xs
xsm
sm
md
lg

พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา - ผกก.หัวหน้ากุ๊ย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เปิดฉากหลัง 'โอ๋สืบ 6' ผู้สั่งการ '3กุ๊ย' ล็อกคอชายชรากลุ่มไล่ 'แม้ว' หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยสัมพันธ์ใกล้ชิด 'เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์' หนุนส่งจนได้ดิบได้ดี จาก ผกก.สภอ.สูงเนิน เข้ามาเป็น 'ผกก.สส.น.6' ระบุขณะกินตำแหน่งที่โคราช เป็นนายตำรวจจอมสร้างภาพ ขยันแถลงข่าว แถมเชี่ยวชาญกลยุทธ์มัดใจสื่อมวลชน

พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา ผู้กำกับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 (ผกก.สส.บก.น. 6) หรือ “เดอะโอ๋” ของผองเพื่อนกลายเป็นนายตำรวจที่ถูกตั้งคำถามจากสังคมมากที่สุดในขณะนี้ หลังจากโทรทัศน์เผยแพร่ภาพเหตุการณ์กลุ่มอันธพาลจัดตั้งรุมสกรัมประชาชน โดยมี “ผู้กำกับโอ๋” คนนี้คอยยืนสั่งการในที่เกิดเหตุและพูดคุยสนิทสนมกับชายฉกรรจ์-อดีตนักโทษ อย่างน้อย 2 คน ที่เข้าล็อกคอ กระชาก ทุบ ชกต่อยทำร้ายประชาชนอย่างป่าเถื่อนและไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา

คลิก!ชมภาพ-ฟังเสียง ผู้กำกับสืบ น.6 สั่ง 2 กุ๊ยล็อกคอคนชรา หน้าเซ็นทรัลเวิลด์(56k) | (256K)

พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ นักเรียนนายร้อยตำรวจ น.บ.,รบ.รุ่น 15 เข้าฝึกในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2528 โดยมี ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ เป็นประธานรุ่น ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นนายตำรวจดาวรุ่งของรุ่นอีกคนที่ได้ดิบได้ดี เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ เช่น พ.ต.อ.จำนงค์ รัตนกุล รองผบก.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ รองผบก.ทพ., พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล ผกก.บก.จราจร และ ตัวเขาที่ดำรงตำแหน่ง “ผกก.สส.บก.น. 6”

ในวงการรู้กันดีว่า พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เป็นนายตำรวจในสายของ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ อดีต รอง ผบ.ตร. และเคยมาดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่โคราช ซึ่งได้ติดสอยห้อยตามกันมาตลอดจนถูกมองว่าได้ดีเพราะเดินตาม “นาย” โดย พล.ต.อ.บุญเพ็ญนั้นเพิ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อ เดือนตุลาคม 2548 ที่ผ่านมา

ในอีกด้านหนึ่ง “ผู้กำกับโอ๋” หรือ “โอ๋ สืบ 6” ยังมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ที่ว่ากันว่ามีส่วนอย่างมากกับการผลักดันหนุนส่งสู่ตำแหน่ง ผกก.สส.บก.น.6

โดยเดิมที พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ รับตำแหน่งผู้กำกับ อยู่ที่ สภ.อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระหว่างปี 2546-2547 จัดได้ว่าเป็น “ผู้กำกับ” ที่เล่นได้ทั้งบทบู๊และบุ๋น และขยันสร้างภาพเป็นจอมแถลงข่าวตัวยงไม่ว่าคดีเล็กน้อยหรือคดีใหญ่เขาจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมมีวิธีดึงดูดนักข่าวหลายรูปแบบนับตั้งแต่ เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างเต็มที่ ให้คูปองเติมน้ำมันรถยนต์ ไปจนถึงซองปัจจัยและอื่นๆ

ในคราวดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.สูงเนิน เห็นทีจะเป็นเพราะ ผลงานโดดเด่นด้านปราบปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดในยุค “ฆ่าตัดตอน” ของรัฐบาลทักษิณ ที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก ประกอบกับการยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติดต่างๆ เช่น กรณียึดทรัพย์ขายทอดตลาดรายใหญ่ของเครือข่าย “สุภาพ สีแดง"หรือ “ภาพ 70 ไร่” ที่พี่ชาย คือ “สมนึก สีแดง” ขนเงินมาสร้างคฤหาสน์สุดหรูกลางฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่กว่า 92 ไร่ ในเขตรอยต่อ อ.สูงเนิน-ปักธงชัย จึงได้ส่งอานิสงส์ให้เขามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการกระโดดข้ามไปรับตำแหน่ง ผกก.สส.บก.น. 6 ในปี 2548

ด้านสายสัมพันธ์ทางครอบครัว ซึ่งมีส่วนสำคัญผลักดันหนุนเสริมต่อตำแหน่งหน้าที่การงาน นั้น พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ แม้พื้นเพเป็นคนเพชรบูรณ์แต่เป็น “เขยโคราช” ของจริง โดยพ่อตา-แม่ยายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนโตแห่งเมืองย่าโม ผูกขาดยึดครองเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หลายสมัย คือ “นายบวร ศรีวิไลลักษณ์” อดีตนายกเทศมนตรีฯ 2 สมัย ระหว่าง 9 ก.พ. 2539-25 มิ.ย.2539, 24 ต.ค. 2540-9 ก.พ. 2543 และแม่ยาย คือ “นางชูศรี ศรีวิไลลักษณ์” อดีตนายกเทศมนตรีฯ ระหว่าง 25 ก.ย. 2535- 8 ก.พ. 2539

หากจำกันได้ ในยุคที่กลุ่มนายบวร บริหารเทศบาลฯ นั้นเป็นช่วงการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ระยะ ที่ 1 (ปี 2540-2545) มูลค่า 580 ล้านบาท อันอื้อฉาว ของเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นนวัตกรรมโคตรโกงต่อเนื่องจากโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน 2 หมื่นล้าน จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียโคราชระยะ ที่ 1 ก็คือบริษัทเดียวกับที่ได้รับประมูลก่อสร้างระยะที่ 2 มูลค่า 748 ล้านบาท ที่กำลังเร่งก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ (2548-2551) คือ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้บริหารขณะนั้นคือ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่สำคัญของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองใหญ่เมืองโคราชแห่งพรรคชาติพัฒนา และนายสุวัจน์ เป็นคนผลักดันงบประมาณโครงการดังกล่าวลงมาด้วยตัวเอง เรียกได้ว่า “ชงเองกินเอง” ผ่านทาง“นอมินี” ชิโน-ไทยฯ

ก่อนที่ต่อมา นายอนุทิน จะแยกตัวออกมาเล่นการเมืองเอง ในพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่ประกาศว่าจะ “ยึดโคราชเป็นเรือนตาย” ได้กลับคำยุบทิ้งพรรคชาติพัฒนามารวมกับพรรคไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในที่สุด

... ตลอดระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าสายสัมพันธ์ของคนในระบอบทักษิณนั้นทับไป-ซ้อนมา จนกลายเป็นเครือข่ายอันใหญ่โต และซึมลึกคอยกัดกร่อนสังคมไทยให้อ่อนแอมาตลอด

สำหรับข่าวคราวล่าสุดของ “โอ๋ สืบ 6” นั้น ล่าสุดในวันปิยะมหาราช 23 ต.ค. ระหว่างการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)-สารวัตร (สว.) ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล แม้ พ.ต.อ.ฤทธิณรงค์ แห่ง สส.บก.น.6 จะยังมีชนักติดหลังคือ การอาสารับใช้ระบอบทักษิณ สั่งชายฉกรรจ์ร่วมกันก่อเหตุรุมกระทืบประชาชน จนถูกตั้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องอยู่ระหว่างส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา แต่ พ.ต.อ.ฤทธิณรงค์ ก็ยังแสดงความ “หน้าด้าน” ด้วยความพยายามวิ่งเต้น เพื่อจะขอขึ้นตำแหน่ง รองผู้บังคับการ!

แม้คราวนี้ “ผู้กำกับโอ๋” จะไม่สมหวังแต่หาก “ระบอบทักษิณ” หวนคืนมาเมื่อใดรับรองได้ว่า “ผู้กำกับโอ๋” นอกจากจะไม่ถูกลงโทษแล้ว คงจะได้บำเหน็จรางวัลอย่างงาม และได้ติดยศนายพลอย่างแน่นอน




กำลังโหลดความคิดเห็น