xs
xsm
sm
md
lg

"คำนูณ"เล่านาทีหารือ"ธีรภัทร์" แฉ"ชิตณรงค์"เสนอเองปรับ"ถึงลูกถึงคน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"คำนูณ สิทธิสมาน"ในฐานะตัวแทน"สนธิ ลิ้มทองกุล"เล่าเหตุการณ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เชิญเข้าหารือปรับผังช่อง 9 ที่ทำเนียบ วางแนวทางให้รายการที่เคยถูกถอดอย่างไม่เป็นธรรมยุค"ทักษิณ"กลับมาอีกครั้ง ระบุ"ชิตณรงค์"เสนอเอง ให้ปรับ"ถึงลูกถึงคน" ดึง"สนธิ-เจิมศักดิ์-สมเกียรติ-สุทธิชัย" กลับมาสลับกันจัด

  คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการสภาท่าพระอาทิตย์ 

รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ออกอากาศทาง ASTV ช่อง NEWS1 เช้าวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2549 นายคำนูณ สิทธิสมาน และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สนทนากันถึงกรณีพนักงาน อสมท แต่งชุดดำประท้วงการปรับผังรายการโมเดิร์นไนน์ทีวี ภายใต้การบริหารงานบอร์ดชุดใหม่ที่มี นายพงษ์ศักดิ์ พยัคฆวิเชียร เป็นรักษาการประธานบอร์ด โดยช่วงหนึ่ง นายคำนูณได้เล่าถึงรายละเอียดการเข้าพบนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงการปรับผังรายการโมเดิร์นไนน์ทีวี

คำนูณ – เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันก็คือว่าคือเรื่องนี้นี่ ผมว่ามันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่พวกเราตำหนิ คมช. ตั้งแต่สมัยเป็น คปค. ว่าปฏิวัติทั้งทียึดอำนาจทั้งทีนี่ 3 5 7 9 11 และไอทีวีนี่ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีการชี้แจงถึงเหตุผลของการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่มีการชี้แจงถึงความชั่วความเลวของระบอบทักษิณ ถ้าขืนทำแบบนี้ไปนี่มันจะเสียการเมือง คุณสนธิก็พูด พวกเราก็พูดนะครับ แต่ทางรัฐบาลทาง คมช.เขาก็ติดขัดอะไรบางประการ จนกระทั่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี่ เขาก็คงเกิดความตกผลึกอะไรอย่างนี้ ที่อยากจะทำอะไรบางอย่างนะครับ อาจารย์ธีรภัทร เสรีรังสรรค์ นี่เขาก็เชิญจริงๆ เชิญคุณสนธิ เชิญค่ายเนชั่น คนที่ไปก็คือคุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เชิญอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง วันนี้อาจารย์เจิมศักดิ์ก็ไป เขาก็เชิญไปพบปะพูดคุยแบบไม่เป็นทางการ และก็เป็นการพบปะพูดคุยอย่างเปิดเผย

ปานเทพ – มีคนที่ อสมท.ไหมครับ

คำนูณ – ก็คุณชิตณรงค์ ซึ่งก่อนหน้าเป็นรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ คือพี่ชิตณรงค์ท่านเป็นรองกรรมการผู้จัดการอยู่นะครับ วันนั้นก็เชิญไปหลายกลุ่มก็นั่งรอกันอยู่หน้าห้องนี่ ผมปกตินี่ผมเข้าทำเนียบในรอบเป็น 10 ปี เพราะว่าไปแทนคุณสนธิวันนั้นคุณสนธิต้องขึ้นศาลนะครับ ก็รับทราบแต่เพียงเลาๆ ว่ามีดำริที่จะหารือถึงความเป็นไปได้ ที่จะให้ อสมทนี่เปิดทางให้ผู้ผลิตรายการเก่า ที่ถูกถอดรายการไปเพราะเหตุผลทางการเมืองในยามรัฐบาลทักษิณนี่ ได้มีโอกาสกลับมาใหม่

ปานเทพ – ย้ำอีกทีนะ เป็นรายการที่ถูกถอดไปในรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ว่าแทรกแซงสื่อนั่นแหละ

คำนูณ – ต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งเขาก็พิจารณาไว้นะ ก็มีรายการของคุณสุทธิชัย หยุ่น เนชั่นนิวส์ทอล์ก รายการของอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นี่ 2-3 รายการ ขอคิดด้วยคน และก็ลานบ้านลานเมือง รายการของอาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล และก็รายการล่าสุดของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล

ปานเทพ – เมืองไทยรายสัปดาห์

คำนูณ – ก็คือเขาก็ดำริอย่างนี้ แต่การดำริของเขานี่ไม่ใช่เป็นการลงไปแทรกแซงหรือลงไปสั่งการ บรรยากาศที่ผมพบในวันนั้นก็คืออาจารย์ธีรภัทร เสรีรังสรรค์นี่ ก็พูดบอกว่าที่เชิญมานี่ก็อยากจะหารือกันว่า จะทำยังไงให้ผู้ผลิตรายการเก่าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมนี่ ได้มีโอกาสกลับไปจัดรายการอีกครั้งหนึ่ง และก็รัฐบาลจะไม่เข้าไปยึ่งเกี่ยวให้สิทธิเสรีภาพเต็มที่ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นดำริของท่าน เป็นข้อเสนอของท่าน ก็อยากให้ทาง อสมท.นี่พิจารณาดูว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ท่านจะไม่ลงไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียด

ปานเทพ – ใช้คำนี้เลยนะ ใช้คำนี้เลย

คำนูณ – อันนี้พี่ชิตณรงค์เป็นพยานได้ คุณชิตณรงค์ก็เสนอขึ้นมาเลยบอกว่านี่ อาจจะมีการคุยกันมาก่อนบ้างแล้วนะครับ พี่ชิตณรงค์ท่านก็บอกว่ามันก็มีความเป็นไปได้ ตอนนี้นี่ที่สามารถทำได้ทันทีเลย ก็คือวันที่พบกันนั้นนี่จะตกประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนหรือปลายตุลาคม ก่อนวันประชุมบอร์ดครั้งที่แล้วซักวันนึงนะครับ พี่ชิตณรงค์นี่ท่านก็บอกว่าที่มีความเป็นไปได้เลย ก็คือทาง อสมท.นี่คิดอยู่ก่อนแล้วว่าจะปรับรายการถึงลูกถึงคน ของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา

ปานเทพ – คิดอยู่แล้วใช่ไหม

คำนูณ – คิดอยู่แล้วว่าจะปรับรายการถึงลูกถึงคนของคุณสรยุทธ คือในช่วง 23.00-00.00 หรือ 23.30-00.30 น.อะไรอย่างนี้นะครับ เพราะว่าด้วยเหตุผลหลายๆ ประการคือ 1. มันดึก และก็มันอาจจะไม่ฮ็อตเหมือนเก่า ท่านก็ไม่ได้พูดอย่างนั้นนี่ ฟังให้ดีๆ นะครับ ท่านก็บอกอย่างนั้นนะครับก็คือว่าคิดจะปรับอยู่แล้ว และก็อยากจะเปิดให้ช่วงเวลานั้นนี่ของทุกวันจันทร์-ศุกร์ นี่นะ ช่วง 23.00-00.00 นี่เป็นรายการทอล์กประเภทการบ้านการเมือง และถ้าจะเป็นไปได้นี่นะครับก็คือจะเชิญผู้จัดรายการเก่าที่ถูกถอดไปสมัยรัฐบาลทักษิณนี่ ทุกคนกลับมาจัดเท่าเทียมกันและก็ทำเป็นแพ็กเดียวกัน อาจจะชื่อเดียวกันด้วยซ้ำหรือจะคนละชื่ออะไรก็สุดแท้แต่ แต่ว่าจะนำไปหารือในบอร์ดคือในวันรุ่งขึ้นผมจำวันที่ไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่

ปานเทพ – นี่นำเสนอโดยคุณชิตณรงค์

คำนูณ – คุณชิตณรงค์นะครับ ก็อาจารย์ธีรภัทรก็คุยกันไปสนุกสนาน ก็บอกว่าอันนี้ก็เป็นเรื่องของทาง อสมท.จะไปจัดการกันเองก็แล้วกัน แต่ท่านก็ให้เป็นนโยบายไว้อย่างนี้นะครับ แล้วก็บรรยากาศในวันนั้นนี่ พี่ชิตณรงค์กับอาจารย์เจิมศักดิ์นี่ก็คุยกันสนุกสนาน เพราะว่าเคยทำงานร่วมกันมา ต้องเข้าใจว่าอาจารย์เจิมศักดิ์นี่เขาก็เป็นเสมือนคนเก่าของ อสมท.อยู่ด้วยคนหนึ่ง เพราะจัดรายการที่นั่นมาเป็น 10 ปี และก็มีความสัมพันธ์กับพนักงานในหลายระดับนะครับ มีความร่วมมือกัน กับพี่ชิตณรงค์กับอาจารย์เจิมศักดิ์นี่ก็ยังคุยกัน พี่ชิตณรงค์ก็บอกว่าเสนอไปไกลถึงขนาดว่าในช่วงที่จะมีรัฐธรรมนูญใหม่นะ ช่วงระดมความคิดเห็นประชาชนนี่ อาจารย์เรากลับมาทำกันอีกครั้งไหม แกยังนึกถึงบรรยากาศในช่วงธงเขียวธงเหลืองน่ะ ธงเขียวตอนช่วงรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีการจัด มีการเอารถถ่ายทอดออกไป อาจารย์จำวันสุดท้ายได้ไหมที่เชียงใหม่นะ ที่มีการเอาสีเขียวมาทาตัวอะไรต่ออะไรนี่ ทุกคนพูดคุยกันถึงบรรยากาศดีๆ

อาจารย์ธีรภัทรก็บอกว่าเรื่องรายการระดมความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่นี่เดี๋ยวค่อยว่ากัน พี่ชิตณรงค์กลับไปคิดดูก็แล้วกันว่าจะทำกันยังไง แต่ตอนนี้นี่ท่านเห็นเป็นความเห็นเฉพาะหน้าว่า ถ้ามันเปิดโอกาสให้ผู้จัดการเก่านี่เขาจัดรายการทอล์กประเภทการบ้านการเมืองนี่ ทำได้ทุกสัปดาห์นี่ โดยคุณสรยุทธก็ยังอยู่นะ ถึงลูกถึงคนก็ยังอยู่นะตอนช่วง 23.00-00.00 นะ มันก็จะดี เอาอย่างนี้ถ้าเป็นไปได้นี่นะ เราจะทำได้ไหมคือหลังรัฐบาลแถลงนโยบายนี่ ก็เปิดเลยคือเป็นผังชั่วคราว สุดท้ายแล้วผังถาวรหลังปีใหม่นั้นก็ไปว่ากันอีกทีนึงนะครับ แต่เรื่องนี้ก็คือเป็นเรื่องของ อสมท.นะ ไปจัดการกัน ท่านจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียด เรื่องก็มีอยู่แค่นี้

ถามว่ารัฐมนตรีธีรภัทร เสรีรังสรรค์ทำผิดไหม ไม่ผิด เพราะว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล อสมท. ทำไมต้องกำกับดูแล อสมท. ก็เพราะ อสมท.ไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือเป็นบริษัทมหาชนจำกัดก็ตามแต่ รัฐบาลยังถือหุ้นข้างมาก เขาก็ชอบที่จะกำกับดูแล และการกำกับดูแลของเขา เขาไม่ได้ลงไปสั่ง เขาเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมา และเรื่องมันก็มีอยู่แค่นั้นว่าพี่ชิตณรงค์รับว่าจะไปเสนอบอร์ดในวันประชุมวันรุ่งขึ้น

ปานเทพ – ที่จริงเป็นคนเสนอเองด้วยซ้ำไป

คำนูณ – ครับ และก็ที่พูดกันนะครับ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับรายการกบนอกกะลา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับรายการคุยคุ้ยข่าวเลย พี่ชิตณรงค์นี่ถึงกับพูดว่ารายการคุยคุ้ยข่าวนี่ไปเลิกเขาไม่ได้หรอก เพราะว่ามันทำรายได้ให้ อสมท.เดือนนึง 30 ล้านอะไรทำนองนี้นะ ผมอาจจะจำตัวเลขผิด ก็คือผมนี่ก็บอกว่าช่วงเวลาถึงลูกถึงคนมา 5 ทุ่มนี่นะ ผมไม่แน่ใจว่าคุณสนธิจะไปหรือเปล่านะเพราะมันดึกมาก อาจารย์เจิมศักดิ์ก็บอกว่าเอาให้มันเป็นซัก 4 ทุ่มได้ไหม พี่ชิตณรงค์แกก็บอกว่ามันไม่ได้เพราะว่ารายการนี่มันวางผังไว้หมดแล้ว ทุกอย่างมันวางผังไว้หมดแล้ว มีที่ทำได้ทันทีโดยไม่กระทบอะไรเลยนี่คือถึงลูกถึงคน ส่วนถ้าจะปรับผังใหม่ทั้งหมดนี่นะก็ไว้ปีหน้า เพราะว่าพี่เขาเพิ่งต่อสัญญามา พี่ชิตณรงค์ตอนที่รักษาการบอร์ดคงจะจำได้ใช่ไหม ว่ามีการต่อสัญญากับกลุ่มผู้จัดไปจนถึงสิ้นปี คือเรื่องมันก็มีแค่นี้ ทุกคนก็บอกว่า 5 ทุ่มก็ 5 ทุ่ม ทุกคนก็คุยกัน กินข้าวราดแกงง่ายๆอะไรกันเป็นธรรมดา

ก่อนผมไปคุณสนธิคุยกับผมบอกให้ไปฟังดู แต่คุณสนธิยืนยันอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม รายการเมืองไทยรายสัปดาห์จะต้องอยู่ที่ ASTV นี้ในเวลาเดิม คือ 19.30 -21.00 หรือ 22.00 น.ก็ว่ากันไป ถ้าเผื่อจะให้เมืองไทยรายสัปดาห์กลับไปจัดที่ อสมท. ช่อง 9 เหมือนเดิมนั้น ก็อยากจะให้เป็นการเกาะสัญญาณจาก ASTV ไป หรือถ้าเวลาไม่ได้กันจริงๆ นี่นะ คือไม่ได้ 2 ชั่วโมงจริงๆ นี่ก็คือจะเป็นไปได้ว่า ที่ อสมท.นี่จัดช่วงนึงชั่วโมงเดียว จากนั้นก็มาต่อที่ ASTV คือ ASTV ก็จะได้ดูเต็ม ที่ อสมท.ก็จะได้ดูเพียงชั่วโมงเดียว คุณสนธิก็ให้นโยบายไปอย่างนี้ แล้วก็บอกว่าถ้าดึกไม่เอาเพราะแกไม่ไหว ตอนที่ผมคุยมาในวันนั้นนี่ผมก็ยังบอกว่าในส่วนของคุณสนธินี่ ผมพูดตามตรงนะว่าผมไม่แน่ใจ คือผมก็มาฟังและรับว่าจะไปเรียนคุณสนธิ ปรึกษาหารือกัน แต่ว่าคุณสนธิเคยบอกว่าถ้า 5 ทุ่มนี่ไม่ไหวหรอก มันไม่มีใครดู มันพ้นเวลาไปแล้ว เพราะฉะนั้นยังไม่แน่ จะจัดหรือไม่จัดก็ไม่รู้ ยังไม่แน่นะครับ ก็เรื่องก็มีเพียงแค่นี้

แต่พอวันรุ่งขึ้นนี่พอมีประชุมบอร์ดจริงๆนี่ เรื่องนี้ไม่ได้มีการหยิบยกมาพิจารณาในบอร์ด แต่กลายเป็นเรื่องว่าบอร์ดท่านหนึ่งคืออาจารย์พงษ์ศักดิ์ พยัคฆวิเชียร นี่ไปรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำไมเป็นแบบนั้นนี่อันนี้ผมไม่ทราบ และจากนั้นนี่อาจารย์ป๋องนี่ท่านจะมีดำริว่าให้ อสมท.นี่มาทำข่าวการพูดของคุณสนธิในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ไปสรุปออก อสมท.อย่างไรหรือไม่อันนี้ผมไม่ทราบโดยส่วนตัว ผมไม่ได้เป็นผู้พูดคุยเอง แต่ว่าอาจจะใช่ก็ได้ซึ่งก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอาจารย์ป๋อง ในฐานะมองเห็นว่าสิ่งที่คุณสนธิพูดมันเป็นข่าวอย่างหนึ่งนะครับ

อันนี้เรื่องนี้ก็คือต้องรอฟังคุณสนธิวันศุกร์นี้ และก็รอฟังอาจารย์ป๋องชี้แจง แต่ในส่วนที่ผมเข้าไปพูดคุยและถูกพาดหัวว่าซุ่มจี๋จ๋าอะไรนี่นะ ว่านาย ค. ซึ่งคนอ่านแล้วเดี๋ยวจะเข้าใจเป็นนายอะไรอื่นๆ ไป ซึ่งไม่ดีนะครับ นายคำนูณนี่แหละก็เข้าไปพูดคุยนี่ก็มีแต่เพียงเท่านี้

ปานเทพ – และก็เปิดเผยในทำเนียบรัฐบาล

คำนูณ – คือทำเนียบรัฐบาลนี่มันเป็นอะไรที่แบบว่าคนเยอะไปหมด

ปานเทพ – คนก็เห็น เวลาขึ้นต้องมีการแลกบัตร ไม่ได้เป็นการซ่อนอะไรทั้งสิ้นเลย ที่สำคัญก็คือว่าผมว่าผมนี่ฟังจากปากคุณคำนูณในฐานะคนที่เป็นพยานนั่งฟังอยู่นี่ เราก็จะพอเห็นได้ชัดว่ารัฐมนตรีบอกว่าให้รักษาการกรรมการผู้อำนวยการลองไปคิดดู และท่านก็เป็นคนเสนอเอง

คำนูณ – ขอยืนยันนะครับ ถึงลูกถึงคน 5 ทุ่ม ไม่เกี่ยวกับคุยคุ้ยข่าว ไม่เกี่ยวกับกบนอกกะลา กบนอกกะลานี่ไม่มีเลย

ปานเทพ – แต่ผมนี่มาเห็นกบนอกกะลาตอนไหนรู้ไหม มาเห็นกบนอกกะลาครั้งแรกที่โพสต์ทูเดย์ คือเป็นฉบับเดียวมั้งที่พูดถึงกบนอกกะลาเหมือนกับว่าจะมีการถอดผังรายการนี้ออก

คำนูณ – คือพอเอ่ยกบนอกกะลาขึ้นมานี่ คนยอมรับว่ามันเป็นรายการที่ดี และมันก็ไม่มีเหตุผล คือผมว่าถ้ามีสติปัญญาสมบูรณ์นะ ใครที่เป็นผู้ใหญ่ที่ อสมท.และมีสติปัญญาสมบูรณ์นะ ไม่มีใครคิดถอดรายการกบนอกกะลาหรอก นี่ไม่ต้องพูดว่าใครเป็นคนจัดนะ ไม่ต้องพูดว่าบริษัทไหนนะ นี่พูดถึงรูปแบบรายการ

ปานเทพ – ฝีมือและความรู้ที่ให้กับประชาชน

คำนูณ – ถึงลูกถึงคนก็ไม่มีใครคิดถอดเพราะอะไร เพราะมันเมคมันนี่ แต่ว่าถึงลูกถึงคนนี่มันไม่ใช่ของผู้จัดนอก ถึงลูกถึงคนนี่มันเป็นรายการของ อสมท.โดยตรง โดยอสมท.จ้างสรยุทธมาเป็นพิธีกร จะมีแบ่งผลประโยชน์กันหรือเปล่านี่ผมไม่ทราบนะครับ แต่คุยคุ้ยข่าวนี่มันเป็นการเช่าเวลาของบริษัทไร่ส้มของคุณสรยุทธ อันนี้มันต่างกันนะ เพราะฉะนั้นที่พี่ชิตณรงค์เขาเสนอนี่ผมว่าก็เป็นทางออกที่ดี แม้ว่าทุกคนจะกล้ำกลืนฝืนว่ามัน 5 ทุ่มมันดึก

ปานเทพ – และยังไม่แน่นะว่าจะจัดหรือเปล่า

คำนูณ – ผมยังพูดกับคุณปานเทพเลยว่า ในฐานะที่ผมเป็นโปรดิวเซอร์รายการเมืองไทยรายสัปดห์นี่นะ และคุณสนธิจัดรายการทีวีนี่อย่างไรผมก็คงต้องไปดูนะ ผมบอกว่าถ้า 5 ทุ่มปกติ อสมท.มันเลตน่ะ ก็คง 5 ทุ่มครึ่ง กว่าจะเลิกนี่นะ กว่าจะได้กลับบ้านตี 1 ผมคงถึงบ้านตี 2 แล้วตื่นเช้ามาจัดรายการอีก ผมจะทำยังไงกันดีนะ ก็ยังมาคุยกันอย่างนี้เลย และคุณสนธิเองนี่ก็ยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะตอบรับหรือตอบปฏิเสธในเรื่องนี้อย่างชัดเจน ก็พวกเราเองนั่นแหละที่ไปกล่อมคุณสนธิ

ปานเทพ – พยายามบอกว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะ

คำนูณ – บอกว่าพี่ครับ เขาเสนอมาอย่างนี้ ถ้าเราไม่เอาเลยเดี๋ยวเขาก็หาว่าเล่นตัว เราไม่ให้ความร่วมมือ พี่ครับ ASTV เราก็ทำต่อไป อันนี้เราลองดีไซน์รายการใหม่ขึ้นมาไหม อย่างน้อยมันก็เป็นประโยชน์ในการพูดความจริงกับประชาชนที่เขาดูฟรีทีวีอีกส่วนหนึ่ง ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่สรุปเลย แต่กลายเป็นว่าพูดก็พูดเถอะนะ วันนี้ก็มีหนังสือพิมพ์เขียนถึงก็อยากจะพูดเสียเลยว่า คือหลังจากยึดอำนาจเสร็จมีคนมาเสนอคุณสนธิ ผู้หลักผู้ใหญ่เอ่ยชื่อคงจะไม่ได้ และก็ไม่จำเป็นจะต้องเอ่ยชื่อ แต่ทุกคนนี่ผมว่าคนที่รู้เรื่องวงในจริงๆ น่าจะยืนยันได้ว่ามีจริง คุณสนธิเป็นผู้อำนวยการ อสมท.ไหม เป็นกรรมการผู้จัดการ อสมท.ไหม คุณสนธิมาเป็นประธานบอร์ดไหม คุณสนธิบอกไม่เอาเด็ดขาด ผมลั่นวาจาไว้แล้วว่าผมไม่เอาอะไรทั้งสิ้น

ปานเทพ – ผมอยู่ด้วยที่ฮ่องกง

คำนูณ – ผมจะอยู่ที่ ASTV

ปานเทพ – โทรศัพท์มาเลยนะครับแต่ก็ไม่เอา คือรู้ผิดรู้ชอบและรู้ดีว่าควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร และที่สำคัญก็คือว่าพวกเรานี่แหละที่คอยกล่อมคุณสนธิ ว่าให้เวลามาแล้วนี่และเป็นเวลาที่มีโอกาสพูดกับคนเกือบทั้งประเทศในข้อมูลอีกด้านนึงนี่ ถ้าไม่เอาเสียนี่มันก็เหมือนกับเสียจังหวะที่พูดกับประชาชน ได้พูดกับ ASTV ก็คนกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าเจตนารมณ์ต้องการให้คนทั้งประเทศนั้นมีโอกาสรู้ข้อมูลกันหรือเปล่า

คำนูณ – ที่เล่ามาก็คือความจริงที่ไม่ได้เสกสรรปั้นแต่งแต่ประการใดเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น