“บิ๊กจิ๋ว” กินข้าวเคลียร์ใจ คมช.ชื่นมื่น บอก “ปฏิวัติซ้อน” แค่เรื่องล้อกันเล่น ยันพร้อมสนับสนุน คมช.และรัฐบาลเต็มที่ ป้อนคำหวานไม่หยุด คมช.เป็นห่วงโซ่สุดท้ายที่จะนำความยุติธรรมสู่ระบอบการปกครอง
เมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. วันที่ 13 พ.ย. คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) 8 คน ประกอบด้วย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช., พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข รองประธาน คมช., พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์, พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์, พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ สมาชิก คมช., พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช., พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ได้เข้าพบเพื่อรับประทาอาหารร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจาก พล.อ.ชวลิต ออกมาวิจารณ์การตั้งทหารเข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจจนถูก พล.อ.สนธิ ออกมาตอบโต้ โดยการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งนี้เพื่อทำความเข้าใจกันของทั้ง 2 ฝ่าย
ต่อมา เวลา 20.35 น.วันเดียวกัน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมรับประทานอาหารกับ คมช.ว่า ทาง คมช.ได้ขอเข้ามาเยี่ยม โดยได้พูดถึงความรู้สึกของประชาชนลึกๆ ว่า ประชาชนให้การสนับสนุน คมช.เพราะหวังในความสำเร็จแก้ไขปัญหาชาติ โดยเฉพาะ 4 เรื่องที่ คมช.อ้างเหตุผลในการปฏิวัติยึดอำนาจ ซึ่งประชาชนอยากเห็นรายละเอียด ซึ่งประธาน คมช.ได้เล่าให้ฟังจึงรู้ว่าประเด็นหนึ่งที่ขาดไปคือการสื่อให้ข้อมูลต่างๆ ไปถึงประชาชน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า คมช.ขออนุมัติจากรัฐบาล ให้ คมช.รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาความยากจน ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่า กิจกรรมใดที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีต้องให้สิทธิ และเป็นอำนาจของประชาชนเป็นผู้กำหนดสภาพแวดล้อมเป็นสังคมของเขาเอง
“ส่วนการปฏิบัติการจะใช้แนวทางสันติวิธีเป็นหลัก ต้องยืนอยู่บนตัวบทกฎหมาย และขอให้จัดระบบการสื่อข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจน อะไรที่ไม่สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ควรทำ โดยควรจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ไม่ต้องมีคาราโอเกะ หรือ ซ่อง เป็นไปได้หรือไม่ หรือการตัดถนนจำนวน 8 เลน ตัดใช้งบประมาณเป็นหมื่นล้าน แต่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย ควรจะมีการลดตรงนี้หรือเปล่า ซึ่งการแก้ไขปัญหาภาคใต้จะต้องผลักดันในเรื่องความรู้ และการศึกษา และแนวทางสันติวิธี ทั้งนี้แนวรบที่ 4 เป็นแนวรบที่สำคัญที่สุด คือ สื่อ ดังนั้น ควรจะบอกกล่าวทำความเข้าใจกับประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่สุดเพื่อจะได้เป็นประโยชน์” พล.อ.ชวลิต กล่าว
เมื่อถามว่าทาง คมช.กังวลใจหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คมช.อยากขอความเข้าใจ และแรงใจ โดยทุกคนยืนยันว่าทุกคนทำงานด้วยความบริสุทธิ์ และตั้งใจกันจริงๆ หรือบางเรื่องอาจจะอะไรที่ไม่เข้าใจก็จะต้องมีการพิจารณาแก้ไข ดังนั้นเราจะต้องให้กำลังใจ เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น “คมช.ทุกคนรับฟังข้อเสนอของผม เพราะเขาเป็นน้องๆ ทั้งนั้น วันนี้พูดจากันแบบไม่มีน้อยอกน้อยใจ พูดจาด้วยความเข้าใจกัน”
เมื่อถามว่าได้มีการพูดเรื่องการปฏิวัติซ้อนหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนได้เล่าให้ คมช.ฟังว่า มีการพูดจากันของกลุ่มคนที่เห็นว่า “มึงไม่ดีเสียที ก็เอาแม่งอีกเสียที” อะไรอย่างนี้ ทำนองนี้มากกว่า ซึ่งทาง คมช.ก็หัวเราะธรรมดาไม่มีอะไร เพราะทาง คมช.ก็ได้ยินว่าจะมีการปฏิวัติซ้อน ก็พูดกันเล่นๆ คงจะไม่เป็นเช่นนั้น
“ก่อนกลับผมได้ย้ำกับ คมช.ว่า พวกท่านเป็นโซ่ข้อสุดท้ายจริงๆ เพราะว่า 75 ปีที่เราไปแย่งอำนาจที่สมควรเป็นของพระเจ้าอยู่หัว เป็นของสถาบัน ที่ท่านจะทรงปรับเรื่องการเมืองการปกครอง ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในการปรับการเมืองการปกครอง คือสถาบันสูงสุด ที่จะปรับไปสู่แนวทางสันติ ซึ่ง คมช.โซ่ข้อสุดท้ายอย่าให้สังคมไทยไปสรุปว่าผู้ปกครองไม่สามารถปกครองได้ ฉะนั้นเป็นเรื่องที่ คมช.แบกรับหน้าที่ที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าเราเชียร์การปฏิวัติเป็นสิ่งที่ดี แต่เราเชียร์ว่าตรงนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ทำให้การเมืองการปกครองของชาติ เป็นการปกครองที่ยุติธรรมให้กับคนส่วนใหญ่” พล.อ.ชวลิต กล่าว
เมื่อถามว่า คมช.ยืนยันจะคืนอำนาจให้กับประชาชนเร็วที่สุด พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า แน่นอน เพราะทาง คมช.ได้พูดย้ำว่าจะคืนอำนาจให้กับประชาชนเร็วที่สุด
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ในฐานะรองประธาน คมช.ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า พล.อ.ชวลิตมีความเป็นห่วงและให้กำลังใจในการทำงานของ คมช.ซึ่งทาง คมช.เห็นด้วยกับแนวทางที่ พล.อ.ชวลิต เสนอ โดยท่านบอกว่าไม่ได้บอกว่าไม่เห็นด้วยกับทาง คมช. แต่เห็นด้วยกับทางรัฐบาล และเหล่าทัพ และจะให้การสนับสนุน รวมทั้งให้กำลังใจกับทาง คมช.ในการทำงานต่อไป