xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” คาใจคนสนิท “ป๋าเปรม” หิ้ว “หญิงอ้อ” เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ยอมรับ คมช.ไม่รู้เรื่อง “หญิงอ้อ” ดอดเข้าพบ “ป๋าเปรม” เชื่อมั่นไม่น่ามีอะไรมากไปกว่าความปรารถนาดี เผย คมช.อ่อนงานประชาสัมพันธ์ สั่งคณะทำงานแจงข้อเท็จจริงการทำงานต่อสังคม พร้อมไฟเขียวยกฟ้องคดีคาร์บอมบ์-ตากใบ เร็วๆ นี้

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.อู้ด เบื้องบน นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นำคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าพบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ที่ผ่านมา ว่า ทาง คมช.ไม่ทราบมาก่อน ไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าจะมีการนำคุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรม ซึ่งไม่น่าจะมีอะไรลึกๆ อย่างที่สื่อมวลชนเข้าใจกันน่าจะเป็นความปรารถนาดีมากกว่า อย่างไรก็ตาม การที่ คุณหญิงพจมาน เข้าพบพล.อ.เปรม ไม่ได้กระทบต่อการทำงานของ คมช.เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของคนไทยที่อาจจะไม่สบายใจกับการเข้าพบ พล.อ.เปรม

เมื่อถามว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มสับสนในการทำงานของ คมช.พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เราพยายามที่จะตั้งรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเรายอมรับว่า เราล้าหลัง งานไม่ก้าวหน้า โดยเฉพาะงานด้านการประชาสัมพันธ์ ที่ต้องเร่งแก้ไขว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจถึงการทำงานของ คมช.เป็นหลักว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ซึ่งทาง คมช.ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาเราทำอะไรไปมากมาย แต่ไม่ได้บอกให้ประชาชนรู้จึงเกิดข้อสงสัยว่า คมช.ทำอะไรกันอยู่ซึ่งจริงๆ แล้ว เราทำงานกันตลอดไม่เคยหยุดเลย เพราะถือว่าเรามีเวลาไม่มากที่จะต้องเร่งนำพาประเทศชาติกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือการเร่งสรรหาสมัชชาประชาชนเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อจะได้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ทาง คมช.ก็จะได้พ้นสภาพไป

เมื่อถามว่า ประชาชนต้องการฟังคำชี้แจงถึงสาเหตุการปฏิวัติของ คมช.พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เหตุผลการทำปฏิวัติเราได้ชี้แจงไปหมดแล้ว จากแถลงการณ์ทั้ง 4 ประการของ คปค.โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ได้มีการตรวจสอบและตั้งทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการไปแล้วแต่ขาดการชี้แจง ดังนั้น ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะต้องมีการชี้แจงถึงผลการดำเนินงานให้สังคมได้รับรู้ว่าได้ทำอะไรคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเราเองก็เป็นห่วงเกรงว่าสังคมจะไม่เข้าใจ ทั้งนี้ คณะทำงานที่คมช.แต่งตั้งไปทำงานต้องมารายงานความคืบหน้าให้ คมช.ได้รับทราบด้วยหรือตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อชี้แจงผลงานต่อประชาชนต่อสังคมต่อไป

เมื่อถามว่า ในสัปดาห์หน้าทาง คมช.จะประชุมเพื่อสรุปสำนวนคดีต่างๆ ที่ยังค้างในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ที่ประชุม คมช.ได้หารือ และได้ข้อสรุปในเบื้องต้นไปบ้างแล้วถึงแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับคดีที่ยังคั่งค้างอยู่ อาทิ คดีตากใบ ซึ่งมีผู้ต้องหาอยู่ 58 ราย คดีลอบสังหารนายกรัฐมนตรี (คาร์บอมบ์) ที่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และคดีหายตัวของนายสมชาย นีละไพจิตร เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมาก ทั้งนี้ ทาง คมช.ได้เชิญเจ้าหน้าที่จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) กระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจงถึงแนวทางการคลี่คลายคดีต่างๆ เหล่านี้โดยเร็ว

“คมช.ต้องการเร่งรัดในแต่ละเรื่องเพราะปรากฏว่าที่ผ่านมามีนัยยะอะไรอยู่เป็นที่ต้องสงสัยของสังคม ดังนั้น ผมอยากขอเวลาที่จะบอกสังคมบ้างว่า คมช.ทำอะไรไปบ้าง เพราะคดีต่างๆไม่ทำไม่ได้ ซึ่งได้ให้นโยบายไปว่า เราต้องดำเนินการให้เป็นไปตามเนื้อผ้า อย่ากลั่นแกล้งขอให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งในบางคดีขอร้องให้ดูดีๆ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ของคนไทยในชาติจริงๆ” พล.อ.สนธิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะเสนอสำนวนทั้งหมดต่อ คมช.ในวันที่ 31 ต.ค.2549 ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า สำนวนที่จะยื่นฟ้องต่อนายทหารหรือบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องอาจยกฟ้อง ทั้งหมดเนื่องจากพยานแวดล้อมไม่เพียงพอ และไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่ามีการวางแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ จริงจากสำนวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ แต่อาจมีนายทหารบางรายที่ได้รับโทษจากกรณีที่มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองเท่านั้นซึ่งไม่ใช่โทษหนักอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับคดีตากใบที่มีผู้ต้องหา 58 รายนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้ได้สรุปสำนวนไปบ้างแล้วโดยพิจารณาจากคดีเบาๆ ไปหาหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเป็นไปได้ว่า จะถอนฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในที่สุด ส่วนคดีการหายตัวของนายสมชาย นีละไพจิตร นั้นทางเจ้าหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษจะรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม คมช.อย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่ 31 ต.ค.2549 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น