xs
xsm
sm
md
lg

“ธีรภัทร์” ชนม็อบ อสมท - ยันตั้ง “เดอะป๋อง” หวังพัฒนาเป็นสื่อแท้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนัญญา ตั้งใจตรง (ซ้าย)
“ธีรภัทร์” ชนม็อบ อสมท ยันไม่เคยเอาการเมืองก้าวก่าย แจงตั้ง “พงษ์ศักดิ์” รักษาการ ปธ.บอร์ด หวังพัฒนาให้เป็นสื่อที่แท้จริง กรณีนั่งบอร์ดข้ามสื่อขัดธรรมาภิบาลหรือไม่ เจ้าตัวพิจารณาเองได้ ยอมรับเรียกผู้ผลิตรายการมาคุย แต่หารือเรื่องปรับปรุงรายการหลังเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เผย “นักข่าวสาว” รับไม่ได้ให้ไปทำข่าว “เมืองไทยรายสัปดาห์”

เวลา 15.00 น.วันนี้ (7 พ.ย.) นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวที่ห้องผู้สื่อข่าวหลังเก่า (รังเก่า) ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงกระแสที่พนักงาน อสมท ส่วนหนึ่งเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อกดดันให้มีการปรับเปลี่ยนบอร์ด อสมท และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลโดยอ้างว่าจะทำให้ อสมท กลับไปสู่แดนสนธยาอีกครั้ง หากมีการปรับผังรายการเพื่อให้ประโยชน์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกับสมาชิกสหภาพ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในเรื่องของผังรายการ อย่างไรก็ตามกรณีที่นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร เป็นรักษาการประธานบอร์ด อสมท นั้น ก็ถือว่า นายพงษ์ศักดิ์ เป็นสื่อมวลชนคนหนึ่งและเขาก็ต้องการเห็น อสมท พัฒนาให้เป็นสื่อที่แท้จริง ส่วนนักข่าวของ อสมท เองคงไม่ต้องการเห็นฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซง ตนจึงพยายามที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเกินความจำเป็น เพราะเราต้องการให้สื่อเป็นอิสระเหมือนที่แถลงนโยบาย

“ในเรื่องที่ข้อครหาว่ามีการเอื้อประโยชน์ใน อสมท ให้กับกลุ่มคนใดนั้น เรื่องนี้ผมคงไปการันตีไม่ได้ แต่ผมก็ได้ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ และตอนนี้ก็มีผู้ที่ร้องเรียนมายังผม เป็นลายลักษณ์อักษรว่ามีอะไรที่เกิดขึ้นใน อสมท และผมก็ยังก็จะส่งข้อร้องเรียนดังกล่าวไปที่บอร์ด อสมท เพื่อดำเนินการ” นายธีรภัทร์ กล่าว

นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ส่วนข้อครหาที่ว่ามีการนำบอร์ดในสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับหนึ่งมานั่ง ผอ.อสมท ถือว่าเป็นการขัดต่อจริยธรรมในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ความจริงแล้วตนมีความระมัดระวังในประเด็นนี้อย่างมาก ที่จะไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้น จะพิจารณาดูว่าบุคคลใดก็ตามที่มาดำรงตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นในบอร์ด อสมท หรือบอร์ดสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับนี้ ว่าจะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ โดยเฉพาะจะดูว่าขัดกันหรือไม่ระหว่างสื่อหนึ่งกับสื่อหนึ่ง ดังนั้น ในเรื่องของนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ตนจึงไม่อยากให้ความเห็นอะไร ซึ่งในแวดวงนี้ต้องพูดถึงเรื่องของความเหมาะสมมากกว่า และตนก็เชื่อว่า ผู้ที่มีส่วนในเรื่องนี้น่าจะพิจารณาตัวเองได้ ซึ่งตนขอเสนอว่าผู้ที่มีความรอบรู้ และเห็นว่า เรื่องนี้เป็นการขัดต่อบทบัญญัติอะไรก็ขอให้เขียนเป็นบทความเสนอเข้ามา สรุปแล้วอยากให้มีคนส่งบทความมาที่ตน และบอร์ดของ อสมท ก็ควรจะรีบพิจารณาแต่งตั้ง ผอ.อสมท ตัวจริงโดยเร็ว และสัปดาห์หน้าตนก็จะเข้าไปให้นโยบายกับบอร์ด อสมท

นายธีรภัทร์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า เขาได้เชิญผู้ผลิตรายการต่างๆ เข้าพบ เพื่อจัดสรรผังรายการของ อสมท ครั้งใหม่ ว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามจากบอร์ดว่ามีความชัดเจนอย่างเดียว ตรงนี้ถ้าบอกว่าตนไม่ทำก็เหมือนกับว่าตนไม่ทำอะไรเลย แต่ถ้าทำอะไรมาไปก็จะเป็นเหมือนการเข้าไปสั่งหรือแทรกแซง แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการปรึกษาหารือกัน ต้องเข้าใจว่าก่อนที่จะมีบอร์ด อสมท ประชาชนก็เห็นว่า ตั้งแต่มีการเปลี่ยนรัฐบาลก็ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรืออธิบายให้ประชาชนรับทราบ และสื่อก็พยายามสะท้อนความอึดอัด และเราก็ได้ปรึกษากันว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร เพื่อสะท้อนและเป็นการสร้างคุณภาพอย่างรอบด้าน โดยไม่ได้เข้าไปสั่งแต่เป็นการเข้าไปพัฒนารายการให้ดีขึ้น และหลังจากมีการแต่งตั้งบอร์ด ก็เป็นหน้าที่ของบอร์ดที่เข้าไปดูแล

ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น อสมท มีราคาดิ่งลงหลังจากที่มีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นนั้น นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อาจจะมีขึ้นมีลงได้ เชื่อว่า ทางผู้ที่เกี่ยวข้องก็คงจะไปดูว่าเกิดปัญหาอะไร หรือสะท้อนกับอะไร รวมทั้งหาแนวทางในการแก้ไข ส่วนจะเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นนักลงทุนหรือไม่ตนตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่กำกับดูแลก็จะนำมาพิจารณาเท่าที่มีข้อมูล อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็จะต้องขึ้นอยู่กับเวลาในการดำเนินการของบอร์ดชุดใหม่ว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด ซึ่งตนต้องการเห็นทุกฝ่ายเข้ามาร่วมงานกันอย่างสร้างสรรค์ เพราะ อสมท ถือเป็นสถาบันทางสื่อมวลชนของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างนั้นนางสาวอนันญา ตั้งใจตรง ผู้สื่อข่าวโมเดิร์นไนน์ทีวีประจำทำเนียบรัฐบาล ได้พูดขึ้นมาว่า ขอทราบความชัดเจนกรณีที่ผู้สื่อข่าวของ อสมท ได้รับคำสั่งให้ไปทำข่าวรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สถานีเอเอสทีวี มานำเสนอออกทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ที่ผ่านมา อสมท ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำข่าวดังกล่าวจนถึงขั้นต้องไปซื้อจานดาวเทียมของเอเอสทีวีมาเพื่อรายงานข่าวดังกล่าว รวมทั้งยังต้องจัดสรรเวลาเพื่อมานำเสนอรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่นายสนธิพูด ในระยะเวลา 30 นาที รวมทั้งในเรื่องของการแถลงนโยบายรัฐบาลที่มีการอ้างคำสั่งของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่กำกับดูแล โดยระบุว่านายธีรภัทร์ ทราบคำสั่งดังกล่าวนี้หรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ตนจะขอรับบางประเด็นไปดู เพราะเป็นสิ่งที่ตนต้องรับผิดชอบ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องของความใหม่

นอกจากนั้น นางสาวอนัญญา ยังระบุขึ้นมาว่าพนักงาน อสมท เกิดความคับข้องใจในคำสั่งนี้ ที่ว่า ขอให้รีบไปทำเสมือนกับว่านักข่าวควรไปคิดมาเอง เหมือนกับว่านี่หรือคือวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร อสมท เพราะโดยปกติผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบกับคำสั่งนั้นๆ นี่คือเรื่องที่พนักงาน อสมท ค่อนข้างรับไม่ได้ ในลักษณะวิธีการสั่งงานอย่างนี้ ซึ่ง นายธีรภัทร์ ตอบเพียงว่า ตนไม่ทราบ และทางสหภาพ อสมท ก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้มายังตน

สำหรับกรณีที่มีข่าวออกจากบอร์ด อสมท ว่า จะมีการเปลี่ยนสโลแกนจากสังคมอุดมปัญญามาเป็นสัมมาปัญญานั้น นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ไม่ทราบเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น