xs
xsm
sm
md
lg

ไอทีวีพ่าย! ศาลปกครองสั่งจ่ายสัมปทานปีละพันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไอทีวี พ่าย ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง บังคับต้องจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1 พันล้านบาท ตามสัญญา และให้ปรับผังรายการเป็นสาระ 70 เปอร์เซ็นต์ และบันเทิง 30 เปอร์เซ็นต์ ตามเดิม ขณะที่พนักงานไอทีวีออกแถลงการณ์ยอมรับคำสั่งศาลและยืนยันจะยึดมั่นในวิชาชีพต่อไป

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลปกครองสูงสุด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา (เวลา 14.00 น.) ศาลปกครองได้อ่านคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้ไอทีวีต้องจ่ายค่าสัมปทานกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีปีละ 1 พันล้านบาท ตามสัญญาและให้ปรับผังรายการเป็นข่าวสารและสาระประโยชน์ร้อยละ 70 และบันเทิงร้อยละ 30

โดยศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง โดยเห็นว่าคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ ตามหมายเลขแดงที่ 4/2547 และข้อพิพาทตามหมายเลขดำหมายที่ 29/2545 ที่ให้ สปน.ชดเชยความเสียหายในวงเงิน 20 ล้านบาทและให้ไอทีวีปรับลดผลประโยชน์ค่าตอบแทนตามสัญญา รวมทั้งปรับลดสัดส่วนการเสนอรายการข่าวและสาระประโยชน์ จากเดิมไม่ร้อยละ 70 ของเวลาออกอากาศทั้งหมด เป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เพราะเห็นว่าสัญญาร่วมงาน ข้อ 5 วรรค 4 ที่มีการเพิ่มเติมในภายหลัง ไม่มีผลใช้บังคับ เนื่องจากไม่ผ่านมติครม. และไอทีวีเป็นฝ่ายเพิ่มเติมเนิ้อหาข้อความดังกล่าว หลังไอทีวีได้รับสัมปทาน ซึ่งถือว่าการร้องของไอทีวี ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทาน เป็นการดำเนินการที่ไม่สุจริต

นอกจากนี้ในคำอุทธรณ์ที่ระบุว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งตามพ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการที่ได้มีการบัญญัติห้ามมิให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาคำชี้ขาดของอนุญาโดตุลาการ แต่มีการบัญญัติตามมาตรา 40 วรรค 3 ของอนุญาโตตุลาการระบุว่า ในกรณีคำชี้แจงของอนุญาโตตุลาการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ถือว่าศาลปกครองจะพิจารณาเพิกถอนได้ ซึ่างกรณีดังกล่าว คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ให้ปรับลดสัดส่วนรายการข่าวและสารประโยชน์จากเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อบริการสาธารณะ ศาลปกครองกลางจึงไม่สามารถละเลยที่จะไม่พิจารณาได้ จึงเห็นว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการอยู่ในเขตอำนาจที่ศาลปกครองกลางที่จะเพิกถอนได้ คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการถือว่าชอบแล้วจึงพิพากษายืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

ขณะเดียวกัน หลังคำพิพากษาพนักงานไอทีวีได้ออกแถลงการณ์ยอมรับคำสั่งศาล และยืนยันว่า จะยึดมั่นในวิชาชีพสื่อและจรรยาบรรณอย่างมั่นคงต่อไป

อย่างไรก็ดีสำหรับค่าปรับจำนวนเกือบ 1 แสนล้านบาท(รวมค่าปรับ)ที่สปน.บังคับให้ไอทีวีต้องจ่ายฐานผิดสัญญานั้นถือเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ต้องไปต่อสู้กันตามขั้นตอนต่อไป

ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางได้พิพากษา เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2549 ที่ผ่านมา ให้เพิกถอนคำสั่งของอนุญาโตตุลาการ ที่เคยชี้ขาดให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ลดค่าสัมปทานให้ไอทีวี จากปีละ 1,000 ล้านบาท เหลือแค่ปีละ 230 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังให้ สปน.จ่ายค่าชดเชยให้ไอทีวี 20 ล้านบาท

ดังนั้น ผลคำพิพากษาดังกล่าวส่งผลให้ไอทีวีต้องจ่ายให้ สปน.คือ ปีละ 1,000 ล้านบาท และไอทีวีต้องปรับผังรายการให้กลับไปเหมือนเดิม คือ สาระต้อง 70 ส่วนบันเทิงแค่ 30 เท่านั้น และไอทีวียังต้องเสียค่าปรับจากการเปลี่ยนแปลงผังรายการในช่วงที่ผ่านมาให้ สปน.ด้วย โดยต้องเสียค่าปรับ 10% ของค่าสัมปทานในแต่ละปีให้ สปน.คิดเป็นค่าปรับประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท และต่อมาทาง สปน.ได้คำนวณโดยบวกค่าปรับจนถึงขณะนี้รวมแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท

ด้าน นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาคดีไอทีวี ของศาลปกครองในตอนเที่ยง ว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ส่งนายพุทธิสัตย์ งามเดช ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ไปรับฟังคำตัดสินของศาล หลังจากรับฟังแล้วผลออกมาเป็นอย่างไร สปน.จะมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวในวันที่ 14 ธันวาคม นี้

ด้าน คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอฟังคำตัดสินของศาลปกครองก่อน จึงจะทราบแนวทางการดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องการพิจารณาทบทวนค่าปรับกรณีผังรายการนั้น ยอมรับว่า มีแนวคิดอยู่แล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายงานพิเศษ ถามใจ"ไอทีวี"ยังอยากกลับมาเป็นของ"ไทย"หรือไม่?

/0110


กำลังโหลดความคิดเห็น