ในการปรับคณะรัฐมนตรี "ทักษิณ 2/2" ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 มีรายชื่อ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) แทรกเข้ามาในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เจ้ากระทรวงที่ต้องรับภาระอันหนักหน่วงในการแก้ปัญหาทางด้านการปกครองของชาติ โดยเฉพาะ 'ปัญหาไฟใต้' ที่กำลังแบ่งแยกประเทศไทย
ในเวลานั้นการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง มท.1 ของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ นายทหารอากาศ ที่ตัดสินใจลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุเพื่อกระโดดสู่แวดวงการเมืองเป็นที่กังขาของสาธารณชนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นที่มา รวมถึงความเหมาะสม-คุณสมบัติในตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากนายทหารผู้นี้ไม่เคยประสบการณ์กับงานทางด้านมหาดไทยมาก่อนแม้แต่น้อย
กระนั้นทุกคนต่างก็ต้องร้อง "อ๋อ!!!" เมื่อทราบที่มาที่ไปของคนผู้นี้
พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา เกิดเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2488 เป็นชาว อ.หนองแค จ.สระบุรี ไต่เต้ามาจากโรงเรียนจ่าอากาศ จนกระทั่งได้เข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร จบการศึกษาโรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 12, โรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 38, โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 26, วิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 25, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 39
เคยรับตำแหน่งหน้าที่ราชการสำคัญๆ เช่นผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ, เสนาธิการโรงเรียนการบิน, รองผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน, รองเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ, ผู้ช่วยเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหาร, เสนาธิการกองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศฝ่ายยุทธบริการ
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ตุลาการทหารสูงสุด, ประธานกรรมการ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย, กรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน), ประธานกรรมการบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ส่งให้ พล.อ.อ.คงศักดิ์ ก้าวขึ้นถึงตำแหน่ง มท.1 ได้ไม่ใช่ประสบการณ์และตำแหน่งหน้าที่การงานที่ผ่านๆ มา แต่เป็นคุณสมบัติส่วนตัวคือ ตำแหน่งสามีของ สลิลลาวัลย์ วันทนา (ศิริวงศ์ ณ อยุธยา)!
เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีของทักษิณนั้นได้รับฉายาว่าเป็น 'ครม.พวกพ้อง-ครม.เครือญาติ' มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น นายทนง พิทยะ น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นต้น
"ลูกน้ำ" สลิลลาวัลย์ ภรรยาของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ เป็นทั้งเพื่อนและเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร สตรีผู้อยู่เบื้องหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และจุดนี้นี่เองที่ทำให้พล.อ.อ.คงศักดิ์ เปรียบเสมือนคนใกล้ชิดเจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้าไปโดยปริยาย แม้ไม่ใช่ญาติ ก็เหมือนญาติ และเป็นคำตอบว่าเพราะเหตุใด พล.อ.อ.คงศักดิ์ จึงยินดีอำลาเก้าอี้ ผบ.ทอ. ก่อนเกษียณอายุ
หลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง มท.1 ได้ไม่นานสามีของ "คุณลูกน้ำ" ก็ไม่ทำให้ใครต่อใครผิดหวัง ... เมื่อเขาเสนอแนวคิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาไฟใต้คือ "แนวคิด 1 ทีวี 1 หมู่บ้าน" หรือการติดตั้งโทรทัศน์พร้อมยูบีซี เพื่อถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรป โดยมุ่งหวังว่าการติดตั้งโทรทัศน์พร้อมยูบีซีจะช่วยดึงดูดเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มาสนใจกีฬาฟุตบอล และช่วยลดปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ได้!?!
เดชะบุญที่ไอเดียของ รมต.มือใหม่หัดขับผู้นี้ไม่ถูกนำมาปฏิบัติ เพราะแม้แต่เด็กอมมือก็รู้ว่า การติดโทรทัศน์พร้อมยูบีซีเพื่อถ่ายทอดฟุตบอลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เพียงไม่สามารถแก้ปัญหาไฟใต้ให้คลี่คลายไปได้ แต่ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาพนันบอลเพิ่มขึ้นมาซ้ำเติมอีก
หลังจากนั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ ก็แสดงความ 'ไม่สมาร์ท-ไม่สง่า' อันผิดแผกจากนายทหารอากาศทั่วไปออกมาอย่างต่อเนื่อง การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่ละครั้งก็ไม่ได้แสดงถึงความเป็นผู้มีภูมิแต่อย่างใด อย่างเช่น ในช่วงปลายปี 2548 ระหว่างที่ชาวใต้กำลังประสบกับปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก พล.อ.อ.คงศักดิ์กลับออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จำเป็นต้องลงไปตรวจราชการที่ภาคใต้ เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่ากับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ!?!
การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงแนวทาง "ภูมิภาค" นิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ที่กำลังถูกโจมตีอย่างหนักจากบรรดาสื่อมวลชน นักวิชาการและประชาชนในสังคมอย่างรุนแรงในเวลานั้น
ไม่เพียงแต่ปัญหาความขาดภูมิของ อดีต มท.1 ผู้นี้เท่านั้นที่เป็นที่ขบขัน และคลางแคลงของสังคม แต่เมื่อย้อนกลับไประหว่างที่เขายังดำรงตำแหน่ง ผบ.ทอ. บุคคลผู้นี้ยังมีส่วนสำคัญกับกรณีการเสนอเรื่องเพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ SU–30 MK ของกองทัพอากาศจากประเทศรัสเซีย ซึ่งถูก นายสนธิ ลิ้มทองกุล นำมาเปิดโปงในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจรฯ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 และ เซี่ยงเส้าหลง คอลัมน์นิสต์แห่งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการนำมาแจกแจงซ้ำในคอลัมน์ "พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา พฤติกรรมที่เป็น ‘ความผิดสำเร็จ’ ตามกฎหมายอย่างน้อย 2 ฉบับ !" ช่วงปลายปี 2548
ทั้งนี้นายสนธิ และเซี่ยงเส้าหลงชี้ให้เห็นว่า ในกรณีนี้ พล.อ.อ.คงศักดิ์ ในฐานะ ผบ.ทอ. ที่ปฏิบัติตามใบสั่งของฝ่ายบริหาร นอกจากจะพยายามชงเรื่องสั่งซื้อฝูงบินที่ไม่เป็นที่ต้องการของกองทัพอากาศ ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ และทำผิดสัญญากับบริษัทเอกชนที่เป็นนายหน้าแล้ว ราคาที่ซื้อนั้นก็ส่อว่าอาจจะมีการคอร์รัปชันงบประมาณแผ่นดินกันเป็นจำนวนเงินมหาศาล มากกว่า 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว!!!
และก็เป็นดังที่เซี่ยงเส้าหลงกล่าวคือ ในกรณีนี้ พล.อ.อ.คงศักดิ์ ได้ทำผิดกฎหมายไปแล้วอย่างน้อยๆ สองฉบับเลยทีเดียว!
ความไร้ภูมิและชนักที่ติดหลัง พล.อ.อ.คงศักดิ์ เหล่านี้แม้จะไม่ได้ถีบให้เขาหลุดออกจากตำแหน่ง มท.1 อย่างทันทีทันใด ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนค่อนข้างจะสงบปากสงบคำ ประกอบกับการเป็น รมต. อันมีที่มาจากกำลังภายในของ 'นายหญิง' ทำให้เขายังสามารถยึดตำแหน่ง มท.1 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จนกระทั่งวันรัฐประหาร 19 ก.ย.
ว่ากันว่า ก่อนหน้านั้น 'ลูกน้ำและสามี' ถูก 'นายหญิง' โจมตีอย่างหนักว่า "เป็นตัวถ่วงของพรรค และคณะรัฐมนตรี" ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุยึดอำนาจรัฐประหาร สามี-ภรรยา คู่นี้จึงได้ทีเก็บตัวเงียบอยู่ที่คฤหาสน์หรูย่านดอนเมืองที่ว่ากันว่าสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรง และน้ำเงินของบรรดาบริษัทเอกชนที่วิ่งเข้าไปติดต่องานกับกองทัพอากาศและกระทรวงมหาดไทย ระหว่างที่ตัวสามีดำรงตำแหน่งใหญ่โตอยู่
ร่ำลือกันว่าคฤหาสน์ราคากว่า 80 ล้านบาทหลังนี้ก็เป็นหลังเดียวกันกับที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ากำลังช่วยลูก "ผ่อนบ้าน" อยู่!?!