกนี่ เข้าที่ด่าน ตม.ที่มีคนยืนอยู่นี่ จะมีเจ้าหน้าที่สันติบาล 2-3 คนยืนค้ำหลังพนักงาน ตม.มาดูผม คนเดียวเลยนะ นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง เวลาผมกลับเวลาที่ตั๋วที่บุ๊คมาไม่ว่าสายการบินไหน มันก็ขึ้น ตม.ก็จะมีตำรวจ ตม.หรือว่ามีพวกนอกเครื่องแบบออกมาดักรอผม คล้ายๆ 1. เชิงข่มขู่ 2. ติดตามความเคลื่อนไหว เอ๊ะ สมัยนั้นถ้าตำรวจสันติบาลทำได้ ทำไมสมัยนี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองถึงไม่ระบุไปบ้างล่ะ ว่าคนอย่างเช่นคุณวราเทพ รัตนากร ที่บินไปหาคุณทักษิณที่ตงกวน หรือสายสัมพันธ์ของพรรคไทยรักไทยที่บินไปนี่ทำไมไม่รายงาน คมช.เขาตลอดล่ะ
ปานเทพ – ว่าใครไปบ้าง
สนธิ – ไปเมื่อไหร่ ไปวันไหนกลับเงียบ คนในวงในเขาบอกว่าถ้าไม่ถามเขาไม่บอก คือตัวเองรับรู้เอาไว้แต่ตัวเองไม่ทำผิดไงแต่ว่าไม่แจ้ง ว่าสมัยผมนี่แจ้งก่อนล่วงหน้านี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้วนี่งานทางการเมืองนี่ คุณสำราญ เราต้องยอมรับว่าเป็นงานที่ต้องพึ่งตำรวจ ถ้าตำรวจใส่เกียร์ว่างอย่างนี้นี่นะ คมช.รบไปอีก 10 ชาติก็รบไม่ชนะ ไม่ชนะ มัวแต่เกรงอกเกรงอะไรกัน เพราะฉะนั้นแล้วนี่ผมคิดว่าเรื่องนี้นี่ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องแก้ไขอย่างรวดเร็ว และถ้าจำเป็นจะต้องรุนแรงถึงขั้นปลดก็ต้องปลดกัน เพราะว่าวันนี้จริงๆสาเหตุปลดมีอยู่แล้วนี่
ปานเทพ – ครบแล้ว
สนธิ – ทั้งๆที่สาเหตุปลดคุณโกวิทนี่มีเยอะมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่โอ๋ สืบ 6 จำได้ไหม โอ๋ สืบ 6 นี่ก็ปลดได้แล้ว ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาที่สนับสนุนให้ท้ายลูกน้องที่กระทำผิด ให้ท้ายยังไง ให้ท้ายแทนที่จะตั้งกรรมการสอบสวน หรือแทนที่จะถึงกรรมการสอบสอนตั้งแล้วจะช่วยเหลือนี่ แทนที่จะให้อยู่ในตำแหน่งหรือว่าย้ายไปอยู่ในตำแหน่งระดับเดียวกัน กลับเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้การเสียอีก การให้ท้ายเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดภาพพจน์ที่เสียหายต่อสาธารณชน ทำให้สาธารณชนเข้าใจบทบาทตำรวจผิดไป เพราะฉะนั้นแล้วโยกย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะได้หลายๆเรื่อง อีสานใต้นี่ พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษ ถ้าเป็นผมหรือผมจะบอกคุณโกวิท วัฒนะ เลยนี่ คุณโกวิทถ้าคุณไม่ย้าย พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ภายใน 24 ชั่วโมงผมจะย้ายคุณ
ทำไมก็เพราะว่าโรงเรียนเผาแล้วเผาอีก ทำอะไรไม่ได้จับอะไรไม่ได้ใช่ไม่ใช่ พล.ต.ท.สถาพรท่านก็เป็นคนสนิทเป็นเด็กในบ้าน คนของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นนายตำรวจรุ่น 28 รุ่น พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา เข้าใจไหมรุ่นเดียวกัน เพราะฉะนั่นแล้วคุณสถาพรนี่ซึ่งจู่ๆเคยเป็นตำรวจสันติบาล ไม่ได้เป็นตำรวจฝ่ายบู๊มานั่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และคุณก็รู้ว่าอีสานใต้นี่พื้นที่ใคร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร อุบล ศรีสะเกษ พื้นที่คุณเนวิน ชิดชอบ ทั้งสิ้น คุณเนวินไม่ต้องทำอะไรหรอก อยู่ที่ กทม.อยู่เฉยๆ เขาไม่ต้องโทรศัพท์ก็ได้ เขาเอาติดต่อคุณส่งโพยไปซึ่งเราก็ไม่รู้ แต่ว่านี่ไม่ใช่วิธีใช้หลักซุนวูมาต่อสู้ อันนี้ใช้วิธีใช้หลักพระพุทธเจ้า เมตตา กรุณา มุทิตา เมื่อทำไม่ได้แล้วก็อุเบกขาช่างมัน จะวางระเบิดก็วางไป
ปานเทพ – ทีนี้คุณสนธิลองวิเคราะห์ว่าถ้าไม่ปลด ผล.ตร.ปลดคุณอชิรวิทย์นี่นะครับ มันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ มันจะเป็นกระบวนการ สถานการณ์จะพัฒนาขึ้นไปแค่ไหน
สนธิ – คือสถานการณ์มันพัฒนาสิคุณ เพราะว่าคนซึ่งดูแลความมั่นคงภายในมันไม่ใช้ทหารมันเป็นตำรวจ ใช่ไหมครับ คุณสำราญ คุณเป็นคนนครศรีธรรมราชใช่ไหม ผมคนสุโขทัย คุณเคยมีเรื่องอะไรบ้างไหม ว่าคุณอยู่จังหวัดคุณ อำเภอคุณ คุณมีความรู้สึกว่าตำรวจทำอะไรก็หลงหูหลงตาไม่ได้หรอก
สำราญ – ตำรวจรู้หมด
สนธิ – รู้หมด คนเล่นหวย คนขายหวย เจ้าของซ่องโสเภณี มือปืนรับจ้าง ผู้มีอิทธิพลรู้หมดนี่ ถ้าตำรวจรู้หมดนี่ผมถามจริงๆเถอะ ตำรวจไม่รู้เลยหรือว่าคนที่อยู่ในคลื่นใต้น้ำนี่ใครบ้าง มันต้องรู้สิ มันต้องรู้นอกเสียจากว่าตำรวจนั้นร่วมด้วย และที่ตลกอะไรรู้ไหม นี่พ่อแม่พี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ เขาเพิ่งย้ายผู้การจังหวัดบุรีรัมย์คือเขาจำเป็นต้องย้าย เพื่อให้ดูว่าย้ายแล้วนะเดือนที่แล้วเอาคนใหม่เข้าไป คนใหม่นี่ก็ตั้งใจทำงานเต็มที่เลย แต่มองไปก็คนของเนวิน ผู้กำกับโรงพักคนของอำนาจเก่าหมด ก็เลยเสนอไปที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ขอย้ายผู้กำกับซักคนเข้ามาช่วยงาน ไม่ให้
สำราญ – ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
สนธิ – ทำอะไรไม่ได้ แขนขาไม่มี ก็คือไปแค่ตำแหน่งผู้การ ผู้การจะวิ่งอะไรได้ พอผู้การมีเรื่องไฟไหม้ที่สะดึก โทรศัพท์ไปถามผู้กำกับ ผู้กำกับเป็นคนของเขานะสมมุติ และบอกไฟฟ้าลัดวงจรครับ และผู้การทำอะไรได้ล่ะ แต่ถ้าผู้กำกับเป็นคนของผู้การ เขาบอกว่าวางเพลิงครับ ไอ้คนวางนั้นเป็นหัวคะแนนเก่า ตอนนี้นั้นหนิเข้าข้ามเขมรไปแล้ว มีรู้ไหมชื่อใคร นี่เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจนี่เป็นสิ่งแรกที่ผมต้องทำ ต้องทำเด็ดขาดเลยต้องย้าย แล้วคุณสำราญ ในขณะซึ่งอัยการสูงสุดสั่งบถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผม แต่ปรากฏว่าคุณโกวิท วัฒนะ แอบสั่งลูกน้องให้รวบรวมคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายๆคดีนี่ ให้พิจารณาหาทางฟ้องให้ได้ พยายามจะเล่นงานผมให้ได้ เห็นหรือยัง คนอย่างนี้นี่ไม่สมควรจะเป็นตำรวจ
ปานเทพ – มีท่านผู้ชมถามว่าช่วยวิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุร้ายใน กทม.อีกหรือไม่
สนธิ – กทม.เป็นเมืองใหญ่ เหตุร้ายนั้นคือเหมือนฝีน่ะ ถ้าคุณไม่ขุดที่ตรงหัวฝีก็ไม่หาย เพราะฉะนั้นแล้วนี่ถ้าคุณไม่จัดการเหตุร้าย คุณไม่จัดการต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุร้าย มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุ
สำราญ – ก็เหมือนที่เราวิเคราะห์เมื่อซักครู่นะครับ
ปานเทพ – เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
สำราญ – คือพูดไปก็เสียวไปนะครับที่พูดไปนี่ ทีนี้ตำรวจอีกนิดนึงนะครับให้มันสะเด็ดน้ำ ก็คือสมมุติคำถามก็คือย้ายคุณโกวิทมาที่ทำเนียบ สมมุตินะครับเอาเบาะๆก่อน 2 คนก็แล้วแต่ ผบ.ตร.คนใหม่ รักษาการนี่ควรจะเป็นใคร ผู้อาวุโสหรือเอาเป็นรองหรือเป็นใคร
สนธิ – คือผมคิดว่าประการแรกนี่ต้องเลือกคนที่ไม่ได้อยู่ในระบอบทักษิณ จะสำคัญที่สุดต้องให้ชัดเจนตรงนี้ แล้วต้องเข้ามาเรียกเข้ามาถามเลยทันที
ปานเทพ – ถึงจุดยืนใช่ไหมครับ
สนธิ – ถึงจุดยืน แล้วต้องบอกว่าคุณแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม ที่สำคัญที่สุดคือต้องปรับกำลังพลทั่วประเทศ ต้องปรับกำลังพล เชื่อผมเถอะคุณสำราญ ตำรวจนี่อยากเป็นผู้กำกับใจแทบขาด ผู้กำกับโรงพัก ตำรวจอยากเป็นผู้การจังหวัดใจแทบขาด และตำรวจอยากเป็นผู้บัญชาการใจแทบขาด เพราะฉะนั้นแล้วนี่มีคนทั้งที่ตั้งใจที่จะสู้กับระบอบทักษิณ หรือแอบแฝงเพื่อพึ่งพาการสู้ระบอบทักษิณมาแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวนี่เยอะแยะไปหมด
สำราญ – คือต้องจัดแถวตำรวจใหม่ว่าอย่างนั้น
สนธิ – จัดแถวตำรวจ ต้องจัดใหม่ครับไม่จัดใหม่ไม่ได้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ภาค 4 ภาค 5-6 ตอนเหนือตอนล่างตอนบนนี่ค่อนข้างจะเรียบร้อยพอสมควร คุณรู้ไหมว่าทำไม
ปานเทพ – ทำไมครับ
สนธิ – พล.อ.สพรั่ง ท่านลงไปจิ้มเลย อย่างที่จังหวัดเชียงรายนี่ ท่านย้ายหมดเลยนะท่านขอให้ย้าย ผู้กำกับโรงพักทุกอำเภอไปหมดเลยนะ เปลี่ยนผู้การ
ปานเทพ – แล้วนิ่งเลยนะครับ
สนธิ – นิ่ง เชียงรายนี่นิ่งมากเลย นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เชียงใหม่นี่ได้เกือบหมดเหลืออยู่คนเดียวยังไม่ได้ รวมทั้งอำเภอด้วยรวมทั้งนายอำเภอด้วยเขาล้างทันที เพราะทำไม เพราะ พล.อ.สพรั่งนี่ท่านเป็นแม่ทัพภาค 3 ท่านรู้พื้นที่ ถ้าผู้การจังหวัดลูกน้องท่าน ค่ายกาวินละที่เชียงราย ท่านสั่งผู้การมาบอกฝ่ายไหนบ้างที่เป็นฝ่ายเอาประชาชนมาหลอกลวงประชาชน ให้เงินให้ทองประชาชนเข้ามาจัดตั้งมวลชน และที่เชียงรายนี่มีเรื่องชั่วๆอีกเยอะมากมาย ผมคิดว่าจะโผล่มา อย่างเช่นบุกรุกที่ป่าสงวนเพื่อที่จะทำสนามกอล์ฟของตัวเอง แล้วก็อุ้มฆ่าคนอย่างมหาศาล และปรากฏว่าคนที่เชียงรายวันนี้ถอนหัวใจอย่างโล่งอกเมื่อทหารเข้ามา
ปานเทพ – นี่เขาอุ้มฆ่าไม่ใช่เฉพาะภาคใต้หรือครับ
สนธิ – ทางตอนเหนือเลย พวกนักการเมืองทั้งสิ้น นักการเมืองที่มีอำนาจทั้งสิ้น นักการเมืองที่พอลงจากเครื่องปั๊บ ถึงเชียงรายปั๊บนี่มีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวเดินทางไปที่บ้านตัวเอง อย่างนั้นเลยนะ เพราะฉะนั้นแล้วผมจะเรียนให้คุณสำราญทราบว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
ปานเทพ – พูดถึงเรื่องลูกคุณทักษิณถูกเลื่อนคดีไปเดือนมกราคม และก็ดูเหมือนว่าสถานกาณ์จะเร่งรัดมาก ในเดือนธันวาคมมีเวลาอีกไม่กี่วันเองนะครับ ลูกคุณทักษิณต้องขึ้นรายงานต่อ คตส.แล้ว สถานการณ์นี้ดูเหมือนจะเป็นปัจจุบันหลักไหมครับที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้น
สนธิ – ผมคิดว่าเป็นปัจจัยหลักนะครับ และผมเองคือผมสงสารลูกคุณทักษิณ คือวันนี้นี่คุณทักษิณเขียนใบมรณบัตรให้กับตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ผมยังเชื่ออย่างนี้นะ คือผมยังเชื่อว่า คมช.นึ่เขามีพรหมวิหาร 4 มาตั้งแต่ต้น ผมเชื่อว่าหลังปีใหม่แล้วนี่เขาคงไม่มีพรหมวิหาร 4 แล้ว เข้าใจไหมครับ คือคุณสำราญ พวกเรานี่อยู่ในวงการหนังสือพิมพ์ ใครชั่วใครรับเงินใครมานี่เราจะรู้ยอมรับไหม ตำรวจก็เหมือนกัน ทหารก็เหมือนกันเขาก็รู้ วันนี้เขาต้องรู้อยู่แล้วว่ากลุ่มไหนเป็นคนทำ เขารู้และเขาก็รู้ว่ากลุ่มนี้มันโยงถึงใครๆๆต้องรู้อยู่แล้ว เมืองไทยนี่มันปิดไม่ได้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นงานเขียนอย่างนี้ งานเขียนฝีมือแบบนี้ สำนวนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่อาจารย์ปานเทพก็คุณสำราญ ไม่ใช่สำราญก็สนธิหรือคุณคำนูณ หรือค่ายโน้นค่ายนี้ทุกคนรู้ถูกไหม คนๆนี้ผูกพันกับคนๆนี้ เคยทำงานให้คนๆนี้มาก่อนรู้หมด
สำราญ – ในวงการนี้แคบลงไปแล้ว
สนธิ – แคบ ทุกๆวงการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละวงการแคบ
สำราญ – เขาจะรู้
สนธิ – คำถามก็คือว่าเขาจะเอาจริงหรือเปล่า ผมเชื่อว่าวันนี้นี่คุณทักษิณและระบอบทักษิณมาเล่นแรง ที่น่ากลัวคือมาเล่นแรงกับประชาชน คืองานชุดนี้นี่ต้องการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้ และต้องการทำลายความเชื่อมั่นที่ต่างชาติมีต่อประเทศไทย คือ ม.ร.ว.ปรีดียาธร นี่คนเดียวทำลายความเชื่อมั่นยังไม่พอ ยังเอาเหตุการณ์แบบนี้มาทำลายความเชื่อมั่นอีก
ปานเทพ – พูดถึงทหาร คุณสนธิบอกว่าทหารมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยนี่ เท่ากับว่าตอนนี้กลุ่มที่อยู่ข้างระบอบทักษิณนี่ต้องรวมตัวกันได้แล้วในฝั่งทหารใช่ไหมครับ
สนธิ – คือทุกอย่างนี่มันรวมตัวได้ด้วยเงิน เงินเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่สุดเลย จู่ๆทหารจะมาทำนี่เพียงเพราะว่าตัวเองนี่ไปเชื่อมั่นใน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นี่เขาไม่ทำหรอก แต่ว่ามันต้องมีเม็ดเงินเป็นจำนวน 8 หลักหรือ 9 หลักนะเผลอๆ เป็นหลาย 10 ล้านหรือ 100 ล้านที่จะเอามาให้ คงจะต้องมีหัวคนนึงรับเรื่องและก็จ่ายเงินออกไป คุณปานเทพ คุณสำราญ ขนาดพวกเรายังจิ๊บจ๊อบนี่นะ เป็นแค่หนังสือพิมพ์อาวุโสนี่นะ ดีๆชั่วๆเราก็มีลูกน้องสายๆเราอยู่บ้าง 2-3 คน ที่เราฝึกมาเข้าใจหรือเปล่า และนับประสาอะไรกับสายทหารซึ่งเขาเป็นสายบังคับบัญชา ซึ่งเขาเลื่อนจากร้อยตรีไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาถึงพันตรี ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับกองพลไปเรื่อยๆ เขาจะไม่มีลูกน้องเขามา แล้วพวกนี้เขาพึ่งพาอะไร เขาถึงบอกว่าทหารหรือตำรวจถ้าหัวหลุดไปนี่สายทั้งสายก็แทบจะหลุดไปเหมือนักน ถูกไหมล่ะ
ปานเทพ – แสดงว่าหัวยังเหลืออยู่
สนธิ – ก็หรือว่าหัวหลุดไปแล้ว แต่ว่าหัวนี่ยังมีลูกน้องในสาย แล้วหัวก็รับเงินมาและก็มาแจกให้กับลูกน้อง มากระจายต่อตามสาย
สำราญ – คือหัวไปตั้งหลักใหม่ ไปตั้งหลักอยู่ข้างนอกว่าอย่างนั้นเถอะ
ปานเทพ – อาจจะอยู่ข้างนอกก็ได้
สนธิ – ก็ขนาดว่าพี่จิ๋วของผมวันดีคืนดีก็เกิดเพี้ยนขึ้นมา นึกออกไหมครับ เพราะฉะนั้นนับประสาอะไรล่ะครับกับคนประเภทนี้
สำราญ – งานคิดว่าพี่จิ๋วรู้ไหมครับ
สนธิ – คือจะว่าท่านรู้ก็คงจะไม่น่าเชื่อ
สำราญ – คือระดับแบบนี้ต้องรู้
สนธิ – ครับ จะว่าไม่รู้ก็คงไม่น่าเชื่อ
สำราญ – คือรู้นี่คือรู้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้
สนธิ – ครับ แต่ว่าถ้าจะถามว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นี่ผมไม่กล้าพูด อันนี้พูดไม่ได้นะครับ แต่ว่าน่าจะรู้ ไม่รู้ได้ยังไงล่ะครับ เป็นขงเบ้งผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร เครือข่ายมีอยู่ครับ และก็ท่านจริงๆแล้วนี่บางครั้งท่านพูดจาไปแล้วนี่ในคำพูดนี่มันมัดตัวท่าน เพราะท่านชอบพูดเลยว่ามีนาคมนี้จะวุ่น ท่านก็พูดเอง
สำราญ – มีมานี้จะวุ่น
สนธิ – จะวุ่นหมด วุ่นวายหมด
สำราญ – ดังนั้นเพื่อให้ตัวเองทำนายถูก ก็ต้องทำให้มันวุ่น
สนธิ – และตัวท่านเองท่านเป็นคนพูดมาตลอดกับคนใกล้ชิดและคนที่รู้จักเข้าไปหา ท่านจะพูดเลยว่ารัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้หรอก ท่านพูดอย่างนี้ตลอดเวลา อยู่ไม่ได้
ปานเทพ – คุณสนธิมองว่าอยู่ได้
สนธิ – ผมมองว่ารัฐบาลชุดนี้จะลากกันได้หรือไม่ได้นี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะว่าถ้าอยู่ไม่ได้เขาก็ตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ผมเชื่อว่าระบอบทักษิณกลับมายาก ยิ่งเล่นวิธีการรุนแรงเล่นกีฬาแบบนี้ เล่นเกเรแบบนี้กับประชาชนนี่นะ คุณสำราญ คมช.เขาเข้ามาตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน จนวันนี้นี่ผมยังไม่ได้ยินเสียงระเบิดซักตูมเลย ไม่ได้ยินเสียงกระสุนยิงออกจากปืนซักนัดเลย ยังไม่มีคนตายซักคน และไม่เคยจับใครเข้าคุกด้วยเข้าใจหรือยัง ใจดีมาก นี่ขนาดเขามีอำนาจอยู่ในมือเต็มๆ พวกที่อยู่ข้างนอกประเทศนี่ยังไม่ทันไรเลยมาก่อวางระเบิดตั้งไม่รู้กี่จุด
ปานเทพ – คุณสนธิวิเคราะห์ว่าโยกย้ายข้าราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ อีกส่วนนึงก็คือน้ำเลี้ยงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญนี่ต้องเดินหน้ายังไงครับ
สนธิ – น้ำเลี้ยงนี่มันชัด ผมคิดว่าในขณะนี้นี่ที่ผมอยากเห็นมากๆ ผมอยากเห็นการเร่งดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการยุบพรรค เรื่องการยุบพรรคผมอยากให้ชัดไปเลยนะครับ
สำราญ – มันจะได้จบฉาก
สนธิ –จบไปเลย เราจะได้รู้ว่าเป็นหมู่หรือเป็นจ่าให้มันแน่นอน อันนี้เรื่องที่ 1 นะครับ เรื่องที่ 2 นี่ผมไม่อยากให้มีการยืดเยื้อหรือยึกยื้อยึกยันเหมือนกับกรณีที่ คตส.ฟันธวไปเรื่องเกี่ยวกับกรณีซื้อที่ดินของคุณหญิงอ้อ แล้ว ม.ร.ว.ปรีดียาธร ท่านก็บอกว่าท่านยังไม่ได้รับหนังสือ คตส.มา เพราะว่ากระทรวงการคลังต้องเป็นเจ้าภาพในการแจ้งความกล่าวโทษ ทั้งๆที่คนใน คตส.เขาบอกว่าส่งไปให้ตั้งนานแล้ว ท่านก็ยังบอกท่านยังไม่ได้รับ ผมไม่อยากเห็นตรงนี้ ทีนี้กระบวนการมันเป็นอย่างนี้ ถ้าเขาไปกล่าวโทษให้ คตส.คดีนี้ก็มีมูล เมื่อมีมูล คตส.ก็ส่งเรื่องเข้า ป.ป.ช. ป.ป.ช.ก็ไม่ต้องรอตั้งองค์คณะพิจารณาทันที พิจารณาเลย พิจารณาเปิดเผยก็ยังได้เลยไม่เป็นไรนี่ ถ่ายทอดโทรทัศน์เลยเปิดเผยว่ามีมูลไหม ถ้ามีมูลชี้มูลปังว่ามีมูลปั๊บนี่ ปปง.ต้องเข้าทันที เมื่อ ปปง.เข้าแล้วอำนาจ ปปง.ก็เหมือนกับอำนาจ ปปง.ที่คุณทักษิณเคยใช้กับคนอื่นเขา เข้าไปอายัดทรัพย์ ตรวจสอบทรัพย์สินคุณทักษิณ ถ้ามีคุณพจมานๆก็ต้องโดนด้วย พาดพิงถึงใครคนนั้นก็ต้องโดนด้วย
ปานเทพ – น้ำเลี้ยงก็จะหยุด
สนธิ – ผมคิดว่าน้ำเลี้ยงหยุดไม่หยุดไม่รู้ แต่ว่าสะอึกมี สะดุดมีแน่นอน หรือว่าแม้กระทั่งคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธ์นี่ ทรัพย์สินท่านเยอะเหลือเกิน อย่างที่บนสมุยนี่ท่านบอกว่าไม่ได้ชื่อท่านนี่ แต่ว่าชาวบ้านก็บอกว่านี่ของท่านๆ สามีท่านซึ่งไม่ได้จดทะเบียนก็มีทรัพย์สินเยอะมาก บ้านท่านบนสมุยนี่อย่างกับปราสาทราชวัง คำถามก็คือท่านทำธุรกิจอะไรนี่ทำไมท่านถึงร่ำรวยนักหนาจากการเป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้นแล้วนี่ผมเข้าใจว่าคงต้องเชิญคุณสุดารัตน์มาคุยกันซักนิดนึง ว่าคุณสุดารัตน์จริงๆแล้วเรื่องราวต่างๆนี่ ที่มันเกิดขึ้นมีคนเขาว่าคุณสุดารัตน์เอาเงินเอาทองมาจ่ายจริงหรือไม่จริง
สำราญ – ก็เป็นข่าวลืออยู่เหมือนกัน
สนธิ – เป็นข่าวลือก็ต้องถาม ต้องถามชัดไง ต้องถามคุณสุดารัตน์ตรงไปตรงมา คุณสุดารัตน์ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ และก็มีความสุขกับการใช้เงินใช้ทอง เพราะว่าหลักฐานเอาไม่ถึงคุณสุดารัตน์ คุณสุดารัตน์ก็น่าจะหยุดนะ เข้ามาร่วมชาติเพื่อกู้ชาติได้ไหม ช่วยชาติให้มันดีขึ้น ตัดการเมืองไปเลย คุณสุดารัตน์อย่าไปยุ่งกับมันเลย ใช่ไหม มายุ่งอะไรกับเรื่องพวกนี้ คุณทำอะไรนี่ เดี๋ยวคนเขาจะเข้าใจผิดว่าคุณนี่ทุกเดือนยังจ่ายเงินเดือนให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยอยู่ เข้าใจไหมซึ่งมันไม่ดี
สำราญ – จากชลบุรีบอกว่าอยากให้คุณสนธิมาวิเคราะห์บ่อยๆ ในรายการสภาท่าหรือรายการใดๆก็ได้นะครับ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกนะครับ
สนธิ – ถ้ามาวิเคราะห์บ่อย เมืองไทยรายสัปดาห์ก็ไม่ต้องออกสิครับ
สำราญ – จากลพบุรีบอกว่าควรปรับ ครม.รับสถานการณ์หรือไม่ ควรไหมครับ คุณสนธิ
สนธิ – ต้องปรับครับ คือผมมองอย่างนี้ ผมมองว่า ครม.ชุดนี้นี่ วัตถุประสงค์ของการตั้งขึ้นมานี่ถูกต้อง แต่ว่าวิธีการที่ไปทำงานนี่ผิดหมด คือทุกคนเข้ามานี่ทุกคนไม่ได้มองเหตุผลที่ตัวเองเข้ามา
ปานเทพ – ไม่ได้มองเป้าหมายว่าต้องการอะไร
สนธิ – ไม่ได้มองว่าต้องการอะไร และที่สำคัญคือไม่ได้มองว่าเข้ามาได้เพราะอะไร เข้าใจหรือยัง ครม.ชุดนี้เป็น ครม.ชั่วคราว อยู่ได้ไม่เกินปีนึงหรือมากสุดผมให้ 1 ปี 6 เดือนเลย เข้ามานี่เพื่อที่จะดำเนินการให้งานของบ้านเมืองนั้น เป็นไปต่อไปอย่างไม่สะดุด คำว่าเป็นไปต่อไปอย่างไม่สะดุดนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปเที่ยวสร้างโครงการใหม่ๆ และในขณะเดียวกันข้อที่ 2 นี่ในฐานะเจ้ากระทรวงนี่ เข้ามาเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะว่าเรื่องราวต่างๆนี่ที่จะไปถึง คตส.หรือ ป.ป.ช.นั้น ถ้ากระทรวงไม่เป็นเจ้าภาพนี่ ให้ คตส.เข้าไปคุ้ยด้วยตัวเองนี่มันลำบาก อย่างกรณีของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เจ้ากระทรวงก็ต้องถามตัวเองหรือเอาข้อมูลมาว่า ในสมัยที่รัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐมนตรีอยู่นั้น มีโครงการอะไรบ้างที่มีข้อสงสัย เรียกเรื่องมาดู และตั้งคณะกรรมการจากภายนอกมาพิจารณาเป็นชุดๆไป
เมื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้วว่าโครงการอันนี้นี่ประมูลไม่ถูกต้อง มีการฮั้วกันเอื้อเฟื้อกัน ช่วยเหลือกัน มีการเพิ่มวงเงินอย่างมหาศาล ก็สามารถที่จะเรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ที่มีชื่อเซ็นชื่อในโครงกานนั้นทุกคนมาเลย และตั้งคณะกรรมการสอบทีละคน ถ้ามีมูลก็ส่งมูลทั้งหมดให้ คตส.เขาดำเนินเรื่องราวต่อไป หน้าที่ ครม.ชุดนี้มีอยู่เพียงแค่นี้ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ขยันที่จะทำรถไฟฟ้า เข้าใจไหม ไม่ใช่มีหน้าที่ที่จะเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เข้าใจหรือยัง ไม่ใช่หน้าที่นี้ และไม่ใช่มีหน้าที่ที่จะไปดำเนินการที่เป็นเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการในฝันที่ตัวเอง
เหมือนอย่างที่ท่านรัฐมนตรีสิทธิชัย โภคัยอุดม นี่ท่านเพอร์เฟกมาก ท่านเข้ามาท่านมารื้อสัมปทานเก่าๆและท่านดูว่าผิดตรงไป ท่านชี้ให้เห็น และท่านก็ประกาศต่อชาวประชาชน ท่านบอกว่านี่ใช้ไม่ได้นี่ใช้ไม่ได้ ทุนโทรคมนาคมนี่โกงแผ่นดิน เหมือนกับท่านลุกขึ้นมาตอบคำถามคุณคำนูณ สิทธิสมานในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ท่านตอบมาผมยังตกใจเลย ท่านบอกว่าเครือข่ายเอไอเอสที่ยังไม่ไดโอนทรัพย์สินให้กับหลวงนี่ มีมูลค่าถึง 50000 กว่าล้าน ผมก็ยังงงว่าไอ้ 50000 กว่าล้านที่คุณจะต้องโอนมานี่ ทรัพย์สินตรงนี้นี่ ถ้าพูดถึงกรณีมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นี่นะ รัฐมนตรีไอซีที นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ท่านต้องโดนแล้วนะ ทำไมคุณถึงไม่ให้เขาโอนมา ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า เพราะว่าหัวหน้าพรรคเป็นพ่อของลูกที่ถือหุ้นชินคอร์ปอยู่ นี่เห็นไหมมันต้องลักษณะแบบนี้
ตรงนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณที่ต้องสู้กลับ ผมกลับมองอย่างนี้ ผมกลับมองว่ารัฐบาลนี่โดยเฉพาะทหารนี่ คมช.นี่ ผมอยากให้ คมช.พิจารณาอารักขาให้ความปลอดภัยกับคนอย่างเช่นรัฐมนตรีสิทธิชัย กับพวก คตส.กับพวก ป.ป.ช. ให้ความมั่นคงเขา นี่คุณจะเห็นได้ชัดว่านี่คือภารกิจของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ แต่ว่า ครม.ชุดนี้ต้องเห็นใจท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านไม่ได้เป็นคนตั้ง คนอื่นตั้งเข้ามาเยอะ ท่านก็เลยอยู่ในสภาวะทีค่อึดอัดใจ ผมว่าต้องปรับ ครม. ครม.ตั้งแต่นี้ต่อไปต้องเป็น ครม.เชิงรุกไม่ใช่ ครม.เชิงรับ และคนที่มีอะไรเกี่ยวพันกับระบบเก่า ถึงจะเกี่ยวพันกับระบบเก่าผมไม่ว่า แต่ในระหว่างที่เข้ามานี่ช่วยแสดงอาการสนับสนุนช่วยเหลือระบอบเก่านี่ต้องเอาออกเสีย
สำราญ – มีคำถามมา อยากให้คุณสนธิต่อสายตรงคุยกับท่านนายกฯไปเลย
สนธิ – เรื่องผมคุยสายตรงนี่ไม่ใช่หน้าที่ผม เดี๋ยวท่านายกฯท่านก็หาว่าผมจะไปสอนหนังสือสังฆราช ผมคิดว่าท่านนายกฯสุรยุทธ์คนนี้ท่านเป็นคนซื่อสัตย์ 100% สุจริต และท่านตั้งใจทำงาน เป็นอ่อนนอกแข็งใน ท่านจะทำยังไงที่จะรุกมากกว่าจะรับ ผมเชื่อว่าท่านมีท่านเป็นทหาร ผมเชื่อว่าบทท่านรุกท่านรุกจริงนะ อย่าไปประมาทนะ พล.อ.สุรยุทธ์ คุณอย่าไปประมาทว่าเป็นสุภาพบุรุษมากๆและไปมองว่าท่านบ่มิไก๊ จริงๆลักษณะท่านก็คือว่าถ้าไม่ประดาบก็แล้วไปนะ คือจะหลีกเลี่ยงการประดาบ แต่พอประดาบก็เลือดเดือด
สำราญ – คือคล้ายๆว่าผมให้โอกาสคุณแล้วนะ
สนธิ – ใช่ ผมเชื่อว่าพวกนี้ไปประมาท พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผมคนนึงล่ะผมไม่กล้าประมาทท่านหรอก
สำราญ – คือท่านอาจจะนับนานไปบ้างในบางเรื่อง นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
สนธิ – ครับ ก็เพราะว่าท่านไปบวชเรียนมาแล้วไง ท่านไปบวชกับท่านอาจารย์ทุยที่หนองคาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว สายพระป่า ท่านก็เลยอาจจะพุทโธๆท่านเมตตามากขึ้น แต่บทถ้าท่านจะอำมหิตผมเชื่อว่าองคุลีมานเรียกท่านว่าพี่นะ ผมเชื่อนะ
ปานเทพ – เรื่องไฟใต้กับ กทม.เที่ยวนี้นี่ คุณสนธิวิเคราะห์ว่าเชื่อมโยงกันไหมครับ
สนธิ – ไม่เชื่อมเลย ไม่เชื่อมเด็ดขาดงานนี้
ปานเทพ – ถ้ามีคนวิเคราะห์ต่อว่าเป็นการเมืองที่อยู่ทั้งใต้และ กทม.ด้วยไหม
สนธิ – ไม่ใช่
สำราญ – คนนครสวรรค์นี่มีอารมณ์ขันนะครับ อาจารย์ปานเทพ บอกว่าคุณโกวิท คุณอชิรวิทย์ ควรออกไปได้แล้ว ทำไมไฟไม่ไปลัดวงจรที่บ้าน 2 คนนี้บ้าง จากสุไหงโกลกบอกว่าได้เจอ พล.ต.อ.โกวิท ที่สุไหงปาตี เมื่อบ่ายวานนี้ จริงหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ
สนธิ – คือปัญหาอยู่อย่างนี้ ถ้าคุณโกวิทอยู่ในเมืองไทย คุณโกวิทก็ใช้ไม่ได้ถูกไหม เพราะว่าเรื่องราวต่างๆในฐานะผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบสูงสุดนี่ไม่ออกมาแสดงจุดยืน
ปานเทพ – ต้องปรากฏตัว
สนธิ – หรือออกมาชี้ นี่ไม่ใช่เรื่องของการขว้างระเบิดใส่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุม นี่เป็นการวางระเบิดทั่ว กทม.และมีคนตายและบาดเจ็บนับสิบ ถ้าท่านไม่ได้อยู่ใน กทม.ท่านไปต่างประเทศก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าท่านเป็นคนออกคำสั่งให้ตำรวจทุกคนห้ามลาและท่านก็ดันลาเอง เพราะฉะนั้นท่านจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศนี่ใช้ไม่ได้
ปานเทพ – มีคำถามว่าถ้ายุบพรรคไทยรักไทยนี่คลื่นใต้น้ำหยุดไหมครับ
สนธิ – ผมคิดว่าส่วนหนึ่งนี่ต้องวิ่งเกาะที่ใหม่ อาจจะวิ่งเกาะคุณบรรหาร หรือว่าพรรคการเมืองใหม่อย่างพรรคคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือพรรคคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ก็ต้องเกิดขึ้น พวกนี้ก็วิ่งไปเกาะแล้ว พอพวกนี้มีที่ไปเกาะแล้วนี่ สายการเมืองก็จะนิ่ง ทีนี้ก็เป็นการเจรจาต่อรองกันแล้วว่าใครจะเข้าใคร ใครจะรวมตัวกับใคร สายการเมืองนิ่ง พอสายการเมืองนิ่งก็เหลือตัวป่วนอยู่ไม่กี่คนที่ตาดูได้เป็นตัวๆไป อย่างเช่นตัวป่วนที่อยู่ใกล้ชิดคุณทักษิณ มีหมอคนไหนบ้าง มียี้คนไหนบ้างก็ว่ากันไป ตรงนั้นจะคุมสถานการณ์ได้
สำราญ – จะมีวิธีนำตัวทักษิณมาลงโทษเหมือนอย่างซัดดัมได้หรือไม่
สนธิ – มันคนละแบบกันครับ เพราะว่าซัดดัมนี่โทษฐานความผิดเขาคือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คุณทักษิณนี่ยังไม่ถึงขั้นขนาดนั้น คนทักษิณยังไม่พอ วันนี้คุณทักษิณนี่เป็นห่วงอยู่เรื่องเดียวว่าจะรักษาสมบัติตัวเองยังไง เรื่องกลับมาใหญ่ทางการเมืองนี่จบแล้ว เขากลับไม่ได้แล้ว ถึงกลับมาก็ไม่มีทางที่จะตั้งพรรคและก็มีคนเข้ามาสนับสนุน ไม่เหมือนเดิมแล้ว
สำราญ – เรื่องซัดดัมนี่มันจะส่งผลต่อสถานการณ์โลกไหม
สนธิ – สถานการณ์โลกคงไม่มี แต่สถานการณ์ในอิรักนี่คงมีอย่างแน่นอนที่สุดครับ เพราะว่าคนที่ช่วยและก็ยังชอบคุณซัดดัมอยู่ยังมีอยู่เยอะ เป็นของธรรมดานะครับ
สำราญ – คงไม่ถึงกับมีกระบวนการล้างแค้นกันทั่วโลก
สนธิ – คงไม่ๆ เพราะว่าคุณซัดดัมไม่ได้เป็นตัวแทนการต่อสู้ของผู้ก่อการร้าย แต่มันจะเป็นการปะทะกันระหว่างสุหนี่กับชีอะห์
สำราญ – เป็นสงครามจำกัดเขต เอาล่ะครับ มาถึงช่วงท้ายเหลืออีก 2 นาทีนะครับ
สนธิ – วันนี้ที่มาก็เพราะวันปีใหม่ด้วย ก็เลยถือโอกาสมาเปิดรายการและก็ให้ทางท่านผู้ชมได้รับพรจากพวกเรา ว่าปีใหม่นี้ก็สงบสติอารมณ์อย่าไปตื่นตระหนกตกใจ ผมยังมีความมั่นใจ 100% ว่า คมช.รักษาการได้ คลื่นใต้น้ำมันคือคลื่นครับ เพียงแต่ว่าหาคนซึ่งไปสร้างคลื่นที่อยู่ใต้น้ำ หาให้ได้ เมื่อหาได้แล้วจัดการเขาเสียมันก็จบ คลื่นก็ไม่มีแล้วไม่ต้องไปพะวงกับอะไรทั้งสิ้นครับ เป็นธรรมชาติของผู้ที่สูญเสียอำนาจไป ก็พยายามที่จะดึงอำนาจนั้นกลับคืนมา แต่ทั้งหมดทั้งคนที่รับเงินรับทองหรือรับภารกิจมาที่จะสร้างคลื่นใต้น้ำนี่ ทั้งหมดที่ทำมานี่ทำเพื่อเงินอย่างเดียว
และผมก็เห็นใจคุณทักษิณ เพราะว่าคุณทักษิณเองเป็นคนสร้างเรื่องที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องลูกตัวเองที่จะต้องถูกสอบ และตัวเองเจ็บช้ำน้ำใจนี่ มองย้อนหลังกลับไปก็ตัวเองเป็นคนทำเองแหละ เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมครับ ปีใหม่ฟ้าใหม่นี่อย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหน เหมือนกับพระพุทธเจ้าพูดกรรมใดใครก่อใช่ไหมครับ กรรมที่คุณทักษิณสร้างเอาไว้เป็นคนก่อให้ลูก ลูกก็ต้องรับไป พวกเราตื่นมาเช้าวันที่ 1 ด้วยแสงแดดที่สดใส คิดดีทำดีใช่ไหม จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ และก็นำชาติบ้านเมืองไปสู่ความโปร่งใส
สำราญ – เอาล่ะครับ วันนี้ก็เวลาหมดนะครับ อาจารย์ปานเทพ ผมสำราญ ขอบพระคุณคุณสนธิที่มาร่วมรายการครับ ประเดิมให้เศีลให้พรและก็เป็นมงคลกับรายการของเรานะครับ ขอบพระคุณมากครับ