ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในฐานที่ค้ำยันอำนาจของคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เข้มแข็งที่สุดก็คือ 'ฐานอำนาจทางทหาร' โดยเฉพาะเหล่าเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่างก็ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานกันยกแผง
ทั้งนี้ในบรรดาทหาร ตท.10 ที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นประกอบไปด้วย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รองเสธ.ทหาร, พล.ท.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล แม่ทัพน้อยที่ 1, พล.ร.ท.วัลลภ เกิดผล รอง เสธ.ทร., พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสธ.ทอ., พล.อ.ท.สุเมธ โพธิ์มณี ผบ.อากาศโยธิน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1 รอ.

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินการรายการเมืองไทยรายสัปดาห์และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประกาศชนกับระบอบทักษิณอย่างเต็มตัวได้ราว 2 เดือนกว่าๆ และสถานการณ์ทางการเมืองกำลังคุกรุ่นจากการที่นายสนธิได้เปิดเผยเรื่องความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลออกมาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.พฤณฑ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) จึงได้ออกมาประกาศลั่นว่า ตนพร้อมจะเข้าพบนายสนธิที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยอ้างว่าเป็นการเรียกร้องไม่ให้นายสนธินำสถาบันเบื้องสูงมากล่าวโยงเป็นความขัดแย้งกับรัฐบาล
โดย พล.ต.พฤณฑ์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้นี้กล่าวว่า "ถ้าผมไม่ทำลูกน้องก็ไม่รัก" พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ขู่ด้วยว่า ในวันพุธที่ 16 พ.ย. ตนจะไปที่บ้านพระอาทิตย์พร้อมกับผู้บังคับหน่วยทหารรักษาพระองค์ทั้งหมด
ทว่าเมื่อถึงเวลา 10.00น. ของวันถัดมาตามเวลานัด ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลนั่งรอพบกับ พล.ต.พฤณฑ์อยู่ที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณผู้นี้กลับไม่ปรากฎตัวตามคำที่ลั่นไว้ เพียงแต่ส่งนายทหารนำหนังสือหัวตราครุฑ ที่ กห.0481.1/3307 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 เรื่อง ขอให้งดเว้นการกล่าวอ้างพาดพิงสถาบันเบื้องสูงมายื่นเท่านั้น
พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต หรือที่เพื่อนๆ ตท.10 เรียกในชื่อเล่นว่า "โอ๋" เกิด วันที่ 24 เม.ย. 2495 ชื่อในหนังสือทำเนียบรุ่นคือ พฤกษ์ สุวรรณทัต ระบุเลขประจำตัว 8435 เป็นบุตรของ พล.อ.ทวนทอง สุวรรณทัต อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นนายทหารที่มีความใกล้ชิดพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก
ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นนายพลคุม 1 ใน 3 กำลังพลหลักที่กุมยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถจะชี้เป็นชี้ตายความสำเร็จและความล้มเหลวของการปฏิวัติรัฐประหารได้นั้น พล.ต.พฤณฑ์ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, เสนาธิการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, รองผู้การกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, เสนาธิการกองพลที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, ผู้การกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11, ขึ้นเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 และมารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ในช่วงของการโยกย้ายปี 2546 สมัยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น ผบ.ทบ.
สำหรับเบื้องหลังการขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. ของ พล.ต.พฤณฑ์ นั้น 'เสธ.แดง' หรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบกเคยเปิดเผยไว้ว่า
"พล.ต.พฤณฑ์ ถือเป็นนายทหารที่ได้ดิบได้ดีเพราะการเมือง เนื่องจากเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตามปกติ พล.ต.พฤณฑ์ จะต้องขยับไปนั่งตำแหน่งรองแม่ทัพ โดย พล.ต.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จะมานั่งตำแหน่งดังกล่าวแต่ พล.ต.พฤณฑ์ ไม่ยอมขยับ และขออยู่ในตำแหน่งดังกล่าว เพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ"
ขณะที่คำบอกเล่าจากปากของนายทหาร ตท.10 ผู้หนึ่งระบุว่า ปัจจุบันพล.ต.พฤณฑ์ มีตำแหน่งเป็นกรรมการเตรียมทหารรุ่น 10 ซึ่งมี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รองเสธ.ทหาร เป็นประธานรุ่น โดยทหารรุ่น ตท.10 นี้จะมีการพบกันประมาณเดือนละ 2 ครั้ง โดยจะพบกันรอบพิเศษในช่วงของการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งบางครั้งที่มีการจัดงานรวม 3 เหล่าทัพและตำรวจก็จะมี พ.ต.ท.ทักษิณมาร่วมงานด้วย
โดยก่อนหน้าที่จะออกมาข่มขู่ประชาชน-ปกป้องระบอบทักษิณ เมื่อเดือน พ.ย. 2548 ก่อนหน้านี้ในปี 2544 ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีซุกหุ้น พล.ต.พฤณฑ์ ก็ยังเคยนำเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 เข้าให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์และที่ทำการพรรคไทยรักไทย มาแล้ว
การตบเท้าออกมาแสดงอำนาจบาทใหญ่ของ พล.ต.พฤณฑ์ นายทหารเพื่อนทักษิณ ครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปีหลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อปี 2535 สิ้นสุดลงและกองทัพไทยได้มีการจัดระเบียบใหม่หมดแล้ว
ทั้งนี้จากพฤติกรรมที่ผ่านมา และการประกาศตัวในวันนั้นก็เหมือนกับเป็นการตอกย้ำว่า พล.ต.พฤณฑ์ นั้นแท้จริงแล้วปฏิบัติตนเป็น 'ทหารพิทักษ์ระบอบทักษิณ' มิได้เป็น 'ทหารองครักษ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ' ตามตำแหน่งที่ได้รับ และตามที่ปากประกาศแต่อย่างใด
แล้วเหตุใดในการทำรัฐประหาร ยึดอำนาจทักษิณโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ผบ.พล.1 รอ. ผู้ซึ่งเคยลั่นไว้ว่าคุมกำลังอยู่ถึง 14,000 นาย รวมถึงทหารที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณและคุมกำลังอยู่ในกรุงเทพมหานครอย่าง พล.ต.ศานิต พรหมมาศ ผล.พล.ม.2 รอ. และ พล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี ผล.พล.ปตอ. จึงไม่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้กับการเข้ายึดอำนาจของกองกำลังที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. แต่อย่างใดเลย?
คำตอบก็คือ หลังมีสถานการณ์ทางการเมืองคุกรุ่นจนเกือบจะถึงจุดเดือด ประกอบกับการที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแทรกแซงการโยกย้ายนายทหารในกองทัพอย่างรุนแรง จนถึงกับทำให้มีนายทหารระดับรองปลัดกระทรวงกลาโหมออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม ชื่อของ พล.ต.พฤณฑ์ นั้นถือเป็นหนึ่งในนายทหารเบื้องหลังที่มีรายงานว่าพร้อมจะออกมาทำการเคลื่อนไหวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำการ "ปฏิวัติตัวเอง"
จนในที่สุดการโยกย้ายนายทหารระดับ "ผู้บังคับการกองพัน" อันเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2549 สองเดือนก่อนมีการยึดอำนาจ ก็กลายเป็นการทิ้งไพ่ใบสำคัญของ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. ที่ส่งผลในทางปฏิบัติคือ ตัดทอนกำลังของ ตท.10 กลุ่มภักดีต่อทักษิณไปจนแทบจะหมดสิ้น
สุดท้ายในช่วงค่ำของวันปฏิบัติการยึดอำนาจทักษิณ วันที่ 19 เดือน 9 ปี 49 พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต จึงต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการทหารบกพร้อมๆ กับเหล่ากุนซือของทักษิณทั้งหลาย
ทั้งนี้ในบรรดาทหาร ตท.10 ที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นประกอบไปด้วย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รองเสธ.ทหาร, พล.ท.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล แม่ทัพน้อยที่ 1, พล.ร.ท.วัลลภ เกิดผล รอง เสธ.ทร., พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสธ.ทอ., พล.อ.ท.สุเมธ โพธิ์มณี ผบ.อากาศโยธิน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1 รอ.
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินการรายการเมืองไทยรายสัปดาห์และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประกาศชนกับระบอบทักษิณอย่างเต็มตัวได้ราว 2 เดือนกว่าๆ และสถานการณ์ทางการเมืองกำลังคุกรุ่นจากการที่นายสนธิได้เปิดเผยเรื่องความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลออกมาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.พฤณฑ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) จึงได้ออกมาประกาศลั่นว่า ตนพร้อมจะเข้าพบนายสนธิที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยอ้างว่าเป็นการเรียกร้องไม่ให้นายสนธินำสถาบันเบื้องสูงมากล่าวโยงเป็นความขัดแย้งกับรัฐบาล
โดย พล.ต.พฤณฑ์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้นี้กล่าวว่า "ถ้าผมไม่ทำลูกน้องก็ไม่รัก" พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ขู่ด้วยว่า ในวันพุธที่ 16 พ.ย. ตนจะไปที่บ้านพระอาทิตย์พร้อมกับผู้บังคับหน่วยทหารรักษาพระองค์ทั้งหมด
ทว่าเมื่อถึงเวลา 10.00น. ของวันถัดมาตามเวลานัด ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลนั่งรอพบกับ พล.ต.พฤณฑ์อยู่ที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณผู้นี้กลับไม่ปรากฎตัวตามคำที่ลั่นไว้ เพียงแต่ส่งนายทหารนำหนังสือหัวตราครุฑ ที่ กห.0481.1/3307 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 เรื่อง ขอให้งดเว้นการกล่าวอ้างพาดพิงสถาบันเบื้องสูงมายื่นเท่านั้น
พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต หรือที่เพื่อนๆ ตท.10 เรียกในชื่อเล่นว่า "โอ๋" เกิด วันที่ 24 เม.ย. 2495 ชื่อในหนังสือทำเนียบรุ่นคือ พฤกษ์ สุวรรณทัต ระบุเลขประจำตัว 8435 เป็นบุตรของ พล.อ.ทวนทอง สุวรรณทัต อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นนายทหารที่มีความใกล้ชิดพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก
ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นนายพลคุม 1 ใน 3 กำลังพลหลักที่กุมยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถจะชี้เป็นชี้ตายความสำเร็จและความล้มเหลวของการปฏิวัติรัฐประหารได้นั้น พล.ต.พฤณฑ์ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, เสนาธิการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, รองผู้การกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, เสนาธิการกองพลที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, ผู้การกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11, ขึ้นเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 และมารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ในช่วงของการโยกย้ายปี 2546 สมัยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น ผบ.ทบ.
สำหรับเบื้องหลังการขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. ของ พล.ต.พฤณฑ์ นั้น 'เสธ.แดง' หรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบกเคยเปิดเผยไว้ว่า
"พล.ต.พฤณฑ์ ถือเป็นนายทหารที่ได้ดิบได้ดีเพราะการเมือง เนื่องจากเป็นรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตามปกติ พล.ต.พฤณฑ์ จะต้องขยับไปนั่งตำแหน่งรองแม่ทัพ โดย พล.ต.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จะมานั่งตำแหน่งดังกล่าวแต่ พล.ต.พฤณฑ์ ไม่ยอมขยับ และขออยู่ในตำแหน่งดังกล่าว เพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ"
ขณะที่คำบอกเล่าจากปากของนายทหาร ตท.10 ผู้หนึ่งระบุว่า ปัจจุบันพล.ต.พฤณฑ์ มีตำแหน่งเป็นกรรมการเตรียมทหารรุ่น 10 ซึ่งมี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ รองเสธ.ทหาร เป็นประธานรุ่น โดยทหารรุ่น ตท.10 นี้จะมีการพบกันประมาณเดือนละ 2 ครั้ง โดยจะพบกันรอบพิเศษในช่วงของการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งบางครั้งที่มีการจัดงานรวม 3 เหล่าทัพและตำรวจก็จะมี พ.ต.ท.ทักษิณมาร่วมงานด้วย
โดยก่อนหน้าที่จะออกมาข่มขู่ประชาชน-ปกป้องระบอบทักษิณ เมื่อเดือน พ.ย. 2548 ก่อนหน้านี้ในปี 2544 ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีซุกหุ้น พล.ต.พฤณฑ์ ก็ยังเคยนำเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 เข้าให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์และที่ทำการพรรคไทยรักไทย มาแล้ว
การตบเท้าออกมาแสดงอำนาจบาทใหญ่ของ พล.ต.พฤณฑ์ นายทหารเพื่อนทักษิณ ครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปีหลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อปี 2535 สิ้นสุดลงและกองทัพไทยได้มีการจัดระเบียบใหม่หมดแล้ว
ทั้งนี้จากพฤติกรรมที่ผ่านมา และการประกาศตัวในวันนั้นก็เหมือนกับเป็นการตอกย้ำว่า พล.ต.พฤณฑ์ นั้นแท้จริงแล้วปฏิบัติตนเป็น 'ทหารพิทักษ์ระบอบทักษิณ' มิได้เป็น 'ทหารองครักษ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ' ตามตำแหน่งที่ได้รับ และตามที่ปากประกาศแต่อย่างใด
แล้วเหตุใดในการทำรัฐประหาร ยึดอำนาจทักษิณโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ผบ.พล.1 รอ. ผู้ซึ่งเคยลั่นไว้ว่าคุมกำลังอยู่ถึง 14,000 นาย รวมถึงทหารที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณและคุมกำลังอยู่ในกรุงเทพมหานครอย่าง พล.ต.ศานิต พรหมมาศ ผล.พล.ม.2 รอ. และ พล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี ผล.พล.ปตอ. จึงไม่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้กับการเข้ายึดอำนาจของกองกำลังที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. แต่อย่างใดเลย?
คำตอบก็คือ หลังมีสถานการณ์ทางการเมืองคุกรุ่นจนเกือบจะถึงจุดเดือด ประกอบกับการที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแทรกแซงการโยกย้ายนายทหารในกองทัพอย่างรุนแรง จนถึงกับทำให้มีนายทหารระดับรองปลัดกระทรวงกลาโหมออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม ชื่อของ พล.ต.พฤณฑ์ นั้นถือเป็นหนึ่งในนายทหารเบื้องหลังที่มีรายงานว่าพร้อมจะออกมาทำการเคลื่อนไหวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำการ "ปฏิวัติตัวเอง"
จนในที่สุดการโยกย้ายนายทหารระดับ "ผู้บังคับการกองพัน" อันเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2549 สองเดือนก่อนมีการยึดอำนาจ ก็กลายเป็นการทิ้งไพ่ใบสำคัญของ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. ที่ส่งผลในทางปฏิบัติคือ ตัดทอนกำลังของ ตท.10 กลุ่มภักดีต่อทักษิณไปจนแทบจะหมดสิ้น
สุดท้ายในช่วงค่ำของวันปฏิบัติการยึดอำนาจทักษิณ วันที่ 19 เดือน 9 ปี 49 พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต จึงต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการทหารบกพร้อมๆ กับเหล่ากุนซือของทักษิณทั้งหลาย