ชนาพัทธ์ ณ นคร - "เตมูจิน" ลิ่วล้อไทยรักไทย

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า บรรดาลิ่วล้อทรราชหลากกลุ่มหลายแขนง กำลังทำการเคลื่อนไหวขะมักเขม้นสร้างคลื่นใต้น้ำให้กระเพื่อมเป็นวงกว้าง ทั้งบนดินและใต้ดิน เพื่อเปิดฉากรุกเอาคืนทางการเมืองครั้งใหญ่ต่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พร้อมกับปูทางรับการกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อสานภารกิจให้ระบอบทักษิณกลับขึ้นมาผงาดยึดครองสังคมไทยได้อีกครั้ง

กลวิธีที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งในการปลุกคลื่นใต้น้ำให้กลายเป็นสึนามิทางการเมือง ถาโถมเข้าใส่อำนาจรัฐคือ การใช้เครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยีทันสมัยนานาชนิดในการปลุกระดมปล่อยข่าว และยั่วยุให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ท้าทายต่อกฎอัยการศึก ที่สำคัญมีการปลุกระดมให้มีการชุมนุมประท้วงอำนาจรัฐทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดผ่านทางเว็บไซต์มากมาย รวมถึงการแจกใบปลิวและปล่อยข่าวลืออย่างกว้างขวางเพื่อล้มล้างรัฐบาลและ คมช.

นอกจากเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนในระบอบทักษิณ ที่ปฏิบัติการโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คมช. รวมถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในระหว่างนี้ก็ได้เกิดเว็บไซต์หน้าตาแปลกใหม่ขึ้นมาคือ http://www.thaimemberclub.com/ และ http://www.tmctoday.com ซึ่งนอกจากจะรับหน้าที่โพสต์ข้อความทำลายฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณแล้ว ยังมีการรับสมัครสมาชิก และนัดแนะรวมพลพรรคคนรักทักษิณชุมนุมครั้งใหญ่กลางสนามหลวงอย่างโจ๋งครึ่มอยู่ในเวลานี้ด้วย

หนึ่งในแกนนำสมุนทรราช ที่เดินหน้าปฏิบัติการบนเว็บไซต์มาต่อเนื่อง เพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ขณะเดียวกันก็ปกป้องและหนุนเนื่องให้ระบอบทักษิณยึดคืนประเทศไทย จนเป็นที่รู้จักและกล่าวขวัญถึงของนักท่องเว็บอย่างกว้างขวางก็คือ...

ผู้ที่ใช้นานแฝงว่า "เตมูจิน" และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ "เด็กในคาถา" ของระบอบทักษิณนั่นเอง !?

ทั้งนี้ จากการสืบค้นของ "ผู้จัดการรายวัน" พบข้อมูลน่าสนใจว่า ตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้นานแฝงว่า เตมูจิน คือ "นายชนาพัทธ์ ณ นคร" ชื่อเล่น "โดม" เกิดวันที่ 10 ก.ย.2514 อายุ 35 ปี บิดาชื่อ นายวิเชียร ณ นคร เกิดวันที่ 29 ส.ค.2477 อายุ 72 ปี มารดาชื่อ นางรมัย ณ นคร เกิด 22 ธ.ค.2482 อายุ 67 ปี ปัจจุบันป่วยเป็นอัมพฤกษ์

พื้นเพของนายชนาพัทธ์เป็นคนเมืองพระ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 1 ซ. ณ นคร ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สถานภาพ หม้าย มีบุตร 1 คนคือ ด.ช.สิรภพ ณ นคร เกิด 23 ธ.ค.2542 อายุ 7 ขวบ

นอกจากนายชนาพัทธ์จะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ http://www.thaimemberclub.com/ และ http://www.tmctoday.com แล้ว ณ เวลานี้ทั้ง 2 เว็บไซต์ดังกล่าวก็กำลังมีการเร่งรับสมัครสมาชิก อีกทั้งนัดแนะให้ประชาชนทั่วประเทศรวมพลังประท้วงรัฐบาลและ คมช.ในวันเสาร์ที่ 11 พ.ย.2549 ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป

ย้อนดูพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายชนาพัทธ์ จะพบว่า เขาได้เป็นแกนจัดการประชุมแถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2549 จากนั้นได้จัดประท้วงการทำงานของรัฐบาลและ คมช.ที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2549 มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน ขณะจะจัดประท้วงต่อในวันที่ 2 พ.ย.2549 ก็มีอันต้องยกเลิกกลางคัน เพราะนายวิเชียรผู้เป็นบิดาเสียชีวิตในวันนั้นเสียก่อนด้วยโรคเบาหวาน

หากมองความเชื่อมโยงกับกลุ่มก๊วนทางการเมืองของนายชนาพัทธ์ จะพบว่า นอกจากเขาจะได้เป็นอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นายพูลสวัสดิ์ มูลศาสตร์สาธร แล้ว ช่วงหลังๆ มานี้ก็ได้วนเวียนอยู่ในแวดวงการเมืองภายใต้ปีกโอบของพรรคไทยรักไทยอย่างอบอุ่น และเคยอยู่ในคณะทำงานสังกัดก๊วน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานในรัฐบาลทักษิณ 1 ด้วย

นายชนาพัทธ์พร้อมผู้ติดตาม 3 คน เดินทางกลับไปนครศรีธรรมราชช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศพบิดาเขาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ที่วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และพระราชทานเพลิงศพไปแล้ววานนี้ (9 พ.ย.) เวลานี้เขาจึงพร้อมที่จะกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสานภารกิจเป็นแกนนำประท้วงใหญ่รัฐบาลและ คมช.ต่อในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) ที่ท้องสนามหลวง

ความผูกพันกับระบอบทักษิณลึกซึ้ง ทำให้ช่วงที่ไปร่วมงานศพพ่อที่บ้านเกิดเขาก็ยังไม่ลดละการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยวันที่ 8 พ.ย.ได้เข้าร้องเรียนสร้างข่าวต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ว่า ตนถูกคนติดตามจากเจ้าหน้าที่รับหลายหน่วย และเกรงว่าจะถูกอุ้มหายตัวไปเหมือนทนายสมชาย นีละไพจิตร แถมยังเอาศพบิดามาอ้างด้วยว่าสาเหตุที่เสียชีวิตเพราะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นที่บ้าน ทำให้เกิดอาการช็อกตาย

สำหรับนายวิเชียรอดีตเคยรับราชการครูที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นวิทยาลัยครู โดยเป็นอาจารย์วิชาภาษาไทย มีความรู้หลากหลายเกี่ยวกับงานวิจัยและวิถีชีวิตของชุมชนใน จ.นครศรีธรรมราช จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีลูกศิษย์มากมาย เป็นบุคคลที่ตั้งมั่นอยู่ในความดี มีศีลธรรม ซึ่งเป็นภาพที่แผกแตกต่างกับบุตรชายยิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม การใช้นามแฝงว่า "เตมูจิน" หรือในภาษาอังกฤษคือ Temujin แปลความได้ว่า "ช่างตีเหล็ก" เป็นชื่อเดิมของ "เจ็งกิสข่าน (Genghis Khan)" จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของมองโกล ที่มาของชื่อนี้เป็นไปตามประเพณีของมองโกล กล่าวคือ ผู้เป็นบิดาที่เป็นหัวหน้าเผ่าในประเทศมองโกลเลีย เมื่อรบชนะและจับตัวหัวหน้าเผ่าอื่นมาฆ่าแล้ว เขาได้นำชื่อหัวหน้าเผ่าที่ถูกสังหารมาตั้งเป็นชื่อบุตรชายของตนเอง เพื่อถ่ายทอดความกล้าหาญและเข็มแข็งสู่คนรุ่นต่อไป

การใช้นามแฝงนี้น่าจะมีนัยยะที่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยแน่นอน เพราะนักประวัติศาสตร์ระดับโลกหลายคนชี้ว่า "เตมูจิน" หรือ "เจ็งกิสข่าน" แม้จะดูป่าเถื่อน แต่ก็ต้องถือว่ายิ่งใหญ่กว่า Alexander, Hannibal Caesar, Attila และ Napoleon ดังจะเห็นได้จากยุทธวิธีการทำสงครามที่ใช้ทหารม้าติดอาวุธธนู แล้วสั่งให้กองทัพม้าแสร้งทำเป็นแพ้ถอยหนี เพื่อให้ทหารข้าศึกไล่ตามอย่างไม่เป็นขบวน จากนั้นจะรวมตัวกันใหม่อย่างเป็นระเบียบเข้าโจมตีข้าศึกที่ไล่ตามมาจนแตกกระเจิง

ปฏิบัติการของ เตมูจิน ในฐานะแกนนำผู้รักษาระบอบประชาธิปไตยยิ่งชีพ พร้อมจะออกหน้าต่อต้านคณะทหารโดยไม่เกรงกลัว ถึงกับนัดหมายชุมนุมคนรอบแล้วรอบเล่า ทั้งวันที่ 1 พ.ย. และล่าสุด 11 พ.ย. 2549 อาจจะไม่สะดุดใจใครนักหากไม่มีการสืบค้นผลงานย้อนหลัง

ในห้วงที่พรรคไทยรักไทยถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุกไล่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ได้มีการจัดตั้งขบวนการลิ่วล้อเพื่อไปยื่นหนังสือ ไปเรียกร้อง และคัดค้านการดำเนินการของฝ่ายตรงกันข้ามอย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ที่ภายหลังเป็นผู้สมัครส.ส.ไทยรักไทย เขต 2 เชียงใหม่ ที่ไปยื่น กกต. ขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่าในช่วงเดียวกันนั้น นายชนาพัทธ์ ณ นคร หรือ เตมูจิน ก็เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องระบอบทักษิณในระนาบเดียวกันกับ สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล เช่นกัน อาทิเช่นการขอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นคู่แข่งของพรรคไทยรักไทยในเวลานั้น