“บิ๊กตุ้ย” โผล่โต้ข้อกล่าวหาทุจริตซื้อปืนใหญ่!!..อ้าง ทบ.จำเป็นต้องเสริมเขี้ยวเล็บ

“ชัยสิทธิ์” ยันไม่ทุจริตซื้อปืนใหญ่ 155 มม.ลั่นทำตามขั้นตอนผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเพียงคนเดียว ระบุ ทบ.มีความต้องการเสริมเขี้ยวเล็บ

พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการจัดซื้ออาวุธปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร จำนวน 6 กระบอก งบประมาณ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการของกองทัพบก เมื่อปี 2546 สมัยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ว่า เป็นโครงการที่เกิดขึ้นสมัยตนเป็น ผบ.ทบ.ซึ่งดำเนินการตามความต้องการของกองทัพ โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตนเพียงคนเดียว ทั้งนี้ เมื่อผ่านคณะกรรมการแล้วทุกอย่างน่าจะจบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอลงกรณ์ ระบุว่า เป็นโครงการที่เร่งรัดไม่ตรงตามกองทัพมีแผนพัฒนาอาวุธชนิดนี้ ระหว่างปี 2555-2557 พล.อ.ชัยสิทธิ์ ตอบว่า ทำไมกองทัพบกจะไม่มีความต้องการ ขณะนี้ประเทศมาเลเซียซื้อปืนใหญ่ชนิดนี้ไปจำนวน 8 กระบอก ซาอุดีอาระเบีย จำนวน 76 กระบอก ซึ่งปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตรนี้ มีความทันสมัย ติดตั้งในรถยนต์ได้ สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

“กองทัพบกมีการวิเคราะห์วิจัยผ่านทางยุทธการและคณะกรรมการแล้ว ว่า อาวุธชนิดนี้มีความทันสมัยที่สุด ไม่ใช่ผมมีอำนาจตัดสินใจ แล้วที่ผ่านมา กองทัพบกไม่เคยได้ซื้ออาวุธอะไรเลยในสมัยของนายกรัฐมนตรีคนนี้ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี) ทั้งนี้ บอกว่า ประเทศไทยอยากจะเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ต้องมีการเสริมเขี้ยวเล็บ ประเทศรอบบ้านเขามี แต่เราไม่มีจะเป็นที่หนึ่งได้อย่างไร” พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ.และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เคยทำหนังสือเพื่อขอชะลอโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีงบประมาณสูงและกองทัพยังไม่ต้องการ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ตอบว่า ชะลอโครงการได้อย่างไร ไม่ใช่ใครไปสั่งได้ว่าเอาหรือไม่เอา เพราะผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการ และเรื่องนี้ตนไม่เกี่ยวข้องพ้นสมัยตนไปแล้ว